Lineage W อาชีพ ในเกมมีเยอะมาก ซึ่งผมว่าบางคนก็อาจกำลังเลอยู่ดีว่าจะเล่นเกมนี้ดีรึเปล่า แล้วมันก็ต้องตามมาด้วยคำถามที่ว่าแล้วเล่นอาชีพไรดีล่ะ? ในบทความนี้ผมเลยจะมาแนะนำเรื่อง “คลาสอาชีพภายในเกม” เรามาดูกันดีกว่าว่าตอนนี้มีกี่อาชีพ แล้วแต่ละอาชีพมีข้อดีข้อเสียยังไงกันบ้าง
Lineage W อาชีพ ทุกสายในเกม
สำหรับตัวเกม Lineage W ในปัจจุบันนั้นคลาสอาชีพที่เราเลือกเล่นได้จะมีอยู่ทั้งหมด 4 คลาสด้วยกันคือ Knight – อัศวิน, Mage – จอมเวท, Monarch – ราชา และ Elf – เอลฟ์ ซึ่งเราสามารถเลือกเล่นคลาสเหล่านี้ได้ตั้งแต่หน้าสร้างตัวละครเลย โดยในอนาคตทางตัวเกมก็มีแผนที่จะเพิ่มคลาสใหม่ๆ ตามเข้ามาอีกด้วย
โดยแต่ละคลาสตอนสร้างตัวครั้งแรกจะมีการจำกัดเพศตัวละครไว้อยู่ แต่พอเล่นเนื้อเรื่องปูทางมาสักพักทางตัวเกมจะเปิดให้เราเลือกเล่นเป็นได้ทั้งตัวชายและหญิง ดังนั้นใครอยากเล่นนักดาบหญิงหรือจอมเวทหนุ่มก็สามารถทำได้เช่นกัน (แต่เกมนี้ไม่มีให้ปรับเปลี่ยนใบหน้าหรือทรงผมนะ)
นอกจากนี้ถึงแม้ว่าแต่ละคลาสใน Lineage W จะมี “อาวุธหลัก” เป็นของตน แต่ถึงอย่างนั้นแต่ละอาชีพก็สามารถใส่อาวุธได้ทุกชนิดในเกมครับ เพียงแต่มันจะมีการเกี่ยวข้องเรื่อง “เงื่อนไขการใช้สกิล” เข้ามาเกี่ยวข้อง มันเลยทำให้หนึ่งอาชีพจึงเล่นได้หลายสายในระดับนึงเลย
แนะนำไปเล็กน้อยแล้ว ทีนี้เรามาดูแต่ละอาชีพกันเลยดีกว่า
คลาสสายอาชีพ Knight – อัศวิน
จุดเด่นของคลาส : เป็นตัวดาเมจแนวหน้าและตัวชนประจำเกม
แนวทางการอัปสเตตัส : STR – เพิ่มดาเมจระยะประชิด / CON – เพิ่มค่า HP
ตามชื่อคลาสเลยครับกับ Knight หรือ อัศวิน ที่จุดเด่นของคลาสก็คือการเข้าไปทำดาเมจในระยะประชิด พร้อมการเป็นตัวแทงค์ให้กับเพื่อนร่วมทีมของเราเองด้วย จึงทำให้สายนี้จะเน้นไปที่ค่า HP และพลังป้องกันสูงกว่าคลาสอื่นนั่นเอง
ไม่เพียงเท่านั้นคลาสนี้ยังมีสกิลหลายๆ อย่างที่ช่วยเพิ่มการเอาตัวรอดให้ตัวเองได้ดีขึ้นอย่างมากเลยด้วยไม่ว่าจะเป็น Mental Fortitude – การบัฟเกราะเพื่อเพิ่มพลังป้องกันให้ตนเอง, Counter Barrier – การเคาน์เตอร์แอทแท็คที่ใช้หลบการโจมตีของศัตรูแล้วฟาดกลับไป หรืออย่าง Dragon’s Roar – ทำการตะโกนเพื่อทำดาเมจใส่ศัตรูโดยรอบพร้อมโอกาสทำให้ติดสตันอีกด้วย
หลักๆ ส่วนใหญ่สกิลจะเน้นออกไปทางการเอาตัวรอดและยืนชนมากกว่าครับ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสกิลจำพวก CC กับทำดาเมจเพิ่มเข้ามาด้วย ใครที่ชอบวิ่งเข้าใส่ก็คงน่าจะชอบคลาสนี้กันล่ะ
ทางด้านระบบ PVP สายอัศวินนี้จะได้เปรียบพวก Elf พอสมควรเลย ด้วยว่าพลังป้องกันกายภาพที่สูงจึงทำให้เหล่านักธนูพวกนั้นยิงไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่นัก และพอยื้อให้เราเข้าถึงตัวเพื่อทำดาเมจจนปิดจ็อบได้นั่นเอง
แต่ในขณะเดียวกันคลาสนี้ก็ค่อนข้างจะแพ้ Mage อยู่ระดับนึงเลยเช่นกัน เพราะอย่างที่บอกครับพลังป้องกันกายภาพสูงมาก แต่พลังป้องกันเวทค่อนข้างน้อยเลย หากเจอนักเวทหนักๆ อาจได้ร่วงไปก่อนจะเข้าถึงตัวด้วยซํ้าไป แต่ถ้าสเต็ปพริ้วไหวดีพอก็หายห่วงได้
คลาสสายอาชีพ Mage – จอมเวท
จุดเด่นของคลาส : สายดาเมจระยะกลาง ที่มีจุดเด่นคือสกิลอันรุนแรงและ AOE วงกว้าง
แนวทางการอัปสเตตัส : INT – เพิ่มพลังโจมตีเวท / WIS – เพิ่มค่ามานาและอัตราการฟื้นฟู
ขึ้นชื่อว่าเป็นคลาสสาย Mage ยังไงก็ต้องวนอยู่กับดาเมจเวทอยู่แล้วครับ และแน่นอนสายนี้มีจุดเด่นคือการทำดาเมจเวทใส่ศัตรู ทั้งแบบเป้าหมายเดี่ยวหรือแบบ AOE เองก็ตามที แถมยังมีสกิลอื่นๆ ที่มีประโยชน์มากทีเดียว
ถึงแม้จะได้ขึ้นชื่อเป็นสายดาเมจแต่คลาส Mage ภายในเกมนี้กลับมีประโยชน์มากกว่านั้นนะ เพราะพวกเขาสามารถทั้งทำให้ศัตรูติดดีบัฟ, บัฟให้กับเพื่อนร่วมทีม หรือแม้แต่ฮีลให้เพื่อด้วยก็ได้เช่นกันเช่น Sunburst – จุดระเบิดใส่เป้าหมายเพื่อทำดาเมจอย่างแรง, Haste – เพิ่มความเร็วโจมตีและเคลื่อนที่ให้เป้าหมาย หรือแม้แต่ Heal – ฟื่นฟูพลังชีวิตให้กับเป้าหมาย หากใช้กับพวก Undead จะเป็นการทำดาเมจใส่แทน
อย่างที่บอกครับว่าคลาสนักเวทในเกมนี้ไม่ได้จำกัดอยู๋แค่เรื่องการทำดาเมจอย่างเดียว มันเลยทำให้คลาสนี้เล่นค่อนข้างสนุกพอตัวเลยล่ะแต่อาจมีน่ารำคาญบ้างก็คือเรื่อง “มานา” ไม่เคยพอเลย
อย่างที่แนะนำไปตอนต้นครับสายนี้ค่อนข้างได้เปรียบพวก Knight ทั้งหลาย เพราะคลาสนั้นเขาจะเด่นเรื่องพลังป้องกันกายภาพ แต่ด้านต้านทานเวทไม่ค่อยสูงเท่าไหร่นัก ทำให้ถ้าโดนเวทอัดใส่ไปเรื่อยๆ ก็สามารถร่วงได้ แถมเรายังใช้พวกสกิลดีบัฟหรือ CC ต่างเพื่อกันไม่ให้เข้าถึงตัวเราได้ด้วย
ส่วนอาชีพที่ควรต้องระวังเวลาเล่นนักเวทก็คือเหล่า Elf ครับ เนื่องด้วยคลาสนั้นจะมีระยะการโจมตีค่อนข้างไกล แถมการทำดาเมจเป้าหมายเดี่ยวๆ ยังหนักเอาเรื่องเลย เราจึงใช้ข้อได้เปรียบเรื่องระยะการโจมตีมาใช้ไม่ได้นั่นเอง
คลาสอาชีพ Monarch – ราชา
จุดเด่นของคลาส : สกิลส่วนใหญ่จะออกไปทางการสนับสนุนและเหมาะสำหรับสงคราม และเป็นเพียงอาชีพเดียวที่ยึดปราสาทได้
แนวทางการอัปสเตตัส : CON – เพิ่มค่า HP / STR – เพิ่มดาเมจระยะประชิด
สำหรับคลาส Moarch หรือ ราชา นี้ค่อนข้างเป็นคลาสที่มีเอกลักษณ์พิเศษเฉพาะตัวก็ว่าได้ เพราะนี่จะเป็นเพียงคลาสเดียวที่สามารถยึดครองปราสาทจากการวอร์ได้นั่นเอง ถ้าไม่นับเรื่องความพิเศษดังกล่าวคลาสนี้โดยรวมก็น่าจะเรียกว่าเป็นคลาสสาย “ซัพพอร์ต” ก็คงไม่ผิดนัก
สกิลของคลาสนี้ส่วนใหญ่จะออกไปทางการบัฟให้กับปาร์ตี้หรือไม่ก็สมาชิกกิลด์เสียมากกว่าเช่น Combat Aura – เพิ่มพลังโจมตีและความแม่นยำกายภาพให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ 18 ช่องรอบ, Infared Vision – เพิ่มขอบเขตการมองเห็นให้กับสมาชิกกิลด์ในระยะ 15 ช่อง หรืออย่าง Blood Pledge – เมื่อเปิดใช้งานสมาชิกกิลด์ในระยะ 15 ช่องจะไม่มีทางตายได้
โดยรวมก็จะออกไปทางสายซัพพอร์ตนั่นล่ะครับ ในบทบาทการฟาร์มมอนหรือลงดันอาจไม่โดดเด่นมากนัก แต่เวลาทำสงครามหรือวอร์นี่เป็นคลาสที่จำเป็นต้องมีอย่างมากเลยเพราะสกิลถือว่าโกงมากเลยล่ะอย่างไอสกิลกันตายเนี่ย
สำหรับคอนเทนต์ด้าน PVP คลาสนี้ค่อนข้างไปทางปานกลางมากกว่าครับ ไม่มีคลาสไหนที่แพ้หรือชนะเจาะจงเหมือนคลาสอื่นนัก ด้วยว่าคลาสนี้จะเน้นสเตตัสหลักไปทาง CON ที่เน้นเพิ่มพลังชีวิตมันเลยทำให้ตายค่อนข้างยาก แถมยังมีสกิลโจมตีหลายสกิลให้ใช้ต่อสู้ได้อีกด้วย ทำให้ถ้าจะตัดสินกันจริงๆ ต้องวัดที่ฝีมือกับไอเทมเท่านั้นเลย
คลาสอาชีพ Elf – เอลฟ์
จุดเด่นของคลาส : สายโจมตีที่มีระยะไกลสูงสุด พร้อมการทำดาเมจเป้าหมายเดี่ยวค่อนข้างแรง แถมยังใช้ธาตุได้ด้วย
แนวทางการอัปสเตตัส : Dex – เพิ่มดาเมจระยะไกลและอัตราคริติคอล
มาถึงคลาสยอดนิยมประจำเกมกันบ้างกับ Elf พลธนูประจำเกมของเรานั่นเอง โดยจุดเด่นของคลาสนี้คือระยะการโจมตีที่ไกลสุดในเกมแล้ว บวกด้วยพลังโจมตีเป้าหมายเดี่ยวก็นับว่าจัดจ้านมากทีเดียว แถมคลาสนี้ยังสามารถใช้ “ธาตุ” เข้ามาเสริมในการโจมตีได้ด้วยนะ
โดยสกิลหลักๆ ของเอลฟ์นี้ส่วนใหญ่ก็จะพุ่งเน้นไปที่การทำดาเมจหรือไม่ก็การเสริมค่าความสามารถในการโจมตีเสียมากกว่าอย่างเช่น Enhance Accuracy – เพิ่มความแม่นยำให้เป้าหมาย, Triple Arrow – ยิงลูกธนู 3 ดอกติดต่อกันใส่เป้าหมาย และ Burning Weapon – เสริมธาตุไฟเพื่อเพิ่มดาเมจให้กับอาวุธ
ถึงแม้จุดเด่นอยู่ที่การทำดาเมจระยะไกล แต่ในขณะเดียวกัน Elf เองก็มีหลายสกิลที่เงื่อนไขเป็นอาวุธระยะประชิดเองอยู่ด้วย ในบางครั้งเราจึงอาจพบเห็นคนเล่นคลาสนี้มักใช้มีดหรืออาวุธตีใกล้แทนได้ด้วยล่ะนะ
คลาสเอลฟ์นี้จะได้เปรียบอย่างมากหากต้องสู้กับพวกสายนักเวทอย่าง Mage ด้วยว่าระยะการโจมตีที่ไกลกว่า แถมยังมีสกิลอย่าง Area of Silence ทำการใบ้ใส่เป้าหมายในพื้นที่อยู่ เมื่อนักเวทไม่สามารถใช้สกิลได้ทีนี้ก็เป็นกระสอบทรายดีๆ นั่นแล่ะครับ
ส่วนสายที่ค่อนข้างแพ้ทางก็พวกตู้เย็นเดินได้อย่าง Knight ที่มีพลังป้องกันกายภาพหนาเอาเรื่อง ทำให้ลูกธนูมักยิงไม่ค่อยเข้าเท่าไหร่นัก ดังนั้นถ้าจำเป็นต้องตัวๆ กับสายชนพวกนี้อย่างน้อยก็ควรใช้ทักษะเดินหนีหรือหลอกล่อเข้ามาช่วยด้วย เพราะถ้าไม่ระวังจะโดนเข้าประชิดตัวแล้วโดนตีตายได้ง่ายๆ เลยนะ ยิ่งบางอยู่ด้วย
นอกจากทั้ง 4 คลาสที่ Lineage W ได้เปิดให้เล่นอยู่ในขณะนี้ ทางตัวเกมก็เคยได้แง้มถึงข้อมูลคลาสอันดับ 5 ที่เตรียมมีการอัปเดตตามมาในภายหลังอีกด้วย โดยคลาสดังกล่าวก็คือ Dark Elf – ดาร์กเอลฟ์ นั่นเอง ซึ่งข้อมูลอื่นๆ ก็ยังไม่มีการเปิดเผยไรมากนักแต่ถ้าให้อิงจากเนื้อเรื่องหรือคอนเซ็ปต์เกมในสองภาคก่อนหน้านี้ ค่อนข้างมีความเป็นไปได้สูงทีเดียวว่าคลาสนี้น่าจะเป็นสาย Assassin ไม่ก็สายจำพวกอาวุธสองมือ Dual Weilder ล่ะนะ (อันนี้เป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้นนะครับ เราต้องรอดูทางตัวเกมอัปเดตเข้ามาอีกทีนึง)
หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ กันไปไม่มากก็น้อยนะสำหรับ “แนะนำคลาสอาชีพ” จากเกม Lineage W นี้