Soul Tide หนึ่งในเกมมือถือที่พึ่งได้เปิดให้บริการไปเมื่อช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งจัดว่าเป็นหนึ่งในเกมที่มีภาพสวยน่าดึงดูดมากเลยทีเดียว โดยในวันนี้ผมเลยจะมา “รีวิว” ถึงตัวเกมดังกล่าวให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันมากขึ้นเผื่อเป็นทางเลือกว่าจะไปเล่นกันดีหรือไม่น่ะเอง
สู่แดนเขาวงกตเพื่อปราบเหล่าแม่มด
Soul Tide นั้นเป็นเกมมือถือรูปแบบ Turn-based RPG ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นโดยทาง IQI Games โดยภายในเกมนั้นตัวเราจะได้รับบทเป็นหัวหน้าทีมกับการพาเหล่าหุ่นเชิดสาวน้อยสุดน่ารักไปออกภารกิจในการสำรวจเราเขาวงกตปริศนาที่ปรากฏขึ้นมา พร้อมร่วมกำลังกันในการกำจัดเหล่ามอนสเตอร์ตลอดจนถึงเหล่าแม่มดผู้ชั่วร้ายให้สิ้นซากไปและหาทางะนำโลกใบเดิมกลับมาอีกครั้ง
ซึ่งล่าสุดตัวเกม Soul Tide นี้ก็ได้ถูกนำมาเปิดให้บริการในโซนบ้านเราเรียบร้อยเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมานี้โดยค่าย EAGLERAY INTERACTIVE แถมตัวเกมยังมาในรูปแบบ Free to Play อีกต่างหาก เพื่อนๆ คนไหนที่สนใจกับตัวเกมก็สามารถดาวน์โหลดมาเล่นกันได้ตั้งแต่วันนี้ครับ
เอาล่ะทีนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าตัวเกมมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง
เนื้อเรื่องเข้มข้นชวนติดตาม
ตัวเนื้อเรื่องของ Soul Tide นี้จะถูกเซ็ตอยู่ในโลกแนวแฟนตาซีที่เรื่องของเวทมนตร์นั้นกลายเป็นเรื่องปกติประจำวันนับว่าเป็นโลกแสนสงบสุขอีกใบนึงเลย จนกระทั่งวันหนึ่งมันได้เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่และทำให้เหล่ามอนสเตอร์มากมายรวมถึงแม่มดผู้ชั่วร้ายทั้งหลายเข้ามายึดครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกไว้ได้ ส่งผลให้พื้นที่หลายส่วนบนโลกนั้นกลายเป็นดินแดนอันตรายและมนุษย์ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
โดยตัวของผู้เล่นนั้นจะได้รับบทเป็นหัวหน้าทีมในการนำเหล่า “หุ่นเชิด” ที่มีลักษณะเป็นเหล่าสาวน้อยสุดน่ารักพร้อมความสามารถในการต่อสู้เหนือมนุษย์ พร้อมพาพวกเธอออกไปตลุยพิชิตเขาวงกตที่ผุดขึ้นมาตามสถานที่ต่างๆ พร้อมกำจัดมอนสเตอร์และเหล่าแม่มดร้ายทั้งหลายเพื่อทวงคืนโลกใบเดิมกลับมาน่ะเอง
ตัวเนื้อเรื่องมีการปูบทนำมาค่อนข้างน่าสนใจเลยครับ แถมยิ่งตามไปไกลมากเท่าไหร่ความเข้มข้นก็ยิ่งทวีคูณขึ้นมากเท่านั้น ใครเป็นสายเสพเนื้อเรื่องผมว่าเกมนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดีในระดับนึงเลยล่ะ
ระบบเกมการเล่นแบบสองสไตล์
ถึงแม้ตัวเกมจะมีการระบุไว้ชัดเจนว่าเป็นแนว Turn-based RPG แต่จริงๆ แล้วระบบการเล่นของตัวเกมถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนได้กันครับคือ 1.ระบบการสำรวจเขาวงกต และ 2.ระบบการต่อสู้ น่ะเอง
ระบบการสำรวจเขาวงกต – เกมเพล์ส่วนแรกนั้นมาในลักษณะเกมแนวเดินตามช่องไปเรื่อยๆ (คล้ายเกม JRPG สมัยก่อนเลย) ซึ่งบางช่องที่เราเดินไปนั้นก็จะมีพวกกับดักรอเล่นงานเราอยู่หรือบางจุดก็มีพวกปริศนาหรือพัซเซิลให้เราไปแก้ไขก่อนจึงไปต่อได้ รวมถึงช่องของศัตรูที่เมื่อเราไปเหยียบปุปตัวเกมก็จะเข้าสู่โหมดการเล่นของการต่อสู้โดยทันทีเลยน่ะเอง
โดยจุดมุ่งหมายของการเล่นแบบนี้คือเดินไปยัง “ทางออก” น่ะเองครับ ซึ่งเราสามารถเดินไปตรงๆ เลยก็ได้เมื่อเงื่อนไขการผ่านด่านครบ หรือจะเลือกสำรวจไปเรื่อยๆ เพื่อรวบรวมไอเทมหรือวัตถุดิบที่อยู่ตามแมพก็ได้เช่นกันครับผม
ระบบการต่อสู้ – ตามที่ระบุเลยครับระบบการต่อสู้นั้นจะมาในสไตล์ของแนว Turn-based ผลัดกันตีไปคนละเทิร์นโดยใครเปิดก่อนหรือหลังก็จะมีเรื่องของค่าความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยล่ะนะ ซึ่งระบบการต่อสู้นี้ก็ไม่มีอะไรซับซ้อนให้ปวดหัวเลยด้วยมีแค่ คำสั่งโจมตี, ค่าพลังชีวิต, ค่ามานา และตำแหน่งหน้า-หลัง ให้ต้องกังวลเท่านั้นเอง ไม่มีเงื่อนไขวุ่นวายเหมือนที่หลายเกมทำซึ่งก็นับว่าเป็นข้อดีอีกอย่างที่ทำให้ผู้เล่นหลายคนเข้าใจระบบการเล่นง่ายมากเลยทีเดียว
สำหรับเกมเพลย์นี้ตัวโหมดต่อสู้อาจไม่มีอะไรน่าสนใจเท่าไหร่ครับ น่าสนใจจริงคงเป็นตัวเขาวงกตนั่นล่ะเพราะพัซเซิลบางจุดมันก็ซับซ้อนซะจนหัวร้อนเลยก็มีล่ะนะแต่ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้สนุกมากทีเดียวเมื่อแก้มันได้น่ะ
เหล่าหุ่นเชิดสาวสวยให้ได้ไล่สะสม
มาถึงไฮไลท์เด็ดประจำเกมนี้กันแล้วนั่นคือเหล่า “หุ่นเชิด” หรือตัวละครเราใช้ในการลงสนามต่อสู้น่ะเอง โดยหุ่นเชิดภายในเกมนี้ก็จะมาในรูปแบบของสาวน้อยสุดน่ารักที่มาพร้อมความสามารถในการต่อสู้กับเหล่ามอนสเตอร์และแม่มดร้ายทั้งหลาย โดยสิ่งที่น่าสนใจสำหรับตัวละครในเกมนี้ก็จะมีอยู่ 2 อย่างเช่นกันครับคือ 1.ไม่มีระดับความหายาก และ 2.ระบบสกิลเซ็ต
ไม่มีระดับความหายาก – ต่างจากหลายเกมที่ตัวละครเมื่อเราสุ่มมาจะมี S, SR หรือ SSR ไว้แบ่งเทียร์ตามความหายาก แต่กับเกมนี้จะต่างออกไปเพราะไม่มีการแบ่งเกรดตัวละครน่ะเองทุกตัวละครจะเริ่มมาที่ 1 ดาวเสมอ ทำให้เมื่อตัดเรื่องระบบแรงค์ที่ว่าออกเราก็ต้องมาวัดด้านความสามารถและสกิลของน้องหุ่นแต่ละคนแทนน่ะเอง
ระบบสกิลเซ็ต – อีกหนึ่งความน่าสนใจต่อมาก็คือเรื่องของสกิลเซ็ต น้องหุ่นเชิดแต่ละคนนั้นจะมีสกิลเซ็ตให้เลือกได้ใช้ถึง 3 แบบ ซึ่งสกิลแต่ละเซ็ตนั้นก็จะมีจุดเด่นไม่เหมือนกันส่งผลให้หนึ่งตัวละครเราจะสามารถจัดได้ถึง 3 รูปแบบนั่นเองครับ เอาจริงๆ ระบบนี้มันส่งผลให้ตัวเกมมีความหลากหลายมากทีเดียวแถมยังใช้ปรับเปลี่ยนไปมาตามสถานการณ์ได้อีกด้วยน่ะเอง
นับว่าเป็นความแปลกใหม่ของเกมแนวเปิดกาชาหาตัวละครสมัยนี้เลยก็ว่าได้ครับทั้งการไม่มีแรงค์ความหายากหรือแม้แต่สกิลเซ็ตให้ปรับเปลี่ยนไปมาก็ตามที แต่ด้วยเหตุผลนี้แล่ะมันเลยทำให้ตัวเกมดูมีความลึกมากขึ้นแบบเห็นได้ชัดทีเดียว
คอนเทนต์หลากหลายให้ได้ทำกัน
อีกหนึ่งสิ่งอยากหยิบมาพูดถึงก็คือเรื่องของ “คอนเทนต์” ที่ภายในเกมเพื่อนๆ จะมีกิจกรรมอะไรหลายอย่างให้ได้ทำกันไปยาวๆ เลยล่ะ โดยผมจะลองหยิบยกตัวอย่างที่เราสามารถพบได้ในเกมมาอย่างเช่น:
ระบบเควสภารกิจ – รายการเควสต่างๆ ที่เราสามารถทำได้ทั้งเนื้อเรื่อง, ห่นเชิด, สำรวจ เป็นต้น
ระบบสานสัมพันธ์ – เหล่าน้องหุ่นเชิดภายในทีมเรานั้นสามารถเพิ่มค่าความสัมพันธ์ได้ ซึ่งจะช่วยปลดล็อกฟีเจอร์ต่างๆ ของน้องมาเช่น เนื้อเรื่องเสริม, บทพูดคุย หรือ เสียงพากย์ใหม่ๆ เป็นต้น
ด่านฝึกซ้อมและท้าทาย – ดันเจี้ยนรายวันสำหรับฟาร์มหาทรัพยากรและดันเจี้ยนที่เปรียบเสมือนหอคอยเพื่อปีนสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ระบบบ้าน – ในเกมนี้เราจะมีบ้านส่วนตัวให้สามารถตกแต่งภายในและพาเหล่าน้องหุ่นเชิดไปอยู่ได้ด้วย
เมืองหลัก – ฟีเจอร์ที่ให้เราสามารถเข้าไปสำรวจพื้นที่โซนต่างๆ ในเมืองได้ ซึ่งบางครั้งมันก็จะนำเราไปสู่เนื้อเรื่องหรือบทอีเวนต์ใหม่ๆ มาด้วยเช่นกัน
ภายในเกมยังมีคอนเทนต์อย่างอื่นรอให้เราเข้าไปสัมผัสกันอยู่ด้วย ถ้าเพื่อนๆ ชอบเกมที่มีอะไรให้ทำหลายอย่างก็ห้ามพลาดเกมนี้เลยล่ะ
สรุปแล้วเกมเป็นยังไงบ้าง
จากที่ไปลองเล่นเกมมาคร่าวๆ นั้นส่วนตัวมองว่านี่เป็นอีกหนึ่งเกมน่าสนใจดี ครับแต่อาจจะไม่ได้ตรงโจทย์กับผู้เล่นซะทุกคนหรอกนะเนื่องจากตัวเกมจะมีบรรยากาศค่อนข้างเฉพาะทางและระบบการเล่นที่ค่อนข้างดูเรื่อยๆ ไม่รีบไม่ร้อนเท่าไหร่ มันเลยอาจทำให้ไม่ถูกใจเหล่าเกมเมอร์สายสปีดหรือชอบเกมไวๆ เท่าไหร่นัก
แต่ถ้าคุณกำลังมองหาเกมภาพสวย มีสาวน้อยน่ารักๆ อยู่ภายในเกม มีระบบสานสัมพันธ์กับน้อง ชอบเนื้อเรื่องเข้มข้นและความสโลว์ไลฟ์นิดๆ เกมนี้ก็น่าจะถูกใจคุณอย่างแน่นอนเลย
ข้อดีของเกม
• ภาพสวยมากเอาคะแนนไปเต็มๆ เลยตรงนี้
• ตัวละครปรับได้ค่อนข้างหลากหลาย
• มีคอนเทนต์หลายอย่างให้ได้ทำค่อนข้างเยอะ
• เนื้อเรื่องเข้มข้นมากเหมาะสำหรับสายเสพเนื้อเรื่อง
ข้อเสียของเกม
• ตัวเกมโดยรวมค่อนข้างช้าและเอื่อยในระดับนึงเลย
• พัซเซิลเขาวงกตบางอันซับซ้อนยากซะจนหัวร้อนเลยก็มี
• ระบบการต่อสู้ดูเรียบง่ายเกินไปจนรู้สึกไม่น่าสนใจเท่าไหร่