สำหรับเกม The Eminence in Shadow: Master of Garden หัวข้อที่ผมจะนำมาพูดถึงในวันนี้ก็คือ “เทคนิคสำหรับมือใหม่” ครับผม เพราะถึงแม้ตัวเกมจะเป็นเกมมือถือ RPG ที่ระบบหลายอย่างคล้ายกับเกมอื่นๆ อยู่แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีบางจุดที่แตกต่างจากเกมพวกนั้นพอสมควรเลย ทำให้หลายคนอาจเอาโลจิคจากเกมเหล่านั้นมาใช้ในเกมนี้ไม่ได้ ผมจึงจะมาแนะนำเทคนิคบางอย่างเพื่อให้การเล่นในเกมนี้ได้ง่ายขึ้นน่ะเองครับ
1.โฟกัสการทำ Beginner Quest ก่อนเป็นอันดับแรกเลย
สำหรับผู้เล่นใหม่ทุกคนที่เมื่อเข้าเกมมาแล้วได้ผ่าน Tutorial ต่างๆ จนเข้ามาสู่หน้าล็อบบี้แล้วทุกคนก็จะได้รับเควสพิเศษที่เรียกว่า Beginner Quest หรือ “ภารกิจมือใหม่” มาให้ไล่ทำกันครับ ซึ่งเทคนิคแรกที่อยากจะแนะนำก็คือให้โฟสกับการทำภารกิจมือใหม่อันนี้ก่อนเป็นอันดับแรกเลย
เหตุผลที่ให้โฟกัสการทำเควสภารมือใหม่นี้เป็นเพราะ “ของรางวัล” น่ะเองครับ การทำภารกิจนี้จะได้ของรางวัลที่ค่อนข้างดีเลยซึ่งส่วนมากก็จะเป็นเพรชที่ให้เราเอาไปสุ่มกาชาหรือถ้าทำครบหมดทุกอันก็ยังจะได้ตัวของ Rose Oriana ระดับ SS มาใช้ฟรีอีกต่างหาก แถมยังมีบัตรเลือกตัว SS แจกมาให้อีกด้วย
ของรางวัลพวกนี้เป็นอะไรที่ดีมากสำหรับมือใหม่ทั้งหลายเพราะมันจะทำให้เราตั้งตัวได้ค่อนข้างไวและทำให้ลุยคอนเทนต์ยากๆ ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นช่วงแรกก็ให้โฟกัสการทำ Beginner Quest ไปก่อนเลยครับทำควบคู่กับการเล่น Main Story ไปด้วยก็ได้เพราะมันมักมาคู่กันตลอดเสมอ
2.เวลาใช้ COMBO อย่ากดมั่ว เลือกใช้ให้เหมาะกับสถานการณ์
ในระหว่างตัวละครของเราต่อสู้อยู่นั้นเราจะสามารถทำได้เพียง 2 อย่างเท่านั้นคือ 1.กดใช้ท่าไม้ตาย และ 2.เปิดใช้ระบบ COMBO ซึ่งเทคนิคอันดับต่อไปก็จะอยู่ในหัวข้อที่สองหรือระบบคอมโบนั่นล่ะครับ โดยสิ่งที่อยากแนะนำก็คือ “เวลาใช้ COMBO อย่ากดมั่ว ให้เลือกใช้ตามสถานการณ์” เพราะระบบนี้อาจเป็นไพ่ตายที่เราเอาไว้ใช้พลิกเกมกลับมาชนะได้เลยล่ะ
โดยเวลาเราเปิดใช้งานระบบ COMBO ตัวเกมก็จะมีการเลือกความสามารถของตัวละครในทีมเราออกมาใช้ได้ขึ้นอยู่กับคลาสอาชีพของตัวละครเอง ซึ่งความสำคัญมันอยู่ที่การ “เรียงลำดับคอมโบ” น่ะเอง คอมโบที่เลือกใช้ก่อนเป็นอันดับแรกจะมีผลเอฟเฟกต์ค่อนข้างน้อย ในขณะที่คอมโบปิดท้ายอาจส่งผลเอฟเฟกต์ให้สูงขึ้นได้กว่า 10 – 20 เท่าเลยล่ะ
อย่างเช่นถ้าเลือกคอมโบของสายดาเมจถ้าใช้เปิดตอนแรกก็อาจทำดาเมจได้เพียงแค่ 75% แต่ถ้าเกิดเลี้ยงไปจนคอมโบสุดท้ายก็ทำได้สูงถึง 1,500% เลยทีเดียว ซึ่งเอฟเฟกต์นี้ยังมีผลกับพวกสกิลฮีลของสายซัพพอร์ต หรือสกิลลดดาเมจของสายแทงค์เองด้วย การเรียงลำดับคอมโบจึงสำคัญอย่างมากและใช้เป็นไพ่ตายพลิกเกมได้เลยล่ะดังนั้นอย่ากดมั่วอย่างเด็ดขาด
3.พยายามจัดทีมให้ครบทุกคลาส
ตามที่ได้อธิบายไปส่วนนึงในหมวดของคอมโบครับเกี่ยวกับเรื่องของ “คลาสอาชีพ” ภายในเกมนี้ตัวละครทุกตัวจะมีคลาสกำกับมาให้อยู่ซึ่งมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 คลาสคือ Tank, Attacker และ Supporter น่ะเอง ส่วนเทคนิคที่อยากจะแนะนำในส่วนนี้ก็คือ “พยายามจัดทีมให้ครบทุกคลาส” นั่นเอง
โดยการจัดทีมที่ผมได้บ่อยก็จะประกอบด้วย:
• 3 x Attacker + 1 x Tank + 1 Support
• 2 x Attacker + 1 x Tank + 2 Support
• 1 x Attacker + 2 x Tank + 2 Support
ซึ่งเหตุผลที่เราควรมีทุกคลาสก็เพราะแต่ละอาชีพจะมีจุดเด่นเฉพาะตัวพอสมควรเลยครับ Attacker – สายทำดาเมจหลัก, Tank – สายชนรับดาเมจให้เพื่อน และ Suppoter – บัฟหรือฮีลให้เพื่อน ทำให้เวลาขาดสายใดสายหนึ่งไปมันจะทำให้เราเล่นยากมากทีเดียว ยกเว้นกรณีลงพวกดันพิเศษหรืออีเวนต์ต่างๆ ที่เราจัดทีมแหวกแนวอย่าง 5 x Attacker ไปได้ เอาเป็นว่ายังไงก็พยายามจัดทีมให้ครบทุกคลาสทุกสายไว้จะดีมากครับเพราะมันทำให้เราเล่นง่ายขึ้นแบบเห็นชัดมากทีเดียว
4.จัดทีมธาตุเดียวกันเวิร์คกว่าการจัดทีมหลายธาตุ
ลำดับถัดมาก็ยังคงอยู่ในเรื่องของการจัดทีมอยู่ครับ แต่ส่วนที่เราจะมาพูดถึงนั้นจะเป็นเรื่องของ “ระบบธาตุ” ที่ภายในเกมนี้จะแตกต่างจากเกมอื่นพอสมควรเลย ไม่ว่าจะระบบธาตุในเกมนี้ที่มาในลักษณะของ “สี” แทน หรือแม้แต่การ “จัดทีมธาตุเดียวกันเวิร์คกว่าการจัดทีมหลายธาตุ” เองก็ตามที
ซึ่งถ้าเป็นในเกม RPG อื่นๆ แล้วการเอาตัวละครธาตุเดียวกันมาใช้มันจะค่อนข้างเป็นอะไรที่แย่มากเลยล่ะ แต่กับเกมนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นครับโดยเหตุผลก็มาจาก “สกิลของตัวละคร” ที่ในเกมนี้หลายๆ ตัวละครจะมีสกิลบัฟพิเศษทำงานก็ต่อเมื่อมีธาตุตรงตามกำหนด อย่างสกิลนี้จะทำงานเฉพาะตัวธาตุสีเหลือง, แดง หรือ ฟ้า มันเลยกลายเป็นว่าเราต้องจัดเซ็ตทีมที่มีสีเดียวกันเพื่อให้บัฟพวกนั้นทำงานและดึงเอาความสามารถออกมาแบบ 100% น่ะเอง
นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมการจัดทีมที่มีธาตุเดียวกันจึงค่อนข้างเวิร์คกว่าการเล่นทีมผสมธาตุน่ะเองครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เล่นเซ็ตธาตุเดียวกันได้ทุกด่านนะเพราะบางด่านการเล่นแบบผสมธาตุก็ดูเวิร์คกว่ามากเลยล่ะนะ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับตัวละครที่เรามีแล้วตัวด่านนั่นล่ะครับ
5.ไล่เก็บเควสและดันเจี้ยนแต่ละวันให้ครบ
คอนเทนต์หลักภายในเกมนี้จะเป็นการลุยเนื้อเรื่องซะเป็นส่วนใหญ่นั่นล่ะครับ แต่ถึงอย่างนั้นนั่นก็ไม่ได้หมายความว่าจะมีภารกิจให้เราทำเพียงอย่างเดียวซะหน่อย เพราะในเกมเองยังมีคอนเทนต์อื่นๆ อยู่ด้วยทั้ง เควสรายวัน, ดันเจี้ยนทรัพยากร, อารีน่า PVP ไปจนถึงพวกอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งพวกนี้ทั้งหมดถ้าเป็นไปได้ก็ควร “เคลียร์คอนเทนต์ให้ครบทุกวัน“ ครับ
โดยตรงนี้ถ้าเพื่อนๆ ไม่มีค่อยมีเวลาเล่นเท่าไหร่ก็อาจให้จัดเรียงลำดับความสำคัญว่าควรทำอันไหนก่อนไว้ก็ดีครับ แต่คอนเทนต์ที่ถ้าเป็นไปได้อยากให้ทำทุกวันเลยคือตัว Daily Quest หรือ “เควสรายวัน” เพราะเราจะได้ของมาใช้ทุกวันแถมมีเพชรมาสะสมไว้เปิดกาชาตอนหลังด้วย นอกจากนี้การทำเควสรายวันยังมีการสแต็ครวมไปทบกับ Weekly Quest หรือ “เควสรายวัน” อีกต่างหาก
เอาเป็นว่ายังไงพยายามไล่เคลียร์คอนเทนต์ทุกวันไว้ก็ดีครับ เพราะของหลายๆ อย่างเราต้องพึ่งคอนเทนต์พวกนี้เป็นหลักถ้าเกิดไม่ลงเลยก็คงไม่มีของมาอัปเกรดและทำให้เราลุยด่านที่ยากขึ้นไม่ไหวล่ะนะ
6.คอยหาของสวมใส่มาเพื่อเลื่อนแรงค์ตัวละครเรา
สำหรับการเพิ่มความแข็งแกร่งตัวละครเราในเกมนี้ก็ทำได้หลายอย่างเลยครับทั้ง อัปเลเวล, การ Awakend, การเลื่อนระดับความหายาก แต่มีอยู่หนึ่งระบบที่ดูภายนอกมันก็เหมือนกับเกมอื่นคือ “ระบบอุปกรณ์สวมใส่” แต่เอาเข้าจริงระบบนี้มันก็ไม่ใช่ระบบอะไรที่เราคุ้นเคยกันเลยเนี่ยสิ
โดยอุปกรณ์สวมใส่นั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 6 ส่วนด้วยกันคือ อาวุธ, โล่, เกราะ, หมวก, กำไล และ สร้อยคอ ซึ่งการใส่ของแต่ละอย่างมันก็จะมีการเพิ่มค่าสเตตัสให้เหมือนกับเกมอื่นนั่นล่ะครับ เพียงแต่ว่าเวลาเราทำการใส่ครบทุกช่องเราจะสามารถเปิดใช้ระบบ Increase Rank หรือ “เลื่อนขั้นแรงค์” ให้ตัวละครเราได้ ซึ่งพอเลื่อนขั้นปุปตัวละครเราก็จะได้สเตตัสเพิ่มขึ้นพร้อมด้วยการปลดล็อก “สกิลใหม่” มาให้ใช้งาน เป็นเหมือนระบบการเพิ่มดาวในเกมอื่นๆ ก็ว่าได้ครับแต่แปลกตรงที่มาในสไตล์ของสวมใส่แทนนี่ล่ะ
แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นนะ เพราะทั้ง 6 ช่องจะมีการกำหนดมาเลยว่าต้องใส่ของชิ้นไหนระดับไหนบ้าง ยิ่ง Rank ตัวละครเราสูงขึ้นระดับของไอเทมที่ใส่ได้ก็ยิ่งสูงขึ้นตาม ไม่เหมือนเกมอื่นๆ ที่ถ้าเป็นของประเภทเดียวกันก็ยัดๆ ใส่ๆ ไปได้เลย แถมเอาเข้าจริงระบบของสวมใส่หรือ Rank เนี่ยมีความสำคัญมากกว่าเลเวลตัวละครด้วยซํ้าไปล่ะนะ เอาเป็นว่ายังไงก็อย่าลืมหาของมาเพิ่มแรงค์กันล่ะ
7.1 on 1 time กิจกรรมสุดแสนดีงามที่ไม่ควรพลาด
เทคนิคสุดท้ายที่อยากจะแนะนำนั้นเป็นในส่วนของคอนเทนต์ “1 on 1 time” หรือตัวกิจกรรมที่เราให้ไปคุยกับเหล่าตัวละครเพื่อเพิ่มระดับความสัมพันธ์นั่นเองครับ ซึ่งนอกจากนี่จะเป็นคอนเทนต์แนวแฟนเซอร์วิสแล้วมันยังเป็นอะไรที่สำคัญอย่างมากและควรทำเสมอๆ เลยด้วย
โดยระดับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นแต่ละครั้งนั้นเราก็จะได้ของรางวัลกลับมาเสมอครับ ไม่ว่าจะเป็นตัว เพชร, บทสนทาพิเศษ, เนื้อเรื่องเพิ่มเติม, ฉากหน้าล็อบบี้อันใหม่ หรือแม้แต่ในส่วนของ “สเตติมเพิ่มเติม” ของตัวละครเองด้วย มันเลยกลายเป็นว่าคอนเทนต์ที่ว่านี้มีความสำคัญมากกว่าแค่การจีบ NPC น่ะเอง
ซึ่งตรงนี้เพื่อนๆ ก็ต้องมาเลือกแล้วล่ะว่าจะใช้ระบบ 1 on 1 time กับคนไหน จะเพิ่มค่าความสัมพันธ์กับตัวที่เราอวยเพื่อบทสนาทหรือฉากพิเศษ หรือจะเอาไปใช้เพื่อเพิ่มเสตตัสให้กับตัวแบกประจำทีมของเรา ตรงนี้ก็คงต้องไปนั่งคิดกันให้ดีแล้วล่ะนะ