โหมดอบิส หรือควอนตัมเอกพจน์ของเกม Honkai Impact 3 โหมดนี้สามารถทำให้เก็บคริสตัลได้จำนวนมาก ซึ่งเป็นโหมดทดสอบความสามารถของกัปตันก็ว่าได้เพราะว่าจะต้องสู้กับศัตรูจำนวนมากหลากหลายรูปแบบ หากกัปตันสามารถผ่านไปอยู่ในชั้นสูงๆ ความยากก็จะเพิ่มขึ้นตามมา บทความนี้จะช่วยเป็นแนวทางในการผ่านควอนตัมเอกพจน์ในสัปดาห์นี้มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
ควอนตัมเอกพจน์ – เรดโลตัส
สำหรับวาลคิเรียที่ได้รับเพิ่มความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 50% ได้แก่
Bright Knight: Excelsis (BKE) / Starlit Astrologis (SA) / Herrscher of the Void (GK) / Vermilion Knight: Eclipse (VK) / Valkyrie Gloria (VG) / Swallowtail Phantasm (SP) / Flame Sakitama (FS) / Azure Empyrea (AE) / Divine Prayer (DP)
ซึ่งวาลคิเรียทั้งหมด 9 ตัวดังกล่าวเป็นตัวที่เหมาะและแนะนำให้ใช้ในการลงควอนตัมเอกพจน์ในรอบนี้ เพราะบัพเพิ่มความเสียหาย 50% ทำให้สร้างความเสียหายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นเราควรจัดทีมโดยมีวาลคิเรียเหล่านี้อยู่ด้วยเพื่อใช้บัพของด่านให้เป็นประโยชน์ โดยทีมแนะนำสำหรับลงควอนตัมเอกพจน์ – เรดโลตัสจะมีแบ่งดังต่อไปนี้
ทีมสายดาเมจธาตุ
[วาลคิเรียคนที่ 1] Vermilion Knight: Eclipse (VK) / Flame Sakitama (FS) / Valkyrie Gloria (VG) เป็นตัวละครสายโจมตีธาตุที่ได้รับบัพดาเมจเพิ่มขึ้น 50% ในรอบนี้ ให้ใช้เป็นตัวดาเมจหลักของทีม ถ้าหากไม่ได้ทำของหรือไม่มีตัวละครเหล่านี้ก็สามารถใช้ตัวละครสายดาเมจธาตุตัวอื่นที่ผู้เล่นทำของเอาไว้มากสุดเป็นตัวดาเมจหลักแทนก็ได้เช่นกัน
[วาลคิเรียคนที่ 2] ให้เลือกเป็นสายซัพธาตุมา 1 คน เพื่อนำมาซัพให้กับวาลคิเรียคนแรกในทีมที่เลือกไว้ เช่น Wolf’s Dawn มีเกราะกันดาเมจธาตุ และเพิ่มดาเมจธาตุให้กับทั้งทีมเมื่อ Rank SS, Phoenix เมื่อทำการโจมตีคอมโบโดนศัตรูในขณะมีเกจไฟมากกว่า 2 ช่อง จะทำให้ตัวละครทั้งทีมสร้างความเสียหายธาตุเพิ่มขึ้น และเมื่อสลับตัวออกจากสนามในตอนยังมีเกจไฟอยู่มากกว่า 1 หรือ 3 ช่อง ก็จะทำให้ศัตรูได้รับความเสียหายธาตุเพิ่มขึ้นไปอีก, Azure Empyrea การโจมตีคอมโบหยิน (สีดำล้วน) จะทำให้ทั้งทีมสร้างความเสียหายธาตุแรงขึ้นแก่ศัตรูที่ถูกท่าคอมโบนี้โจมตีใส่ และการโจมตีคอมโบหยิน-หยาง (ผสมสีดำ-ขาว) จะให้ทำตัวละครบนสนามฟื้นฟู SP อย่างต่อเนื่อง
[วาลคิเรียคนที่ 3] ให้เลือกตัวละครมาอีก 1 คน ระหว่างสายซัพ กับสายดาเมจ (เลือกตัวที่เราทำของเอาไว้มากสุดจะช่วยทีมได้ดี) โดยวาลคิเรียสายธาตุอีกคนแนะนำให้เลือก Flame Sakitama (FS หรือยาเอะไฟ) ก็ได้ เพราะเป็นได้ทั้งสายซัพธาตุ และสายดาเมจธาตุเลยทีเดียว (สามารถเลือกเป็นตัวดาเมจธาตุคนอื่นแทนได้)
อาวุธและสติกม่าสำหรับ Vermilion Knight: Eclipse
เซ็ตอาวุธและสติกม่าที่แนะนำสำหรับ Vermilion Knight: Eclipse ดังนี้
[Set 1] อาวุธ Might of An-Utu หรือ Godslayer – Surtr สติกม่า Leeuwenhoek (บน ,ล่าง) Thales (กลาง) เป็นสติกม่าสำหรับสายดาเมจธาตุไฟที่สร้างความเสียหายได้ดีสุด
[Set 2] อาวุธ Cleaver of Shamash (ได้รับจากการผ่านด่าน Raid Co-op) สติกม่า Fu Hua Musician เป็นสติกม่าสายดาเมจกึ่งไปทางซัพ เมื่อสลับเพื่อนในทีมลงมาแทนจะได้บัพดาเมจเพิ่มขึ้น (แต่ละชิ้นผลิตจากคอร์ขาว 120 ชิ้น + ชิ้นส่วนฮงไก 50 ชิ้น)
อาวุธและสติกม่าสำหรับ Valkyrie Gloria
เซ็ตอาวุธและสติม่าที่แนะนำสำหรับ Valkyrie Gloria มีดังนี้
[Set 1] อาวุธประจำตัว Eos Gloria สติกม่า Leeuwenhoek (บน, ล่าง) Thales (กลาง) เป็นสติกม่าสำหรับสายดาเมจธาตุไฟที่สร้างความเสียหายได้ดีสุด
[Set 2] อาวุธ Lucia (ผลิตจากคอร์ดำ 150 ชิ้น) สติกม่า Fu Hua Musician เป็นสติกม่าสายดาเมจกึ่งไปทางซัพ เมื่อสลับเพื่อนในทีมลงมาแทนจะได้บัพดาเมจเพิ่มขึ้น (แต่ละชิ้นผลิตจากคอร์ขาว 120 ชิ้น + ชิ้นส่วนฮงไก 50 ชิ้น)
[Set 3] อาวุธ Plasma Lance (ผลิตจากชิ้นส่วนฮงไก 100 ชิ้น), สติกม่า Wang Zhaojun สติกม่าสำหรับสายดาเมจธาตุไฟ เหมาะสำหรับผู้เล่นเริ่มต้น (ผลิตจากชิ้นส่วนฮงไก 60 ชิ้น)
แนะนำอาวุธซัพดาเมจธาตุ
[ชิ้นที่ 1] อาวุธ Nebulous Duality สกิลใช้งานเพิ่ม SP 3 หน่วยต่อ 1 วินาที มีผลอยู่ 10 วินาที และเมื่อ Phoenix ใช้การโจมตีแบบ Combo ดาเมจรวมจะเพิ่มขึ้น 6% สามารถเก็บได้สูงสุด 3 ชั้น แต่ทีเด็ดของอาวุธนี้คือเมื่อผู้ใช้ออกจากสนามจะเพิ่มดาเมจรวมให้เพิ่มร่วมทีม 4% ต่อชาร์จที่ทำไว้ มีระยะเวลาอยู่ 15 วินาที
[ชิ้นที่ 2] อาวุธ Blood Dance สกิลอาวุธจะเหวี่ยงคลื่นพายุเลือดไปด้านหน้าทำให้ศัตรูที่โดนรับความเสียหายธาตุแรงขึ้น 60% นาน 9 วินาที แต่มีข้อเสียคือเป้าหมายจะคุ้มคลั่งวิ่ง-โจมตีเร็วขึ้น 2 เท่า
[ชิ้นที่ 3] อาวุธ Ruinous Sakura (ต้องใช้โดย Flame Sakitama เท่านั้น) สกิลอาวุธสามารถใช้งานได้ 2 ครั้ง โดยแต่ละครั้งจะแสดงผลไม่เหมือนกัน การใช้งานสกิลครั้งแรกจะทำให้ศัตรูที่ถูกโจมตีรับดาเมจธาตุไฟเพิ่มขึ้น 42% ดาเมจธาตุน้ำแข็ง และไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างละ 10%
[ชิ้นที่ 6] อาวุธ Judgment of Shamash สกิลอาวุธจะตีลังกาเตะลงพื้น ทำให้ศัตรูถูกลดความเร็วในการเคลื่อนที่ ความเร็วโจมตีจะลง 30% พร้อมทั้งได้รับความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 15% เป็นเวลา 15 วินาที และทุก 1 วินาที มีโอกาสทำให้ศัตรูในระยะของผู้สวมใส่อาวุธนี้ติดไฟ เพิ่มความเสียหายธาตุไฟที่ทำได้ให้กับศัตรูติดไฟเหล่านั้นเพิ่มขึ้น 18% เป็นเวลา 3.5 วินาที (อาวุธสามารถรับได้ฟรีจากการผ่านด่าน Raid Co-op)
แนะนำสติกม่าซัพดาเมจธาตุ (เซ็ต)
[Set 1] สติกม่า Jin Shengtan เป็นสติกม่าดีที่สุดในการซัพดาเมจธาตุ สกิลเซ็ต 2 ชิ้น เมื่อทำการโจมตีจะสร้างพื้นที่ Aura Blue Phoenix ขึ้นมาเป็นเวลา 6 วินาที เพื่อนร่วมทีมจะสร้างความเสียหายธาตุทุกธาตุเพิ่มขึ้น 30% + 15% (ผลของสติกม่าชิ้นบน) และเพิ่มความเสียหายธาตุน้ำแข็งให้กับตัวละครทั้งทีมขึ้น 15% เมื่อผู้สวมใส่สลับตัวออกจากสนาม (ผลของสติกม่าชิ้นกลาง) แถมยังทำให้ศัตรูในระยะรับความเสียหายธาตุทุกธาตุเพิ่มขึ้นอีก 10% สกิลเซ็ต 3 ชิ้น จะเพิ่มระยะเวลาของ Aura Blue Phoenix ขึ้นอีก 3 วินาที รวมเป็น 9 วินาที
[Set 2] สติกม่า Roald Amundsen เมื่อใส่ครบทั้ง 3 ชิ้น ทั้งทีมจะได้รับบัพดาเมจธาตุ ไฟ, สายฟ้า, น้ำแข็ง เพิ่มขึ้น 10% ไม่สามารถแสดงผลซ้อนทับได้ (สติกม่าแต่ละชิ้นผลิตจากชิ้นส่วนฮงไก 80 ชิ้น)
ทีมสายกายภาพ
[วาลคิเรียคนที่ 1] Swallowtail Phantasm, Bright Knight: Excelsis, Herrscher of the Void เป็นตัวละครสายโจมตีกายภาพที่ได้รับบัพดาเมจเพิ่มขึ้น 50% ในรอบนี้ ให้ใช้เป็นตัวดาเมจหลักของทีม ถ้าหากไม่ได้ทำของหรือไม่มีตัวละครเหล่านี้ก็สามารถใช้ตัวละครสายดาเมจกายภาพตัวอื่นที่ผู้เล่นทำของเอาไว้มากสุดเป็นตัวดาเมจหลักแทนก็ได้เช่นกัน
[วาลคิเรียคนที่ 2] ให้เลือกเป็นสายซัพกายภาพมา 1 คน เพื่อนำมาซัพให้กับวาลคิเรียคนแรกในทีมที่เลือกไว้ เช่น Drive Kometa มีเกราะป้องกันดาเมจกายภาพให้กับทั้งทีม การโจมตีปกติ 1 ครั้งแบบไม่ชาร์จจะทำให้ศัตรูติดสถานะอ่อนแรงโจมตีเบาลง โดนทำลายเกราะได้ง่ายขึ้น และยังช่วยให้การโจมตีกายภาพระยะประชิดของวาลคีเรียทั้งทีมแรงขึ้น อัตราคริเพิ่มขึ้น, Celestial Hymn การชาร์จโจมตี สกิล QTE สกิลท่าไม้ตาย สามารถสร้างดีบัพอ่อนแอลดพลังป้องกันของศัตรูลง ทำให้ตัวละครทั้งทีมสร้างความเสียหายคริแรงขึ้นกับศัตรูที่ติดสถานะอ่อนแอเหล่านั้น แถมยังช่วยเพิ่มความเสียหายกายภาพให้กับตัวละครทั้งทีมหลังทำการปักกางเขน (สกิลอาวุธ), Divine Prayer มีท่าไม้ตายฮิลได้ เมื่อไม่ได้อยู่ในสนามจะสุ่มสร้างดีบัพลดพลังป้องกันใส่ศัตรู, Starlit Astrologos สกิล QTE ช่วยเพิ่มโอกาสคริให้กับเพื่อนร่วมทีม อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความเสียหายกายภาพให้กับทั้งทีมขณะปล่อยท่าไม่ตายได้ แถมการใช้งานสกิล QTE, ท่าไม้ตาย ยังสามารถทำได้โดยไม่ต้องสลับตัวละครที่กำลังเล่นอยู่ออกจากสนามไปอีกด้วย
[วาลคิเรียคนที่ 3] ให้เลือกตัวละครมาอีก 1 คน ระหว่างสายซัพ กับสายดาเมจ (เลือกตัวที่เราทำของเอาไว้มากสุดจะช่วยทีมได้ดี)
อาวุธ และสติกม่าสำหรับ Swallowtail Phantasm
เซ็ตอาวุธและสติกม่าที่แนะนำสำหรับ Swallowtail Phantasm มีดังนี้
[Set 1] อาวุธประจำตัว Undine’s Tale สติกม่า Dirac เซ็ตสำหรับสายดาเมจกายภาพ Burst Mode ได้รุนแรงที่สุด เมื่อหลบการฌจมตีสำเร็จจะได้รับ SP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถใช้ท่าไม้ตายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
[Set 2] อาวุธ Onyx Iron (ผลิตจากคอร์ดำ 150 ชิ้น) สติกม่า Marco Polo (บน และล่าง), Ekaterina (กลาง) เป็นเซ็ตผสมที่มีดาเมจแรงไม่น้อยหน้าเซ็ตประจำตัวเลยทีเดียว (สติกม่า Marco Polo แต่ละชิ้นผลิตจากคอร์ขาว 130 ชิ้น, สติกม่า Ekaterina ผลิตจากวัตถุดิบในด่าน “ล่าค่าหัว”)
[Set 3] อาวุธ Azure Storm (ผลิตจากชิ้นส่วนฮงไก 80 ชิ้น) สติกม่า Ryunosuke Akutagawa เหมาะสำหรับสายดาเมจกายภาพเริ่มต้น สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ ควรมีติดคลังเอาไว้ใช้ได้ดี (สติกม่า Ryunosuke Akutagawa แต่ละชิ้นผลิตจากเหรียญ Co-op 2000 เหรียญ + ชิ้นส่วนฮงไก 40 ชิ้น)
อาวุธและสติกม่าสำหรับ Bright Knight: Excelsis
เซ็ตอาวุธและสติกม่าที่แนะนำสำหรับ Bright Knight: Excelsis ดังนี้
[Set 1] อาวุธประจำตัว Hler’s Serenity สติกม่าประจำตัว Dante เป็นเซ็ตประจำตัวที่ทำให้ดึงศักยภาพสูงสุดของเธอออกมาได้
[Set 2] อาวุธประจำตัว Hler’s Serenity สติกม่า Dirac เซ็ตสำหรับสายดาเมจกายภาพ Burst Mode ได้รุนแรงที่สุด เมื่อหลบการโจมตีสำเร็จจะได้รับ SP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถใช้ท่าไม้ตายได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
[Set 3] อาวุธ Lucia (ผลิตจากคอร์ดำ150 ชิ้น) สติกม่า Marco Polo (บน และล่าง), Ekaterina (กลาง) เป็นเซ็ตผสมที่มีดาเมจแรงไม่น้อยหน้าเซ็ตประจำตัวเลยทีเดียว (สติกม่า Marco Polo แต่ละชิ้นผลิตจากคอร์ขาว130 ชิ้น, สติกม่า Ekaterina ผลิตจากวัตถุดิบในด่าน “ล่าค่าหัว”)
[Set 4] อาวุธ Plasma Lance (ผลิตจากชิ้นส่วนฮงไก100 ชิ้น) สติกม่า Ryunosuke Akutagawa เหมาะสำหรับสายดาเมจกายภาพเริ่มต้น สามารถใช้ได้ทุกสถานการณ์ ควรมีติดคลังเอาไว้ใช้ได้ดี (สติกม่า Ryunosuke Akutagawa แต่ละชิ้นผลิตจากเหรียญ Co-op2000 เหรียญ + ชิ้นส่วนฮงไก 40 ชิ้น)
อาวุธและสติกม่าสำหรับ Herrscher of the Void
เซ็ตอาวุธและสติกม่าที่แนะนำสำหรับ Herrscher of the Void ดังนี้
[Set 1] อาวุธประจำตัว Domain of the Void หรือ Tranquil Arias สติกม่าประจำตัว Sirin – Ascendant เป็นเซ็ตประจำตัวที่ทำให้ดึงศักยภาพสูงสุดของเธอออกมาได้
[Set 2] อาวุธประจำตัว Domain of the Void หรือ Tranquil Arias สติกม่าประจำตัว Sirin – Ascendant (บน), สติกม่า Kafka (กลาง และล่าง) สามารถสร้างความเสียหายได้มากเหมือนกัน ถือเป็นเซ็ตทางเลือกสำหรับกัปตันที่ไม่สามารถหาสติกม่าประจำตัวครบเซ็ตให้เธอได้
แนะนำอาวุธซัพดาเมจกายภาพ
[ชิ้นที่ 1] อาวุธ Briareus EX สกิลอาวุธจะสร้างสนามพลังด้านหน้าตัวละคร ทำให้ศัตรูในระยะติด Time Lock ทั้งกลุ่มเป็นเวลา 6 วินาที และติดสถานะอ่อนแอ พลังป้องกันลดลง 65% อีกทั้งระยะเวลาของดีบัพอ่อนแออยู่นานถึง 10 วินาที ช่วยให้เราสามารถกำจัดศัตรูได้ง่ายขึ้นมาก
[ชิ้นที่ 2] อาวุธ Star Shatterer – Vikrant สกิลอาวุธจะต่อยพื้นสร้างอาณาเขตรอบตัวละคร ทำให้ความเร็วในการเคลื่อนที่ของศัตรูลดลง 50% และติดสถานะอ่อนแรง พลังโจมตีลดลง รวมถึงช่วยให้ทั้งทีมโจมตีใส่ศัตรูที่ติดสถานะอ่อนแรงเหล่านั้นแรงขึ้น 15% เป็นปืนอีกกระบอกไม่ควรมองข้ามได้
[ชิ้นที่ 3] อาวุธ Mjolnir สกิลอาวุธจะเรียกปืน Mjolnir ขนาดใหญ่ฟาดลงด้านหน้าพร้อมติดสถานะอ่อนแอให้กับศัตรูทุกตัวที่โดนการโจมตี พลังป้องกันลดลง 80% นาน 4 วินาที
[ชิ้นที่ 4] อาวุธ 11th Leitourgia สกิลอาวุธจะเป็นการปักกางเขนลงพื้น เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ใกล้ ๆ จะเพิ่มอัตราการติดคริขึ้น 20% เป็นเวลา 10 วินาที และทำให้อัตราฟื้นฟู SP ของตัวละครทั้งทีมเพิ่มมากขึ้น 10%
[ชิ้นที่ 5] อาวุธ Zither’s Lament สกิลอาวุธจะเป็นการปักกางเขนลงพื้น สร้างลมพายุขึ้นรอบ ๆ ศัตรูที่อยู่ในระยะจะถูกลดความเร็วการเคลื่อนลง 30% แต่ฝ่ายเราจะได้รับความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้น 25% พร้อมทั้งยังเพิ่มความเสียหายกายภาพให้กับตัวละครทั้งทีมขึ้น 15% เป็นเวลา 13 วินาที อีกด้วย
แนะนำสติกม่าซัพดาเมจกายภาพ (เซ็ต)
[Set 1] สติกม่า Gustav Klimt สกิลอาวุธช่วยให้เพื่อนร่วมทีมได้รับบัฟเพิ่มดาเมจกายภาพ 20% และเมื่อใส่ครบ 2 ชิ้น หลังใช้งานสกิลอาวุธจะปล่อย Blood soul curse ใส่ศัตรูในระยะ 6 เมตรรอบตัวผู้ใช้ ทำให้รับดาเมจกายภาพมากขึ้นอีก 10% เป็นเวลา 8 วินาที หากใส่ครบ 3 ชิ้น จะเพิ่มระยะเวลาของ Blood soul curse ขึ้นอีก 2 วินาที (นิยมใส่ 2 ชิ้น บน, กลาง แล้วเปลี่ยนสติกม่าชิ้นล่างเป็น Isacc Newton) จัดเป็นสติกม่ายอดนิยมที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน
[Set 2] สติกม่า Beethoven สติกม่าชิ้นกลาง ทำให้เพื่อนร่วมทีมสร้างดาเมจกายภาพระยะประชิดเพิ่มขึ้น 15% ขณะที่ตัวละครที่สวมใส่ปานนี้ออกจากสนาม และเพิ่ม SP ตัวละครขึ้นทันที 15 หน่วย ทุกครั้งที่สลับตัวลงมาในสนาม (มีระยะคลูดาวน์ 15 วินาที) สกิลเซ็ต 2 ชิ้น เมื่อผู้สวมใส่ใช้ท่าไม้ตายแล้วสลับตัวออกจากสนาม ตัวละครถัดไปที่ลงมาจะได้รับบัฟเพิ่มดาเมจกายภาพระยะประชิดเพิ่มขึ้น 40% เป็นเวลา 10 วินาที (นิยมใส่สติกม่าชิ้น กลาง แล้วเปลี่ยนสติกม่าชิ้นบนเป็น Tesla Band ,สติกม่าชิ้นล่างเป็น Isacc Newton)
[Set 3] สติกม่า Shuijing นับเป็นสติกม่ายอดเยี่ยมเป็นได้ทั้งสายซัพกายภาพ และดาเมจกายภาพในตัวเลยก็ว่าได้ สติกม่าชิ้นบนช่วยเพิ่มดาเมจกายภาพทั้งทีมขึ้น 8% เมื่อผู้ที่สวมใส่ปานนี้ QTE โดนศัตรูก็จะเพิ่มความเสียหายทั้งทีมขึ้นอีก 8% เป็นเวลา 8 วินาที หากใส่สติกม่าชิ้นล่างด้วยศัตรูที่โดนโจมตีด้วย QTE เข้าสู่สถานะ Censured สร้างความเสียหายให้กับตัวละครลดลง 12% พร้อมทั้งได้รับดาเมจกายภาพจากตัวละครเพิ่มขึ้น 18% เป็นเวลา 8 วินาที สกิลเซ็ต 2 ชิ้น จะเพิ่มระยะเวลาสถานะ Censured และผลของสกิลม่าชิ้นบนขึ้น 4 วินาที (นิยมใส่ 2 ชิ้น บน, ล่าง สำหรับนำมาซัพ) แถมสกิลเซ็ต 3 ชิ้น ยังช่วยบัฟให้ตัวละครบนสนามทั้งหมดในขณะที่ผู้สวมใส่สติกม่านี้ใช้ท่าไม้ตาย เพิ่มความเสียหายทั้งหมดขึ้น 20% เป็นเวลา 18 วินาที อีกด้วย(เหมาะสำหรับ Starlit Astrologos เป็นอย่างยิ่ง) ถือเป็นการบัฟ และดีบัฟมีผลเป็นเวลานานมากเลยทีเดียว
[Set 4] สติกม่า Theresa – Origins สกิลเซ็ต 3 ชิ้น การโจมตีปกติ ท่าคอมโบ และท่าชาร์จโจมตีของเพื่อนร่วมทีมจะสร้างดาเมจกายภาพเพิ่มขึ้น 15% เหมาะสำหรับผู้เล่นเริ่มต้น (สติกม่าแต่ละชนิดผลิตจากชิ้นส่วนฮงไก 80 ชิ้น)
แนะนำสติกม่าซัพดาเมจ (เดี่ยว)
[ชิ้นที่ 1] สติกม่า Isaac Newton (ล่าง) สติกม่ายอดนิยมที่ใช้กันมาอย่างยาวนาน และอาจได้ใช้กันตลอดไป ศัตรูที่โดนโจมตีจะติดสถานะท้าทาย รับความเสียหายทั้งหมดเพิ่มขึ้น 31% (โดนศัตรูได้เพียงตัวเดียว) ข้อเสียคือศัตรูโจมตีเราแรงขึ้น 41% ด้วยเช่นกัน แต่ถ้าหากเราใช้งานได้ถูกจังหวะจะสามารถจัดการศัตรูได้เร็วมาก
[ชิ้นที่ 2] สติกม่า Tesla Band (บน) เมื่อออกจากสนามรบเพื่อนร่วมทีมสร้างดาเมจกายภาพเพิ่มขึ้น 10% ไม่สามารถซ้อนทับได้
[ชิ้นที่ 3] สติกม่า Tesla Band (กลาง) เมื่อออกจากสนามรบเพื่อนร่วมทีมสร้างดาเมจธาตุไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 15% ไม่สามารถซ้อนทับได้
[ชิ้นที่ 4] สติกม่า Beethoven (กลาง) เมื่อผู้สวมใส่ไม่ได้อยู่ในสนาม เพิ่มความเสียหายกายภาพระยะประชิดให้กับเพื่อนร่วมทีมขึ้น 15% ไม่สามารถซ้อนทับได้
[ชิ้นที่ 5] สติกม่า Ogier (บน) เมื่อผู้ที่สวมใส่ไม่ได้อยู่ในสนาม เพิ่มความเสียหายธาตุทุกธาตุให้กับเพื่อนทั้งทีมขึ้น 7% (ผลิตจากชิ้นส่วนฮงไก 70 ชิ้น)
[ชิ้นที่ 6] สติกม่า Ogier (ล่าง) เมื่อผู้ที่สวมใส่ไม่ได้อยู่ในสนาม เพิ่มความเสียหายกายภาพให้กับเพื่อนทั้งทีมขึ้น 5% (ผลิตจากชิ้นส่วนฮงไก 70 ชิ้น)
หลังจากผ่านทั้งหมด 10 ชั้น กัปตันจะสามารถเข้าสู่ส่วนที่มีการแข่งขันเพื่อชิงอันดับว่าใครจะอยู่ใครจะตกอันดับไปในรอบนี้ มาดูกันว่าในสัปดาห์นี้บัพพื้นที่และบอสเป็นอย่างไรกัน
บัพในสัปดาห์นี้เป็น ”จุดปะทุ” บัพนี้จะทำดาเมจไฟจำนวนมากแก่ศัตรู และศัตรูรับความเสียหายไฟเพิ่มขึ้นถึง 70% พร้อมกับเข้าสู่สถานะ ”ติดไฟ” เป็นระยะเวลา 12 วินาที
บัพนี้มีผลอย่างมากในการช่วยเหลือในการผ่านไปใช้สูงๆ ได้ง่าย โดยการกดหลบการโจมตีของศัตรูเพื่อเก็บหลอดเกจสกิล เพื่อให้สามารถใช้งานสกิล ”จุดปะทุ” ได้เร็วมากขึ้น หากใครหลบการโจมตีศัตรูได้อย่างแม่นยำจะได้เปรียบในการเล่นอบิสในรอบนี้อย่างมาก
บอสในรอบนี้คือ Argent Knight: Artemis
บอสตัวนี้จะมีการต้านทานความเสียหายธาตุน้ำแข็งสูงมาก แต่จะอ่อนแอต่อความเสียหายธาตุไฟ เพราะฉะนั้นอย่างแรกคือต้องไม่เอาตัวละครสายดาเมจธาตุน้ำแข็งไปเป็นดาเมจหลัก ควรเน้นเอาตัวละครสายดาเมจธาตุไฟไปเป็นดาเมจหลักแทน และบอสตัวนี้จะมีหลอดเกจไฟอยู่ด้านบน หากเกจเต็มจะทำให้บอสรับความเสียหายธาตุไฟเพิ่มมากขึ้น วิธีเพิ่มหลอดเกจไฟคือผู้เล่นต้องใช้การโจมตี “ติดไฟ” ใส่บอส ตัวละครสายดาเมจแนะนำคนแรกคือ Vermilion Knight: Eclipse เป็นตัวละครสายดาเมจธาตุไฟไทป์จักรกลซึ่งชนะทางบอส การชาร์จโจมตี, สกิลQTE, ท่าไม้ตาย สามารถใช้เป็นการโจมตี “ติดไฟ” ได้ ตัวละครถัดไปคือ Flame Sakitama เป็นตัวละครสายดาเมจธาตุไฟไทป์ชีวภาพซึ่งเหมือนกันกับไทป์ของบอส การโจมตีคอบโบ, ท่าไม้ตาย ใช้เป็นการโจมตี “ติดไฟ” ได้ ตัวละครแนะนำคนสุดท้ายคือ Valkyrie Gloria เป็นตัวละครสายดาเมจธาตุไฟไทป์ควอมตัมซึ่งแพ้-ชนะทางไทป์ความตัมด้วยกันเอง การโจมตีปกติครั้งที่ 5, ชาร์จโจมตี (เมื่อมีเกจอย่างน้อย 1 ช่อง หรือ ค่า Resolve อย่างน้อย 240 หน่วย), ท่าไม้ตาย สามารถใช้เป็นการโจมตี “ติดไฟ” ได้ ตัวละคร 3 ตัวนี้คือตัวละครแนะนำสำหรับใช้สู้บอสในรอบนี้ ถ้าหากผู้เล่นไม่มีหรือไม่ได้ทำของให้ตัวละครแนะนำไว้ ก็สามารถใช้ตัวละครสายดาเมจอื่น ๆ ยกเว้นสายดาเมจธาตุน้ำแข็งก็ได้เช่นกัน
ตัวละครแนะนำในรอบนี้
Vermilion Knight: Eclipse
[Set 1] อาวุธ Might of An-Utu หรือ Godslayer – Surtr สติกม่า Leeuwenhoek (บน ,ล่าง) Thales (กลาง) เป็นสติกม่าสำหรับสายดาเมจธาตุไฟที่สร้างความเสียหายได้ดีสุด
[Set 2] อาวุธ Cleaver of Shamash (ได้รับจากการผ่านด่าน Raid Co-op) สติกม่า Jingwei (บน, กลาง), สติกม่า Fuxi (ล่าง) เป็นสติกม่าสายดาเมจธาตุไฟที่สร้างความเสียหายได้รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อต้องสู้กับศัตรูเพียงตัวเดียว (สติกม่า Jingwei แต่ละชิ้นผลิตจากคอร์ขาว90 ชิ้น, สติกม่า Fuxi ผลิตจากวัตถุดิบในด่าน “ล่าค่าหัว”)
Flame Sakitama
[Set 1] อาวุธประจำตัว Ruinous Sakura สติกม่า Leeuwenhoek (บน, ล่าง) Thales (กลาง) เป็นสติกม่าสำหรับสายดาเมจธาตุไฟที่สร้างความเสียหายได้ดีสุด
[Set 2] อาวุธ Jizo Mitama (ได้รับจากการผ่านด่าน Raid Co-op) สติกม่า Jingwei (บน, กลาง), สติกม่า Fuxi (ล่าง) เป็นสติกม่าสายดาเมจธาตุไฟที่สร้างความเสียหายได้รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อต้องสู้กับศัตรูเพียงตัวเดียว (สติกม่า Jingwei แต่ละชิ้นผลิตจากคอร์ขาว90 ชิ้น, สติกม่า Fuxi ผลิตจากวัตถุดิบในด่าน “ล่าค่าหัว”)
Valkyrie Gloria
[Set 1] อาวุธประจำตัว Eos Gloria สติกม่า Leeuwenhoek (บน, ล่าง) Thales (กลาง) เป็นสติกม่าสำหรับสายดาเมจธาตุไฟที่สร้างความเสียหายได้ดีสุด
[Set 2] อาวุธ Lucia (ผลิตจากคอร์ดำ150 ชิ้น) สติกม่า Jingwei (บน, กลาง), สติกม่า Fuxi (ล่าง) เป็นสติกม่าสายดาเมจธาตุไฟที่สร้างความเสียหายได้รุนแรง โดยเฉพาะเมื่อต้องสู้กับศัตรูเพียงตัวเดียว (สติกม่า Jingwei แต่ละชิ้นผลิตจากคอร์ขาว90 ชิ้น, สติกม่า Fuxi ผลิตจากวัตถุดิบในด่าน “ล่าค่าหัว”)
ข้อควรคำนึงถึงเสมอ
- ให้ใช้ตัวชนะไทป์ จักรกล (Mech) ชนะทาง ชีวภาพ (Bio) / ชีวภาพ (Bio) ชนะทาง พลังจิต (Phy) /พลังจิต (Phy) ชนะทาง จักรกล (Mech) ส่วนควอนตัม (Quantam) ไม่แพ้ไทป์ไหนเลยแต่จะแพ้ และชนะไทป์ควอนตัม (Quantam) ด้วยกันเอง หากไม่สามารถหาตัวชนะทางได้ให้ใช้วาลคิเรียแบบไทป์ชนไทป์แทน
- พยายามไปตีเป้าหมายที่โจมตีระยะไกลก่อน เช่นพวกเดธลี่ธนู, หุ่นยิงขีปนาวุธ เป็นต้น เพราะว่าพวกตัวที่ตีระยะใกล้จะเดินเข้ามาหาเราเอง
- พยายามโจมตีศัตรู 2 ตัวขึ้นไป ถ้าหากศัตรูมี “เส้นลิงค์” ระหว่างกันแนะนำให้ตีพร้อมกันได้จะทำดาเมจได้เยอะอย่างมาก
- พยายามหลบให้ถูกจังหวะบ่อยๆ เพื่อใช้บัพพื้นที่จะช่วยให้ผ่านได้ง่ายขึ้น
- หลังจากบัพพื้นที่ทำงานให้ใช้ท่าไม้ตายทำดาเมจในช่วง 12 วินาที จะสร้างดาเมจได้สูงขึ้นจากเดิมอย่างมาก
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH [-กลุ่มคนไทย-]