กลับมาต่อกับเกม Valiant Force 2 ครับผม โดยในวันนี้เรื่องที่จะมาพูดถึงก็คือ “ทริคแนะนำสำหรับมือใหม่” เนื่องจากตัวเกมนับว่ามีระบบค่อนข้างหลายอย่างและทำให้เล่นยากประมาณนึงเลย ผมก็มั่นใจว่าจะมีเพื่อนๆ หลายคนเริ่มต้นได้ยากสักหน่อยจึงจะมาแนะนำทริคเล็กๆ น้อยๆ เพื่อได้ใช้ชีวิตในเกมนี้ง่ายขึ้นน่ะเองครับ
ลุยเนื้อเรื่องไปก่อนเลยช่วงแรก
เรียกว่าเป็นเหมือนการบังคับก็ว่าได้สำหรับการ “ลุยเนื้อเรื่อง” น่ะเอง นี่คือสิ่งที่เราต้องทำก่อนเป็นอันดับแรกในเกม Valiant Force 2 นี้เลยล่ะครับ เทียบกับเกมอื่นบางเกมอาจยังมีอะไรให้ทำบ้างเล็กน้อยแต่เกมนี้เมื่อเข้าเกมปุปจะเห็นแต่เมนู Adventure เท่านั้น
ซึ่งก็แน่นอนว่าการไล่เคลียร์เนื้อเรื่องนี้จะคอยช่วยปลดฟีเจอร์ต่างๆ ออกมาให้เราได้ใช้กัน ไม่ว่าจะเป็น Airship, Arena, Event Fight หรือโหมดอะไรก็ตามแต่ แถมยังมีการปลดค่อนข้างเป็นขั้นเป็นตอนด้วย แม้แต่เรื่องการอัปเกรดตัวละคร, ตีบวกของ, เลื่อนขั้นของ พวกนี้ทั้งหมดก็อยู่ในเงื่อนไขเนื้อเรื่องเช่นกัน ดังนั้นช่วงแรกยังไม่ต้องโฟกัสโหมดอื่นมากนักให้กดเข้า Adventure แล้วลุยไปยาวๆ ก่อนเลยครับ
ให้ความสำคัญกับการจัดเรียงออร่าสกิล
ทริคที่อยากแนะนำอันดับต่อมานั้นจะอยู่ในส่วนของ “ออร่าสกิล (Aura Skill)” หรือที่หลายคนเรียกติดปากว่า “สกิลลิงค์” นั่นล่ะครับ ระบบสกิลติดตัวช่วยเพิ่มผลเอฟเฟกต์ต่างๆ ให้กับสมาชิกคนอื่นรอบตัวเราน่ะเอง ซึ่งถ้าเกิดเรารู้จักการใช้สกิลพวกนี้ให้ดีพอบอกเลยว่ามันจะทำให้ทีมเราโหดขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนมาก
โดยในระหว่างที่เรากำลังจัดทีมอยู่ให้เราสังเกตตัวละครของเราให้ดีมันจะมีลูกศรชี้ออกด้านข้างของตัวละครอยู่ บางตัวมี 1 บางตัวมี 2 – 3 แล้วแต่ ตัวลูกศรนั้นเป็นตำแหน่งที่ออร่าสกิลจะทำงานได้ ซึ่งตรงนี้แนะนำว่าเวลาเราจัดทีมพยายามทำให้สกิลลิงค์เชื่อมกันให้เยอะที่สุดครับเพราะมันส่งผลให้เกิดเอฟเฟกต์ต่างๆ และทำให้เราเล่นง่ายขึ้นมากเลยล่ะ
แต่ตรงนี้ก็ใช่ว่าจัดสกิลมั่วนะต้องดูด้วยว่าสกิลออร่าของตัวละครนั้นทำอะไรได้ อย่างบางตัวเมื่อโจมตีจะทำให้เพื่อนที่อย่างทางออร่าฮีลแรงขึ้น แต่ถ้าตัวที่ได้ไม่มีสกิลประเภทฮีลเลยก็จะไร้ประโยชน์ทันทีน่ะเอง
เสริมแกร่งให้ตัวละครอยู่เสมอ
ลำดับถัดมาที่อยากแนะนำก็คือ “คอยเสริมแกร่งตัวละครอยู่เสมอ” เพราะถ้าเกิดมาลองเล่นแล้วจะรู้เลยว่ามอนสเตอร์ภายในเกมนี้ค่อนข้างโหดพอสมควร ถ้าเกิดเราไปลงด่านนั้นๆ แล้วไม่อัปเกรดตัวละครของเราเลยมันสามารถทำให้เราแตกพ่ายและแพ้ได้ง่ายทีเดียว
สำหรับการเสริมแกร่งที่ว่าก็ทำได้หลายวิธีไม่ว่าจะเป็น การอัปเลเวล, เพิ่มดาว, หาของมาใส่, อัปเกรด – เลื่อนขั้นของสวมใส่ หรือแม้แต่การเพิ่มค่าความสัมพันธ์ก็ยังส่งผบกับค่าสเตตัสของตัวละครเองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของสวมใส่เนี่ยบอกเลยเป็นของสำคัญมากทีเดียว เอาเป็นว่ายังไงถ้ามีโอกาสก็คอยหาทางเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวละครในทีมเราอยู่เสมอ
เลเวลคลาสห้ามลืมอัปเด็ดขาด
อีกหนึ่งสิ่งที่เราต้องคอยให้ความสำคัญเกี่ยวกับตัวละครของเราคือ “เลเวลคลาส” หรือ Job Level ครับ ซึ่งเลเวลตรงนี้เราควรหาโอกาสมาอัปอยู่เสมอๆ เพราะเลเวลคลาสนี้จะเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเรากดอัปเท่านั้น ต่างกับเลเวลตัวละครที่เราแค่เอาไปลงสนามก็จะได้ค่าประสบการณ์มาแล้วน่ะเองครับ
โดยความสำคัญของ Job Level มีอยู่ 3 อย่างด้วยกันคือ:
1.อัปเพื่อปลดเพดานเลเวลสูงสุดตัวละครเรา
2.อัปเพื่อใช้เพิ่มเลเวลของสกิลประจำคลาส
3.อัปเพื่อใช้เป็นเงื่อนไขสำหรับการเปลี่ยนคลาสต่อไป
ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากและเราควรหาโอกาสมาอัปอยู่เรื่อยๆ ครับ โดยของที่ใช้สามารถหาฟาร์มได้จากด่านทั่วไปนี่ล่ะไม่จำเป็นต้องไปวุ่นวายเติมตังแต่อย่างใด ยังไงก็อย่าลืมอัปเลเวลสกิลกันด้วยซะล่ะสำคัญมากเลยนะ
พยายามหาตัว SSR มาใช้
ทริคแนะนำถัดมาคือ “พยายามหาตัวละคร SSR มาใช้” จะเป็นอะไรที่ช่วยทำให้การใช้ชีวิตในเกมนี้ดีขึ้นมากเลยล่ะครับ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะตัวละครพวกนี้จะมาพร้อมค่าสเตตัสที่สูงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่อีกเรื่องที่สำคัญคือมันมีความเกี่ยวข้องกับในส่วนของคลาสอาชีพเองด้วยเช่นกันครับ
โดยตัวละครในระดับ SSR นั้นมีตัวเลือกให้เปลี่ยนคลาสอาชีพได้ถึง 3 สายเลย เทียบกับระดับ R – 1 สาย และ SR – 2 สาย มันเลยทำให้ตัวละครในระดับนี้มีความหลากหลายให้เราเลือกเล่นได้มากกว่าและดูมีความคุ้มค่าในการปั้นกว่ามาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวระดับ SSR จะเก่งเสมอไปอยู่นะ มันมีทั้งตัวที่เก่งแล้วไม่เก่งปนอยู่ด้วยตรงนี้เพื่อนๆ อาจต้องไปหา Tier List มาเทียบกันอีกทีล่ะนะ
Auron Cards ของดีมากพยายามหามาใช้
นอกเหนือจากตัวละครแล้วนั้นยังมีอีกหนึ่งสิ่งที่เราสามารถจัดเพิ่มเติมเพื่อไปนำไปใช้ลงสนามได้อยู่ด้วยซึ่งนั่นคือ Auron Cards ระบบการ์ดความสามารถที่มาพร้อมเอฟเฟกต์และสกิลต่างๆ เพื่อใช้ช่วยเหลือตัวละครเราในสนามได้ครับ
การ์ดเหล่านี้สามารถเปิดใช้งานได้เมื่อเราเก็บแต้มพลังงานถึงกำหนด โดยตัวแต้มจะมีลักษณะเป็นหลอดกลมๆ อยู่มุมซ้ายล่างของเราซึ่งเพิ่มจากการต่อสู้หรือการกำจัดศัตรูในด่าน สกิลการ์ดส่วนใหญ่พวกนี้จะมีการทำงานเป็นเฉพาะสายเจาะจงมากกว่าเช่น ทำงานเฉพาะธาตุ หรือ ทำงานเฉพาะคลาส เป็นต้น ไม่ได้มีการครอบคลุมทั้งหมดในทีมทำให้เวลาใช้เราก็ต้องเลือกให้ดีไม่สามารถกดมั่วๆ แต่ถ้าเลือกใช้ถูกจังหวะการ์ดพวกนี้สามารถเอามาเป็นไพ่ตายพลิกเกมได้เลยนะ
คอยแวะเก็บกล่องสมบัติตามด่านที่เจอ
นอกเหนือจากการมองช่องเดินหรือตำแหน่งของศัตรูแล้วอีกหนึ่งสิ่งที่เราควรมองหาอยู่เสมอเวลาอยู่ในด่านนั่นคือ “กล่องสมบัติ” ครับ ซึ่งบางด่านเราเล่นจะมีกล่องสมบัติพวกนี้ตั้งไว้อยู่บางอันก็เห็นได้ชัดเจนในขณะที่บางอันก็แอบอยู่ตามมุมโน้นมุมนี้ให้เรามองหา
โดยสมบัติที่ว่านั้นเราสามารถกดให้ตัวละครในทีมของเราเดินไปเปิดได้ทันที ซึ่งการเปิดกล่องพวกนี้ก็จะได้ของแตกต่างกันไปไม่ว่าจะเป็น ของสวมใส่, วัตถุดิบ, สมุดอัปเวลเอยอะไรเอย หรือแม้แต่เพชรที่ใช้สุ่มกาชาก็มีใส่ไว้อยู่ด้วยเช่นกัน ดังนั้นเวลาเล่นในแต่ละด่านพยายามมองหากล่องพวกนี้ไว้กันด้วยซะล่ะเพราะมันเป็นอีกช่องทางง่ายๆ ที่ทำให้เราได้รับของฟรีมาใช้น่ะเอง
อย่าลืมแวะตลาดเพื่อเช็คของทุกวัน
ทริคที่อยากแนะนำเป็นรายการสุดท้ายคือ “การเข้าตลาด” ในแต่ละวันนั้นเราสามารถเข้ายังตลาดหรือ Market เพื่อเช็คของที่มาขายได้ครับ ซึ่งนี่ก็เป็นอีกหนึ่งแหล่งที่เราสามารถใช้หาทรัพยากรหรือวัตถุดิบต่างๆ มาใช้อัปเกรดให้กับตัวละครเราได้น่ะเอง
โดยตลาดที่ว่านั้นจะมาในลักษณะของร้านค้ารายวันหรือ Daily นั่นล่ะครับ ซึ่งของที่ขายก็มีหลายอย่างเลยทั้ง สมุด EXP, คัมภีร์อัปการ์ด, กล่องสุ่มของ ไปจนถึงจิปาถะหลายๆ อย่างสุ่มมาให้เราเลือกซื้อในแต่ละวัน หรือในหัวข้ออื่นๆ ก็มีมาให้เลือกเช่นกันทั้งของขายประเภท Event, Gear, Pyrite, Valanite หรือ Arena ก็ตามที เอาเป็นว่าพยายามแวะไปเช็คกันทุกวันด้วยล่ะเกิดวันไหนมีของดีหายากวนมาขายเราได้ไม่ต้องมาเสียดายภายหลัง
อย่าลืมทำเควส Academy I ด้วยล่ะ
ภารกิจสำหรับมือใหม่ที่เพื่อนๆ ไม่ควรพลาดเป็นอันขาดเพราะมันเป็นส่วนที่ได้ตัวละคร jenny ระดับ SSR สายชาโดว์มาฟรีๆ 1 คน เลยและยังมีของสำหรับนำไปอัปเกรดตัวละครของทีมในช่วงต้นเกมได้ดีมากๆ ของฟรีก็แจกเยอะมากเลยล่ะ นอกจากนั้นยังมีไอเทมสวมใส่ให้กับตัวของ Jenny ด้วย รวมไปถึงชุดคอสตูมสุดเท่ที่จะเปลี่ยนให้เธอกลายเป็นกลายเป็นสาวรบมังกรพร้อมชุดเซ็ตตะหลิวกระทะ!!