Templar คืออาชีพอะไร?
Templar คือ หัวหน้าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ผู้ก่อตั้งกิลด์(Guild) มีหน้าที่ในการสร้างหอคอยกิลด์ เพื่อเปิดวาร์ปไปพื้นที่กิลด์(Guild Hangout) ที่เราสามารถทำการปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ หรือแม้แต่เปิดอีเว้นท์กิลด์ล่าบอส เพื่อเป็นกิจกรรมรวมพลให้สมาชิกกิลด์รวมพลังในการกำจัดบอส เมื่อสำเร็จ จะได้ของรางวัลเป็นวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการใช้สกิลในเลเวลสูงๆรวมถึงสิ่งล้ำค่าอื่นๆด้วย และเท็มพลาร์ยังเป็นผู้นำในการตัดสินใจเปิดสงครามระหว่างกิลด์(GvG) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งคอนเท้นท์สนุกๆภายในเกมต้นไม้แห่งผู้กอบกู้นี้ครับ เราไปดูจุดเด่นและจุดด้อยของเขา การอัพสเตตัส รายละเอียดสกิล และตัวอย่างบิ้วด์กันเลยครับ
จุดเด่น
- เป็นอาชีพที่มีความแตกต่างกับอาชีพอื่นๆโดยสิ้นเชิง เป็นอาชีพเดียวที่สามารถสร้างกิลด์พร้อมใช้คอนเท้นท์ต่างๆเกี่ยวกับกิลด์ได้ หัวหน้าอัศวินจึงถือเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีความสำคัญที่สุดในเกมก็ว่าได้ครับ
- เป็นผู้ได้รับเกียรติและจะกลายเป็นคนสำคัญ ที่ได้รับการปกป้องจากเพื่อนเป็นอันดับต้นๆ หากหัวหน้าผู้สั่งการเป็นผู้ไปเฝ้าเหล่าเทพธิดาเป็นอันดับแรกๆ คงถูกผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามหยามเกียรติของกิลด์เป็นแน่
- Rank 1-6 สามารถบิ้วด์คลาสได้หลากหลาย ว่าจะเป็นสายโจมตี ป้องกัน หรือซัพพอร์ตเต็มตัวก็ยังได้
จุดด้อย
- เราสามารถเลือกเป็นหัวหน้าอัศวินได้ตั้งแต่ Rank 7 เป็นต้นไป นั่นทำให้เราต้องเป็นต่อไปเรื่อยๆจนถึง Circle 3 หรือก็คือ Rank 9 เพราะสกิลใหม่ๆใน Circle ถัดไปจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการทำสงครามระหว่างกิลด์ให้กับเรา
- เนื่องด้วยการเป็นผู้นำ จึงเป็นอาชีพที่ต้องมีความรับผิดชอบมากกว่าอาชีพอื่นๆ นอกจากการเก็บเลเวล ลงดั้นเจี้ยนประจำวันแล้ว ต้องคอยเปิดอีเว้นท์กิลด์เรียกบอส เจรจาเปิดสงคราม และบางทีอาจรวมถึงการรดน้ำต้นไม้และให้อาหารหนูด้วยนะ
- ถึงแม้จะสามารถบิ้วด์คลาสได้หลากหลายก่อนหน้านี้ แต่ก็ต้องแลกกับการสูญเสียสกิลของคลาสหลังๆที่ให้ประสิทธิภาพได้ดีกว่าสกิลคลาสแรกๆ
สกิล
ภาพ | ชื่อสกิล | รายละเอียด |
Summon Guild Member | สำหรับหัวหน้าอัศวินท่านใดที่เจอกับอริแบบไม่ได้ตั้งตัว เมื่อกดใช้จะทำการเปิดหน้าต่างรายชื่อสมาชิกกิลด์ขึ้นมา เราสามารถกดเลือกเพื่อเรียกสมาชิกได้ จำนวนมากตามเลเวลสกิล | |
Warp to Guild Member | เป็นเรื่องธรรมดาที่เหล่าอัศวินจะขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าอัศวิน ทำการวาร์ปตัวเราไปหาสมาชิกกิลด์ที่กำหนด 1 คน | |
Build Guild Tower | สร้างหอคอยกิลด์ ซึ่งแต่ละเลเวลสามารถทำอะไรได้แตกต่างกัน Lv.1 Warp – ใช้วาร์ปไปสถานที่ต่างๆฟรี Lv.2 Storage – เปิดใช้คลังส่วนตัวกับหอคอยกิลด์ได้ Lv.3 Guild Upgrade – ใช้ Talt อัพเกรดกิลด์เพื่อเพิ่มเลเวลคุณสมบัติต่างๆ Lv.4 Guild Events – ใช้ตั๋วเปิดอีเว้นท์ล่าบอสในระดับต่างๆ Lv.5 Guild Hangout – เปิดพื้นที่กิลด์เพื่อที่จะสามารถปลูกผักและเลี้ยงสัตว์ได้ | |
Reduce Craft Time | ทำการปักธงเพื่อลดระยะเวลาในการสร้างสิ่งของต่างๆของสมาชิกภายในกิลด์บริเวณรอบๆ สามารถใช้สกิลนี้ได้ข้างๆหอคอยกิลด์ ในเมือง และใน Guild Hangout เท่านั้น | |
Battle Orders | สร้างแอเรียเสริมพลังรอบตัวละครเรา สมาชิกกิลด์ที่อยู่ในแอเรียนี้จะได้รับความเร็วในการเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นจนถึงระดับสูงสุด และศัตรูจะถูกลดความเร็วในการเคลื่อนที่ลงด้วย | |
Buff Share | ทำการแบ่งปันบัฟปัจจุบันทั้งหมดให้กับสมาชิกในปาร์ตี้ และเมื่อแชร์บัฟด้วยสกิลนี้ จะทำการปลดจำนวนบัฟออกทั้งหมด ทำให้สามารถรับบัฟได้กี่บัฟก็ได้ | |
Forge | ใช้ไอเท็มที่ได้จากการล่าบอสกิลด์ในการสร้างป้อมปราการในพื้นที่กิลด์ เพื่อเพิ่มพลังโจมตีให้กับสมาชิกกิลด์ทุกคน | |
Shield Charge | สร้างหอคอยป้องกันในพื้นที่กิลด์เพื่อให้สมาชิกสามารถมากดรับเกราะซึมซับความเสียหายได้ | |
Mortal Slash | โจมตีเป้าหมายด้วยการฟันสลับซ้าย-ขวา สามครั้งซ้อน สร้างความเสียหายระดับหนึ่ง มี 3 Overheat | |
Non-Invasive Area | สร้างแอเรียรอบตัวละคร สมาชิกกิลด์ที่อยู่ภายใต้แอเรียนี้จะได้รับความสามารถในการบล็อคเวทมนต์ |
ควรอัพสเตตัสอย่างไร
Templar เป็นอาชีพที่ค่อนข้างมีอิสระในการเล่น Rank1-6 นั่นทำให้สามารถอัพสเตตัสได้หลากหลายแนว แต่สิ่งหนึ่งที่หัวหน้าอัศวินต้องมีติดไว้เลยคือ “ความถึก” ที่จะทำให้คุณไม่ล้มลงไปกองต่อหน้าผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามได้ง่ายๆ
STR 30 : CON 299+ : DEX 30
แต่ก็ใช่ว่าคุณจะต้องเป็นซัพพอร์ตแนวหลังเสมอไป สำหรับหัวหน้าอัศวินแนวหน้าที่อยากที่จะเป็นคนเปิดการต่อสู้ด้วยตนเอง ก็สามารถอัพสเตตัส STR ซึ่งเพิ่มพลังโจมตีและความแม่นยำทั้งหมดเลยได้เช่นกันครับ
STR 329+ : CON 30
คลาสที่น่าสนใจก่อนจะมาถึง Templar
Swordsman | คลาสเริ่มต้นพื้นฐานที่มีสกิลเด่นๆคือ Gung Ho ที่ช่วยเพิ่มพลังโจมตีกายภาพ แต่จะนิยมอัพ Concentrate ที่ช่วยเพิ่ม Additional Damage มากกว่า เพราะสกิลมีการสร้างความเสียหายเป็นความเสียหายเพิ่มเติม นั่นแหลว่าความเสียหายที่สร้างจะไม่ถูกนำไปคำนวณกับค่าเกราะและพลังป้องกันของเป้าหมาย อีกทั้งยังมีสกิลสุดแจ่มอย่าง Pain Barrier ที่จะทำให้ตัวคุณสร้างความเสียหายได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่โดนสกิล CC ต่างๆของศัตรูขัดจังหวะไปซะก่อน | |
Highlander | Templar ส่วนใหญ่จะบิ้วด์ผ่านคลาสนี้ทั้งนั้น เนื่องด้วย Circle 2 มีสกิลคอมโบง่ายๆที่สามารถสร้างความเสียหายได้ระดับหนึ่งคือ Crosscut+Skyliner และที่ Circle 3 มีสกิล Skull Swing ที่จะทำการถอดเกราะเป้าหมาย แน่นอนว่าเมื่อคู่ต่อสู้ได้รับความเสียหายจากสกิลนี้ ไม่ว่าจะตีบวกหรือ transcendence มากี่ขั้น รับรองว่าค่าเกราะต่างๆจะกลายเป็น 0 แน่นอนครับ | |
Peltasta | อาชีพสายป้องกันที่มีสกิลโดนเด่นอยู่ไม่กี่สกิล คือ Swash Buckling ที่จะทำการเคาะโล่เรียกมอนสเตอร์ให้หันมาโจมตีเราและบัฟเพิ่มพลังป้องกัน Guardian อีกทั้งยังมีสกิลบัฟเปลี่ยน Stance ที่จะช่วยเพิ่มค่า Block ของคุณอย่างมากด้วยสกิล High Guard | |
Barbarian | หัวหน้าอัศวินผู้บ้าคลั่งนิยมผ่านคลาสนี้กัน ที่ Circle 1 มีสกิล Cleave ช่วยบูสต์ความเสียหายด้วยการโจมตีประเภท [Slash] แต่จริงๆ ผมแนะนำให้เป็นถึง Circle 3 ไปเลย ซึ่งจะมีสกิลหวังผล คือ Frenzy+Warcry ที่ช่วยเพิ่มแดเมจกายภาพเป็นเปอร์เซ็นต์ให้กับเรา อีกทั้งยังเป็น Debuff ช่วยลดพลังป้องกันของศัตรูภายใน รวมถึงได้สกิลโจมตีใหม่อย่าง Pouncing และ Giant Swing ซึ่งเป็นสกิลที่ใช้ได้ดีมากๆกับผู้เล่นอีกฝั่งนะ | |
Hoplite | เป็นอีกคลาสที่นิยมพอๆกับคลาสด้านบน เนื่องด้วยสกิลบัฟเพิ่ม Critical Rate อย่าง Finestra จะให้ค่าฮัตราโจมตีจุดตายแล้ว ยังให้ค่า Block เพิ่มเติมกับตัวละครของเราอีกด้วย | |
Cataphract | อัศวินสายแว๊น ที่มีบัฟเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ไวที่สุดในเกมอย่าง Trot พ่วงกับการที่มีจุดเด่นเป็นการโจมตีไปพร้อมกับการเคลื่อนที่โดยการใช้สกิล Rush เพียงแค่สองสกิลนี้ ก็เพียงพอสำหรับการปลิดชีพผู้เล่นฝั่งตรงข้ามพร้อมมีชีวิตรอดกลับมารักษาตัว เตรียมพร้อมจะสู้ในไฟท์ถัดไปได้แล้วครับ | |
Rodelero | จะบู๊แบบป้องกันก็ได้นะ จงอย่าลืมว่าหัวหน้าอัศวินควรเป็นคนสุดท้ายที่ลงไปนอนกองกับพื้น ไม่ใช่คนแรก! คลาสนี้มีสกิลป้องกันความเสียหายดีๆอย่าง Slithering ที่ช่วยปกป้องตัวคุณจากเหล่า Marksman และ Mage ของฝ่ายตรงข้าม | |
Squire | คือคลาสสายตั้งร้านประจำคลาสนักดาบ ซึ่งสามารถเลือกได้ว่าจะตั้งร้านขัดอาวุธ ขัดเกราะ หรือแม้แต่ซ่อมอุปกรณ์สวมใส่ และยังมีสกิลตั้งแคมป์เพื่อวาร์ป รวมถึงตั้งโต๊ะอาหารเพื่อผลิตอาหารที่มีประสิทธิภาพช่วยเพิ่มค่าสเตตัสก็ยังได้ | |
Cosair | คลาสนี้จะถือเป็นคลาสที่นำมาต่อเติมคลาสที่ว่างอยู่อีก 1 Rank ก็ว่าได้ มีสกิลหวังผลคือ Iron Hook ไว้จับเป้าหมายหรือไว้เปิดคอมโบ เพื่อยึดให้เพื่อนเราโจมตีเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะนำไปสู่หนทางชนะในที่สุดครับ |
ตัวอย่างบิ้วที่น่าสนใจ
Swordsman C1, Highlander C3, Squire C3, Templar C2
บิ้วสายผู้นำที่มีคลาส Templar ซึ่งสามารถจัดการกิจกรรมต่างๆของระบบกิลได้ มีสกิลสร้างความเสียหายจากคลาส Highlander อย่างเช่นคอมโบ Crown + Moulinet ที่สร้างความเสียหายได้มากและคลาส Squire ที่สามารถสนับสนุนปาร์ตี้ได้ดี สามารถตั้งเต้นท์และโต๊ะอาหารได้อีกทั้งยังตั้งร้านสร้างรายได้ได้ระดับหนึ่ง สามารถดูตัวอย่างบิ้วนี้ได้ที่นี่ (Click)
Swordsman C1, Peltasta C1, Hoplite C2, Cataphract C3, Templar C2
บิ้ว Templar สายโจมตีโดยใช้ความสามารถทางด้านการใช้หอกจากคลาส Hoplite ซึ่งมีสกิลแรงๆอย่าง Stabbing และ Pierce ตามด้วยคลาส Cataphract ที่สามารถขี่สัตว์เคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและใช้อาวุธอย่างหอกสองมือร่วมกับสกิลโจมตีต่างๆของคลาสนี้ที่สามารถกวาดศัตรูจำนวนมากได้อย่าง Rush สามารถดูตัวอย่างบิ้วได้ที่นี่ (Click)
Swordsman C1, Peltasta C2, Redelero C3, Templar C3
เป็นอีกหนึ่งบิ้วด์ทางเลือกของหัวหน้าอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นสายบุกแถวหน้าพร้อมลุยสั่งการลูกกิลด์ไปพร้อมๆกัน ด้วยบิ้วด์สายป้องกัน
เริ่มต้นด้วยคลาสพื้นฐาน Swordsman และผ่าน Peltasta C2 มาเอาสกิลหากินอย่าง Swash Buckling, Guardian และสกิลสำคัญอย่าง High Guard ที่จะทำให้คุณเปลี่ยน Stance เป็นการป้องกันอย่างเต็มตัว ช่วยเพิ่มค่า Block เพื่อปัดป้องการโจมตีกายภาพของเป้าหมาย แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการลดค่า Attack และ Critical Rate มีการป้องกันกายภาพแล้ว ก็ต้องครบเครื่องด้วยการป้องกันเวทย์มนต์ ด้วยการเป็น Roderelo C3 ที่มีสกิลหวังผลมากมาย ใช้ได้หลายสถานการณ์ เช่น
– Shield Charge [Strike] ทำการยกโล่และเดินไปด้านหน้า ส่งผลให้ศัตรูที่โดนโล่กระแทกกระเด็นล้มลงไปที่พื้น สกิลนี้จะใช้ได้ดีในกรณีที่ผู้เล่นอีกฝ่าย หลบอยู่ใน Safety Zone ซึ่งนี่ก็เป็นหน้าที่หลักของเราในการเก็บเหล่า Healer และ Mage ทั้งหลายของฝั่งตรงข้าม พร้อมเพิ่มโอกาศในการปัดป้องลูกธนูทั้งหลายที่เข้ามาหา
– Targe Smash [Strike] ทุบโล่ลงพื้นอย่างรุนแรงสร้างความเสียหายพร้อมโอกาสทำให้ศัตรูติดสถานะ [Blind] และยังสร้างความเสียหายได้มากขึ้น หากใช้ใส่เป้าหมายที่ติดสถานะ [Frozen] และ [Petrified] แถมยังกระจายไฟกับเป้าหมายที่ติดสถานะ [Burn] เรียกได้ว่าเป็นสกิลที่ใช้ได้ในหลายๆสถานการณ์
– Slithering [Slash] เปลี่ยนเป็น Stance ป้องกันและเคลื่อนที่เพื่อเตรียมพร้อมจะโจมตี และเมื่อตัวละครอยู่ในสถานะนี้ จะสามารถปัดป้องความเสียหายเวทย์มนต์ที่เข้ามาพร้อมสถานะผิดปกติ รวมถึงเพิ่มค่าหลบหลีกและการปัดป้องให้กับตัวละครของเราตลอดระยะเวลาการหลบหลังโล่ ดูตัวอย่างบิ้วด์ได้ที่นี่จ้า (Click)
เพิ่มเติม บิ้วด์นี้เป็นบิ้วด์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในมีชีวิตรอดระหว่างการทำสงครามกิลด์และการปะทะกับผู้เล่นเท่านั้น การป้องกันไม่ใช่กุญแจที่จะนำไปสู้ชัยชนะ แต่สิ่งที่สำคัญคือความสามัคคี การร่วมแรงรวมใจกัน หรือก็คือ ทีมเวิร์ค
ยังไงผมขอฝากเพื่อนๆ เหล่าผู้กอบกู้ดูเหตุผล จุดประสงค์ และความคุ้มค่าของบิ้วด์ข้างต้นนี้ แล้วไว้เรามาพูดคุยกันในกลุ่มผู้ใหญ่บ้านของคุณกบนะครับ เพราะนี่เป็นเพียงบิ้วด์และสไตล์การเล่นส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามารับชมและพูดคุยกันครับผม ไว้เจอกันใหม่บิ้วด์หน้า ครั้งนี้ขอลาไปก่อน สวัสดีจ้า 🙂