การจัดทีม Aura ภายในเกม Valiant Force 2 สำหรับผู้เล่นที่ไม่คุ้นเคยระบบ Tactics RPG + การวางแผน อาจจะมีสับสนกันอยู่บ้างว่า จะต้องจำทีมอย่างไร หรือต้องวางตำแหน่งในของทีม เพราะในเกมนี้นอกจากจะต้องเลือกตัวละครที่จะนำลงทีมแล้วยังต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นด้วย เพื่อให้ได้เปรียบในการต่อสู้กับศัตรูในแต่ละด่าน ในบทความนี้จะมาแนะนำหลักเบื้องต้นสำหรับมือใหม่ในการจัดทีมกัน!
ข้อมูลเบื้องต้นของการเกิด Aura
ก่อนจะเข้าการจัดทีมสิ่งสำคัญอันดับแรกคือสัญลักษณ์หรือสกิลความสามารถของตัวละคร กับลูกศรออร่าของตัวละครที่จะนำมาเข้าร่วมทีมเสียก่อน เพราะหากเพียงวางตัวละครลงไปในช่องโดยไม่ได้จัดวางให้ตรงกับความสามารถของพวกตัวละครเลยก็จะกลายเป็นไร้ประโยชน์ไปในทันที
สัญลักษณ์
สามารถสังเกตได้บนมุมขวาบนของกรอบภาพตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์ทรงกลมจะมีสีต่างๆ ปรากฏอยู่ด้วย ซึ่งมันคือสัญลักษณ์ฉบับย่อที่เอาไว้บ่งบอกถึง “สกิลออร่า” ประจำของตัวละครนั้นนั่งเอง ตัวอย่างสมมติเช่น เมื่อตัวละครได้รับการฮิลจะทำให้สกิลออร่าทำงานทำให้ตัวละครที่มีการ “เชื่อมลิ้งก์ออร่า” ไว้โจมตี เป็นต้น
ซึ่งสัญลักษณ์จะมีสีบ่งบอกอยู่ด้วยเช่น รูปหัวใจ (ประเภทผลเกี่ยวกับการฮิล) จะเป็นสีเขียว, รูปดาบ (ประเภทผลเกี่ยวกับการโจมตี) จะเป็นสีเขียวมรกต. รูปลูกศรชี้ขึ้น (ประเภทผลเกี่ยวกับบัฟ) เป็นสีขาว, รูปลูกศรชี้ลง (ประเภทผลเกี่ยวกับดีบัฟ) เป็นสีดำ ทั้งสีประเภทนี้จะมีสีเดียวกันกับ “ลูกศรออร่า” (ส่วนที่เหลือยังไม่ปรากฏ)
ลูกศรออร่า
เป็นลูกศรที่จะใช้ในการกระจายออกร่าสกิลของตัวละครคนนั้นให้กับคนอื่นที่สามารถเชื่อมหากันได้ ซึ่งการจะเชื่อมออร่ากันนั้นจะต้องจัดวางให้ “ลูกศรชี้เข้าหาตัวละคร” และจะต้องมีสีของศรกับสัญลักษณ์ที่ต้องกันเท่านั้น จึงจะมี “เส้น” สีของออร่าเชื่อมเข้าหากัน
ยกตัวอย่างเช่น ตัวละคร A มีสัญลักษณ์สีขาว มีลูกศรออร่าสีเขียวชี้ไปด้านซ้าย, ด้านบน | ตัวละคร B มีสีญลักษณ์สีเขียว มีลูกศรออร่าสีดำชี้ไปด้านบน, ด้านขวา
เมื่อตัวละคร A ที่มีลูกศรออร่าสีเขียวไปวางให้ลูกศรชื่อเข้าหาตัวละคร B ที่มีสัญลักษณ์สีเขียวอยู่ เส้นของออร่าจะลิ้งก์เชื่อมกันเป็นเส้นสีเขียวทันที แต่ในขณะเดียวกันศรออร่าของ B ที่หันมาหาตัวละคร A จะมีแค่เรื่องแสงแต่ไม่มีการเชื่อมลิ้งก์เส้นหากัน เพราะลูกศรของ B เป็นสีดำ แต่ของ A นั่นเป็นสีขาวนั่นเอง
เส้นออร่าที่เชื่อมกันหากมีหลายทางก็จะทำให้ส่งผลถึงกันได้ยิ่งเชนออร่ากันเยอะเท่าไหร่ ก็จะมีเกจมากเพียงพอสำหรับใช้การ์ดออรอนอีกด้วยนั่นเอง แถมยังทำให้ตัวละครสามารถใช้สกิลออร่ากันได้ต่อเนื่องมากขึ้นเป็นผลดีในการต่อสู้กับศัตรูในด่านต่างๆ หรือแม้แต่การต่อสู้ในอารีน่าเองก็ตาม
2. Trigger
หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ มันคือการคอมโบ มันจะเกิดขึ้นก็ต้องเมื่อสกิลออร่าของตัวละครตัวนั้นทำงานด้วยเงื่อนไขที่ถูกต้อง หาตัวละครที่เกิดการ “Trigger” ทำให้สกิลออร่าทำงานได้สำเร็จ “ตัวละครที่มีลูกศรลิ้งก์เชื่อมกันทั้งหมด” จะเกิดผลเอฟเฟกต์ของสกิลในทันที เช่น A ได้รับผลฮิลจะทำให้ B, C, D ที่เชื่อมลิ้งก์ออร่าถึง A ก็จะได้รับผลสกิลนั้นทันที
ยิ่งทำ “Trigger” ได้เยอะ ยิ่งได้เปรียบในการต่อสู้ เพื่อนๆ สามารถกดดูลิ้งก์คอมโบของทีมได้ในหน้าจัดทีมตัวละคร มันจะบางว่าการเชื่อมลิ้งก์ออร่าในสายไหนที่จะส่งผลสกิลถึงกันบ้าง และจะเพิ่มขึ้นกี่เปอร์เซ็นต์
3. การจัดทีม
เมื่อรู้ข้อมุลเบื้องต้นของทั้ง 3 อย่างแล้วต่อไปก็คือการจัดทีมกันจริงๆ สิ่งที่ควรเลือกไม่ใช่เพียงแค่ตัวละคร แต่ยังรวมถึงการเชื่อมโยงออร่าเพื่อแสดงผลเอฟเฟกต์ของสกิลออร่าออกมาอีกด้วย เพราะแต่ละคนเองก็มี “ลูกศรออร่า” ที่ต่างกัน ต้องจับมาเชื่อมผสมผสานกันให้ลงตัว
สำหรับตัวละครภายในทีมควรจะมี Guardian ในทีม 1 คนสำหรับการรับดาเมจให้ทีมเวลาเจอศัตรู, Champion, Mystic, Shadow หรือ Ranger 1-2 คน เพื่อเป็นดาเมจหลักของทีม ควรเลือกดาเมจทีมเป็นกายภาพ 1 คน กับสายเวท 1 คน, Healer คลาสสำคัญของทีมที่ขาดไม่ได้ควรมีตัวละครที่เป็นสายฮิลอย่างน้อย 1 คน ในทีม
ส่วนคนสุดท้ายของทีมเป็นตัวฟรีว่าจะเลือกดาเมจเพิ่มอีกคน หรือจะเลือกซัพสายบัฟให้กับทีมเพิ่มอีกคนนึง หลังจากนั้นให้เชคสกิลออร่าของแต่ละคนที่จะสามารถมีความเกี่ยวข้องกันทำให้ “Trigger” ทำงานได้ พยายามเชื่อมลิ้งก์สีให้ได้เยอะที่สุด
ในช่วงแรกอาจจะมีความงงๆ และสับสนกันอยู่บ้าง แต่ถ้าหากเริ่มเข้าใจระบบการจัดทีมนี้แล้วจะกลายเป็นเรื่องที่ไม่ยากอีกต่อไป เหลือเพียงจัดตำแหน่งและเลือกตัวละครสกิลออร่าที่สอดคร้องกันกับทีมก็เพียงพอ เพราะเพื่อนๆ จะไม่สามารถเลือกได้เพียงตัวท็อปเทียร์เพียงอย่างเดียว หากมีตัวเก่งแต่ไม่สามารถใช้การเชื่อมลิ้งก์ออร่ากันได้ก็จะกลายเป็นทีมที่ไม่มีประสิทธิภาพไปเลย
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! หากอยากอ่านบทความอื่นๆ เกี่ยวกับเกม Valiant Force 2 สามารถอ่านได้ที่ลิงก์ >>Link<< ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่