PC Guide

โลกของ Genshin Impact นั้นมีเควสอยู่มากมาย บางเควสก็ทำได้ตั้งแต่แรก บางเควสก็ต้องรอระดับนักผจญภัยถึง ส่วนเควสที่จะพูดถึงในวันนี้ เป็นเควสที่ต้องอาศัยความอุตสาหะแบบสุดๆ กันแทน กับเควสเสาแห่งสันติทั้ง 9 ที่จะพาเพื่อนๆ ทัวร์โลกกว้างของเขต Liyue กันให้แขนหลุดจากการปีนป่ายกันเลยทีเดียว เงื่อนไขการทำเควส ตัวเควสนี้มีเงื่อนไขที่เพื่อนๆ จะเริ่มต้นทำได้คือ ต้องทำการถวายเครื่องสักการะ (Geoculi) ให้กับรูปปั้นเขต Liyue (Status of Sevens) ให้ครบเลเวล 10 เสียก่อน (ใช้ทั้งหมด 130 เม็ด...) และเพื่อนๆ จะได้หินสลักแห่งความทรงจำมาทั้งหมด 9 ลูก จึงจะสามารถเริ่มทำเควสนี้ได้ สำหรับการตามล่า Geoculi ทั้ง 130 เม็ด (จริงๆ มี 131 เม็ดนะเอ้อ) นั้นก็จะขออนุญาติละไว้ ให้เพื่อนๆ ได้ตะลุยล่ากันไม่งั้นน่าจะได้บทความยาวเป็นเล่มแน่ๆ ซึ่งตรงนี้เพื่อนๆ สามารถใช้ตัว Web ในการหาตำแหน่งของผลึกธาตุเหล่านี้ได้ โดยแนะนำให้หาเป็นส่วนๆ และทำเครื่องหมายทิ้งไว้ จะทำให้ตามหาตำแหน่งและจำได้ว่าอันเจอแล้วยังไม่เจอได้ง่ายขึ้นมาก เพราะถ้าเพื่อนๆ ขาดแค่ 1-2 อันแต่วนจนน่าจะครบแล้ว ต้องวนหาใหม่หมดมันไม่สนุกแน่ๆ ล่ะบอกได้เลย   ปลดผนึกเสาแห่งสันติทั้ง 9 หลังจากเพื่อนๆ อดทนเก็บ Geoculi ครบและอัพเลเวลเสาจนเต็ม ได้หินแห่งความทรงจำมาแล้ว 9 ลูกก็สามารถเริ่มเควสได้เลย ตรงจุดนี้ให้เพื่อนๆ วาร์ปไปยัง Teleport Waypoint ทางซ้ายของ Luhua Pool จากนั้นมองไปทิศเหนือ จะเจอกับเสาสีส้มๆ ตั้งอยู่เรียงรายเต็มไปหมด (มี 9 ต้นพอดีเป๊ะ) ให้ปีนไปยังเสาแต่ละต้นและมองหน้าแผ่นสี่เหลี่ยมที่คล้ายกับหน้าของยักษ์ เพื่อทำการติดตั้งหินแห่งความทรงจำลงไป เมื่อติดตั้งแล้วตัวละครของเพื่อนๆ จะกระเด็นตกลงมาพร้อมกับมีหีบสมบัติระดับ 2 ปรากฎให้เก็บเพิ่มเติม ก่อนจะมี Cut Scene ปรากฎมาให้เห็นถึงประตูที่กำลังถูกปลดผนึก เป้าหมายของเพื่อนๆ คือทำการปีนเสาทั้ง 9 ต้นและแปะหินนี่ให้ครบทั้ง 9 ต้น โดยเสาแต่ละต้นก็จะอยู่ห่างกันพอประมาณ และมีของเล่น หีบสมบัติ หรือ Challenge ให้ได้ทำอยู่ในบริเวณนี้ค่อนข้างมากเลยทีเดียวล่ะ บางต้นก็จะเข้าถึงยากหน่อยหรือมีอุปสรรค์อย่างเช่นกำแพงลม ซึ่งก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรแน่นอน เมื่อเพื่อนๆ ปลดผนึกเสาทั้ง 9 ต้นครบแล้ว ประตูจะถูกเปิดออกให้สามารถเข้าไปสำรวจพื้นที่ด้านในได้   ตะลุยซากวิหารโบราณ ก่อนจะลุยกับพื้นที่ด้านในนี้ ขอแนะนำให้เพื่อนๆ เตรียมตัวให้พร้อมกัน เนื่องจากข้างในนี้จะมีการต่อสู้ที่ค่อนข้างน่ารำคาญพอตัว ตรงนี้ขอแนะนำให้เพื่อนๆ มีตัวละครสายธนูเช่น Amber ไว้คนหนึ่งเพื่อยิงจุดอ่อนศัตรู (จำเป็นมาก) มีตัวละครที่พร้อมลุยกับศัตรูเก่งๆ ถ้าเป็นสายกายภาพควรมีธาตุไฟฟ้า+น้ำแข็ง หรือใช้ตัวละครสายสื่อเวทย์ก็ได้ ตัวฮีลและอาหารให้พร้อม เมื่อพร้อมแล้วก็สามารถเข้าไปข้างในวิหารได้เลย ภายในนั้นจะเป็นห้องที่โล่งมากๆ และมี Ruin Guard ตัวหนึ่งนั่งอยู่ ให้เพื่อนๆ กำจัดพวกแมงมุมรอบห้องก่อนเพื่อไม่ให้เกะกะตอนสู้ จากนั้นก็เดินเข้าไปปะกับเจ้า Ruin Guard ได้เลย Ruin Guard นั้นจะมีความต้านทานกายภาพสูงมาก ให้ใช้การผสมธาตุนำไฟฟ้า (ไฟฟ้า+น้ำแข็ง) เพื่อลดการต้านทานของมันลงจะสู้ได้ง่ายขึ้น การใช้ตัวสายธนูชาร์จยิงที่ลูกตา จะทำให้มันเซ และยิงซ้ำที่ลูกตาอีกครั้งตอนที่เซก็จะล้มลงให้เราตีฟรีได้นานๆ (หากพลาดจะต้องรออีกพักใหญ่กว่าจะทำได้อีกครั้ง) ระหว่างที่สู้ จะมีหินธาตุไฟปรากฎขึ้นในพื้นที่เป็นระยะๆ ตลอดการสู้ทั้ง 3 รอบ ซึ่งจะทำการบัพการต้านทานความเสียหายขึ้นเป็นอย่างมาก ให้เพื่อนๆ ทำลายหินธาตุไฟนี้ ก็จะหยุดบัพของศัตรูได้ หลังจากกำจัด Ruin Guard ได้แล้ว ก็จะมี Geovishap Hatching ปรากฎตัวขึ้นมา 2 ตัว ให้กำจัดมันเช่นกัน พร้อมกับหินธาตุไฟมาป่วนเป็นระยะๆ แต่ศึกหนักจริงๆ จะอยู่ที่เจ้า Ruin Hunter ตัวสุดท้าย ถ้ามันบินขึ้นเพื่อระดมยิงมิซไซล์ถล่ม ให้เพื่อนๆ หาจังหวะชาร์จยิงลูกตาของมันด้วยธนู มันจะหล่นลงมาให้ตีและไม่บินขึ้นอีกนานมากๆ (ตอนที่มันไม่บินสูงยิงลูกตาไม่ได้นะ ไม่เหมือน Ruin Guard) ระหว่างการสู้กับเจ้า Ruin Hunter จะมีหินธาตุไฟปรากฎขึ้นมาเป็นระยะๆ พร้อมกับมีลูกเล่นป้องกัน เช่นปืนไฟ, เลเซอร์, กำแพงลม พร้อมกับเจ้า Geovishap Hatching คอยป่วน ตรงนี้ให้เพื่อนๆ ช่างเจ้ากิ้งก่าดินและพยายามพุ่งเป้าหมายไปที่การทำลายหินธาตุให้เร็วที่สุด เมื่อหินธาตุแตกแล้วเจ้า Geovishap Hatching จะหายไปเอง ค่อยตีกับเจ้า Ruin Hunter ต่อ   ของรางวัลของเควส เมื่อกำจัดเจ้า Ruin Hunter ได้แล้ว ทางด้านในจะเปิดออกให้เห็นหีบสมบัติสองใบ เป็นหีบระดับ 4 และระดับ 3 อย่างละใบ พร้อมกับ Artifact 5 ดาวที่วางอยู่บนแท่น (ส่วนดอกไม้ของชุด Noblesse Oblige) ให้เพื่อนๆ รับรางวัลได้อย่างสบายใจสมความเหนื่อยยากได้เลย แต่ทว่าเมื่อเปิดหีบแล้ว จะเจอกับแหวนหยกวงหนึ่งที่ดูแปลกๆ เป็นของรางวัลอีกชนิดหนึ่ง ไปมอนจะสงสัยเหมือนกันว่าทำอะไรได้ และหลังจากนั้นจะมีเควสต่อเนื่องให้เราเอาไปขายกับ NPC สองคนที่ตัวเมือง Liyue นั่นเอง ตรงจุดนี้เพื่อนๆ จะนำแหวนไปขายกับใครก็ได้ จะจบเควสได้เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันดังนี้ เลือกตามใจชอบเพื่อนๆ ได้เลย Linlung : ได้รับเงิน 200,000 Mora Bolei : ได้รับเงิน 180,000 Mora และอาหารระดับ 5 ดาว (แบบธรรมดา) อีก 5 หม้อ (หากยังไม่เคยได้อาหารชนิดนี้มาก่อนจะได้รับสูตรอาหารมาด้วย) เมื่อขายแล้วตัวเควสก็จะจบลง ได้รับประสบการณ์นักผจญภัยและ Primogems อีก 50 เม็ดติดกระเป๋ากลับไปเป็นอันเสร็จสิ้นความยากลำบากของเควสนี้กัน เรียกได้ว่าเป็นเควสที่ถ้าดูแค่รางวัลและความยากลำบากในการทำตั้งแต่ต้นเลยอาจจะไม่คุ้มค่านัก แต่ถ้าคิดว่าเป็นเควสต่อเนื่องจากการที่อุตส่าห์ไปนั่งอัพเลเวลของรูปปั้นจนเต็มแล้ว โดยไม่ได้สนใจตัวเควสนี้แต่แรกก็คุ้มค่าอยู่นะเอ้อ สุดท้ายนี้ก็ขอให้เพื่อนๆ สนุกสนานกับการทำเควสจ้า จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

ใน Genshin Impact นั้น Artifact นั้นก็เหมือนกับอุปกรณ์สวมใส่ที่จะช่วยเพิ่มควมสามารถของตัวละครต่างๆ เป็นอย่างมาก ดังนั้การเลือกใช้ Artifact ให้เข้ากับตัวละครหรือแนวทางการเล่นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมาก ในการทำให้ตัวละครนั้นสามารถเล่นได้ตามแนวที่ต้องการหรือออกมาดีที่สุดนั่นเอง ในบทความนี้ก็จะมาพูดถึงหลักการในการเลือกใช้ Artifact ให้เข้ากับตัวละครและบทบาทต่างๆ นั่นเอง เข้าใจกับบทบาทของตัวละครคร่าวๆ ในขณะที่เกือบทุกตัวละครในเกมนั้นมีหน้าที่ในการทำความเสียหายเป็นหลัก (และบางคนช่วยฮีล) แต่ทั้งนี้ ด้วยข้อจำกัดทางทรัพยากรในการอัพเลเวลตัวละคร รวมถึง ลักษณะของสกิลและความสามารถในการต่อสู้ ทำให้เราแบ่งบทบาทของตัวละครต่างๆ ออกได้เป็นหมวดย่อยๆ ดังนี้ DPS - เป็นหน่วยที่จะทำความเสียหายเป็นหลัก รีดความเสียหายได้ต่อเนื่องและรวดเร็ว ตัวละครกลุ่มนี้มักจะมีสกิลที่สนับสนุนการโจมตีปกติให้ดีขึ้น Support - เป็นหน่วยที่จะช่วยในการสร้างธาตุที่ตัวศัตรู (setup) เพื่อใช้ในการปิดคอมโบการผสมธาตุจากตัวอื่น จะเป็น support อีกคนหนึ่งหรือของตัว DPS หลักก็ได้ Nuker - ความสามารถของตัวละครกลุ่มนี้คือมีสกิลที่รุนแรงมาก มีลักษณะลูกผสมระหว่างของ Support และ DPS กล่าวคือ support จะสนับสนุนธาตุดีกว่า และ DPS ทำความเสียหายต่อเนื่องกว่า Nuker จะอาศัยการ setup จากตัวละครอื่นและโดดเข้ามากดสกิลเป้งเดียวแรงๆ แล้วโดดหนีกลับไป รอ Energy / Cooldown กลับมาอีกทีค่อยโดดมาใหม่นั่นเอง Healer - ตัวละครกลุ่มนี้หน้าที่หลักจะช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตให้กับคนอื่นในปาร์ตี้ให้สามารถเอาตัวรอดได้นานๆ เมื่อเพื่อนๆ เข้าใจบทบาทแล้วนั้น ก็จะทำให้สามารถเข้าใจหลักการเลือกตัว Artifact เซ็ทต่างๆ ได้ดีขึ้นไปด้วย ดังนั้นก็จะมาว่ากันด้วย วิธีการเลือก Artifact กันต่อเลย   การเลือก Artifact มาใช้งาน เพื่อนๆ น่าจะพอทราบกันแล้วผ่านทางบทความ ว่าตัวไอเทมเหล่านี้จะมีผลโบนัสเซ็ทของมันในรูปแบบ 2 ชิ้นและ 4 ชิ้น บางอย่างก็แลดูดี บางอย่างก็ดูไม่น่าไปได้กับบางตัวละคร ดังนั้นจึงมีหลักการเลือกใช้พวก Artifact ต่างๆ อยู่ หลักในการเลือกตัว Artifact มาใช้งานนั้น นอกจากจะดูในแง่ของผลเซ็ทแล้ว ค่าสเตตัสหลักก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ต่อการพัฒนาตัวละครของเพื่อนๆ ด้วย การได้ตัวเซ็ทดีๆ แต่ค่าที่ได้ไม่ช่วยพัฒนาตัวละครเท่าไหร่ ผลที่ได้ก็มักจะออกมาแย่กว่าการใส่จับฉ่ายแต่สเตตัสตรงเป๊ะ ในการเลือกใช้นั้น จะขอแบ่งเป็นช่วงเวลาในการเล่นก่อนอันดับแรก ► ช่วงต้นเกม ช่วงต้นเกมคือช่วงเริ่มเล่นจนถึงราวๆระดับนักผจญภัย 25 นั้น เป็นช่วงที่เพื่อนๆ จะหา Artifact ดีๆ ยาก และมักจะต้องใช้ตามมีตามเกิดเสียก่อน ดังนั้นในจุดนี้ เพื่อนๆ จะมีตัวเลือกจาก Artifact ชุดที่หาได้ง่ายผุดๆ อย่างเช่น Adventurer, Berserker, Instructor พวกนี้กันก่อน (หยุด อย่าพึ่งหวังเซ็ทดีๆ อย่าง Gladiator เลย มันไม่ drop มาให้เพื่อนๆ ในช่วงนี้หรอก) ช่วงนี้ เพื่อนๆ ให้เลือกใช้งานเป็น Adventurer (เอาตัวรอด) + Berserker (เน้นตีปกติ) หรือ Instructor (ผสมธาตุ) อย่างละสองชิ้น โดยขึ้นกับว่าเป็นตัวที่เล่นกับธาตุเป็นหลักหรือโจมตีปกติเป็นหลัก ตัวเซ็ท Adventurer ในช่วงแรกนั้นช่วยเพิ่มค่าพลังชีวิตถึง 1,000 หน่วยซึ่งเยอะมากในช่วงที่ตัวละครพึ่งมีเลเวลน้อยๆ แถว 1-40 (เลเวลตัวละครนะไม่ใช่นักผจญภัย) ทำให้เพื่อนๆ รอดจากพวกมินิบอสหรือบอสได้ง่ายขึ้น จนเมื่อเลเวลสูงกว่านั้นแล้ว ไอ้ 1,000 หน่วยก็จะเริ่มไม่สำคัญแล้วล่ะ ด้วยความที่ตัวเซ็ทไม่มีให้เลือกมากนัก ให้เพื่อนๆ มุ่งความสนใจไปที่ค่าสเตตัสหลัก หากทำได้ให้เลือกพลังโจมตีมาก่อนเสมอ และตีบวกให้เป็น +4 จะช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ได้ดีมาก วิธีนี้จะดีกว่าการไปนั่งเสียเวลาเลือกผลเซ็ทเฉพาะอย่างที่ต้องการ อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆ ควรจะหาอย่างน้อยเป็นระดับ 3 ดาวไว้ด้วย เนื่องจากมีค่าเริ่มต้นของค่าสเตตัสที่ดีกว่า   ► ช่วงกลางเกม ในตอนนี้เพื่อนๆ จะมีระดับนักผจญภัยแถวๆ 25-34 ซึ่งจะเริ่มมี Artifact เซ็ทต่างๆ ปรากฎตัวออกมามากขึ้นบ้างแล้ว แม้จะยังไม่เกลื่อนกลาดก็ตาม ทำให้เพื่อนๆ มีตัวเลือกมากขึ้นเยอะและเริ่มเน้นไปยังชุดที่ใกล้เคียงกับที่ต้องการได้แล้ว แต่นั่นคือกับดัก!!! การพยายามฟาร์มหาเซ็ทที่เพื่อนๆ ต้องการในตอนนี้นั้นเป็นอะไรที่สิ้นเปลือง Resin ที่มีจำกัดจำเขี่ยเป็นอย่างมาก (แต่ถ้ามัน drop มาจากบอสที่เพื่อนๆ ต้องล่าหาของมาเลื่อนระดับอยู่แล้วก็ไม่เป็นไร คุ้มอยู่) เนื่องจากในช่วงท้ายเกมก็จะต้องฟาร์มหามันอีก ... ในระดับที่บ้าคลั่งกว่าเดิมด้วย เพราะมีเรื่องของดวงมาสุ่มค่าสเตตัสและตัวชุดอื่นๆ นั่นแหละ จึงไม่แนะนำให้เพื่อนๆ ฟาร์ม Artifact ในตอนนี้ ยอมอดทนอีกซักนิดจะคุ้มกว่ามาก ในช่วงนี้ ถ้าเพื่อนๆ หาผลเซ็ทที่ใกล้เคียงกับแนวทางของตัวละครได้ก็โชคดีไป แต่การเน้นไปที่เซ็ท 2 ชิ้นผสมกัน และดูค่าสเตตัสหลักให้ตรงกับแนวที่อยากเล่นนั้นจะดีกว่าอยู่ดี รวมไปถึงช่วงนี้ เพื่อนๆ ควรเริ่มตี +4 +8 ได้แล้วล่ะ ยิ่งถ้าเป็นส่วนขนนกที่การันตีค่าพลังโจมตีเป็นหน่วย +12 ไปเลยยังได้ ถ้าสี่ดาวเซ็ทที่ชอบใจพอดี +16 เลยก็ยังไหว (เอาไปย่อยให้กินทีหลังก็ขาดทุนไม่มาก) DPS - เน้นผลพลังโจมตี, คริติคอลเป็นหลัก เนื่องจากตัวละครกลุ่มนี้จะโจมตีปกติรัวๆ ตลอดเวลา Nuker - ให้เน้นความชำนาญธาตุเป็นหลัก หรือจะเป็นพลังโจมตีก็ได้ แต่ไม่ควรใช้ Artifact ที่มีผลเกี่ยวข้องกับการกดโจมตีปกติเท่าไหร่นักเพราะใช้สกิลหากิน/สลับตัววนสกิลมากกว่าไล่ตีเรื่อยเปื่อย Support - จะเน้นพลังโจมตี, ความชำนาญธาตุ(ถ้าอัพเลเวลมาสูงๆ) หรือจะเน้นฟื้นฟูพลังงาน เพื่อเร่งเกจไม้ตายก็ได้ ขึ้นกับว่าเพื่อนๆ จะใช้ Support ตัวนั้นทางไหน เช่นเอามากดสกิลปกติ หรือเอามากดไม้ตายเป็นหลัก Healer - เลือกผลพลังโจมตีเป็นหลักเพื่อมาช่วยตีแรงขึ้นระหว่างฮีล ยกเว้น Barbara ที่ต้องเลือกค่าสเตตัสหลักเป็นเลือด หรือ Noelle ที่ใช้พลังป้องกันเป็นหลัก   Artifact ช่วงท้ายเกม ขอต้อนรับเพื่อนๆ เข้าสู่โรงเกลือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่ง Teyvat ที่ซึ่งเพื่อนๆ จะได้ชีช้ำกระหล่ำปลีจากการตามหา Artifact เซ็ทที่ใช้ และค่าสเตตัสที่ต้องการ แต่ดวงก็คือดวง มันอาจจะออกในการลง Domain ครั้งแรก หรือเกลือกว่ากาชา 0.6% ก็ได้ ในช่วงท้ายเกมตอนระดับนักผจญภัย 35 ขึ้นไปนี้ เพื่อนๆ จะได้เริ่มหาพวก Artifact Set ที่ใช้คนที่ชอบกันจริงๆ จังๆ แล้ว บางคนอาจจะรอให้ 40 ก่อนก็ได้ เนื่องจากจะมีโอกาสได้แบบ 5 ดาวที่เป็นระดับที่สูงที่สุดแล้ว ขึ้นกับความอดทนรอ (... เอาจริงๆ...

Genshin Impact เป็นเกมที่แม้จะมีการเล่นแบบ Action ตัวละครหลักตัวเดียว แต่ก็มีการจัดตัวละครในปาร์ตี้หลักของตัวเองอยู่ด้วย ทำให้เวลาเล่นเพื่อนๆ จะได้ขนตัวละครไปด้วยกันเสมอกลุ่มหนึ่ง ซึ่งก็อาจจะทำให้เพื่อนๆ หลายคนสงสัยว่า เราควรจะจัดทีมให้มีตัวละครอะไรยังไงกันบ้างถึงจะดี ในบทความนี้ก็จะมาเล่าสู่กันฟังให้เพื่อนๆ เป็นแนวทางสำหรับการจัดปาร์ตี้กัน เกี่ยวกับบทบาทในปาร์ตี้ ในการจัดทีมพื้นฐานทั่วไปนั้น จะมีการแบ่งบทบาทของตัวละครออกเป็นกลุ่มๆ ด้วยกัน 3 แบบ ซึ่งมีหน้าที่แยกจากกันค่อนข้างชัดเจนตามแบบฉบับ 1. DPS ตัวทำความเสียหายหลัก เป็นตัวละครที่มีควรสามารถในการทำความเสียหายได้สูงมากมีสกิลที่เน้นไปทางการโจมตีโดยตรง หรือสนับสนุนการโจมตีโดยตรง จะเป็นตัวที่เพื่อนๆ จะทุ่มเทอัพเกรดทุกอย่างให้มากที่สุดกับตัวนี้ และเป็นตัวยืนพื้นฐานในการบวกกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ลอยมา ยกเว้นอะไรที่ตีไม่เข้าหรือต้องเล่นลูกเล่นที่ไม่สามารถทำได้จริงๆ นอกจากนั้นแล้ว จะเป็นลูกกระจ๊อกข้างทาง มอนเป็นฝูงๆ บอสตัวใหญ่ ตัวละครนี้จะรับเละทุกงานจากการที่เพื่อนๆ ปั้นมาเป็นอย่างดีเต็มที่นั่นเอง ตัวละครบางตัวอย่างเช่น Razor นั้นแม้สกิลจะคูลดาวน์เร็ว แต่ก็เหมาะจะเป็นตัวหลักมากกว่าตัวรองเนื่องจากท่าไม้ตายของเขาจะยุติลงทันทีถ้าสลับตัวละคร ทำให้ไม่สามารถดึงความสามารถได้สุดในฐานะตัว Support เท่าไหร่นัก และถ้าว่าแล้วถ้าอยากแปะแค่สายฟ้า Lisa ก็ทำได้ดีกว่ามาก   2. Support ตัวรอง/ตัวสนับสนุนความแรงตัวหลัก ตัวละครกลุ่มนี้เพื่อนๆ จะไม่ทุ่มเทอัพเกรดเท่าไหร่นัก อย่างมากก็แค่สลับมาแล้วโดนอะไรไม่สลายลงไปนอนคุยกับรากมะม่วงในวูบเดียวสองวูบก็พอ หน้าที่ของตัวละครกลุ่มนี้คือมีไว้เพื่อสนับสนุนตัวหลัก ไม่ว่าจะด้วยการใช้สกิลที่ส่งผลกับตัวละครอื่น หรือการใช้สกิลที่มีผลของธาตุต่อเนื่อง เพื่อสร้างธาตุที่ต้องการกับศัตรูในการคอมโบกับการโจมตีของตัวละครหลัก หรือบางทีอาจจะแค่มีไว้เพื่อผล ด้วยซ้ำเพราะใช้ไม่ถนัด/ไม่มีตัวละครธาตุที่ต้องการจะให้ใช้ ด้วยความที่ไม่ได้ใช้เป็นตัวยืนตัวชนหลักและไม่ได้อัพเยอะนัก แม้ว่าจะใช้บู๊เองลำบากหรือไม่ไหว แต่ในเวลาเดียวกันก็จะทำให้เพื่อนๆ ประหยัดไอเทมที่ใช้อัพตัวละครลงเป็นอย่างมาก จนเมื่อตัวหลักเริ่มตันแล้วจึงมาอัพตัวรองเหล่านี้กันบ้าง ไม่งั้นการฟาร์มจะโหดร้ายต่อชีวิตและกระเป๋าเงินในการเติม Resin มากๆ มีเท่าไหร่ก็ไม่พอ   3. Healer ตัวฮีลช่วยเหลือทีมไม่ให้ตายก่อนวัยอันควร เป็นตัวละครกลุ่มที่จะมีหรือไม่มีก็ได้ตามความพริ้วไหวของเพื่อนๆ ในการเล่น แต่มีไว้จะดีกว่า โดยเฉพาะใน Domain / Abyss ที่บางครั้งใช้ไอเทมอาหารไม่ได้ จะไม่มีทางฮีลตัวเองเลย ต้องไปเสีย Benediction ฮีลเอาฟรีๆ อีก กลุ่ม Healer นี้พื้นฐานแล้วจะเป็นตัวละครที่เพื่อนๆ อัพเกรดรองลงมาจากตัวหลัก เนื่องจากการฮีลมักจะต้องเสียเวลายันกับกลุ่มมอนสเตอร์พอสมควรหรืออาจจะต้องอาศัยการทำความเสียหายไปด้วย แต่ก็ไม่ถึงขนาดปั้นให้เท่าตัวหลักเท่าไหร่นัก อาศัยยื้อให้เลือดสวยๆ ก็พอ สลับตัวหลักมาฟาดให้จบๆ ไปไม่ต้องเสียเวลานานเกินให้เสี่ยงเสียเลือดเพิ่มแต่อย่างใด   น้องไม่เก่ง แต่ล่าหมู ล่านก จุดเสา ยิงจุดอ่อนขอให้บอกเหอะ ไม่นับลดค่า Stamina ตอนร่อน 20% ด้วยนะตัวเอง EX. Explorer ตัวละครที่เน้นการไขปริศนาระหว่างการสำรวจ กลุ่มนี้เป็นกลุ่มพิเศษที่เพื่อนๆ จะได้ใช้ในช่วงต้นเกมหรือช่วงที่สำรวจโลกกว้างจากความสะดวกในการใช้สกิลหรือธาตุต่างๆ โดยมากมักเป็นตัวละครสายสื่อเวทย์, สกิลคูลดาวน์ไว, ธาตุตรงกับพื้นที่ที่ต้องการ มากกว่าในแง่อื่นใดทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น น้อง Amber ที่เหมาะกับการจุดคบไฟในพื้นที่ต่างๆ ได้รวดเร็ว, ตัวละครหลักธาตุลมสำหรับงานเป่าลมในจุดต่างๆ, ธาตุดินสำหรับยกระดับการกระโดดเล็กน้อย, Lisa งานช๊อตเสา, Kaeya ฉายาเรือมนุษย์ หรือเหล่าผู้ใช้ดาบใหญ่ในการขุดเหมืองแร่ ซึ่งเพื่อนๆ จะใช้ตัวละครกลุ่มนี้เป็นตัวยืนในสามกลุ่มดังกล่าวก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด เพราะหน้าที่ในการสำรวจนั้นเป็นของทุกคนอยู่แล้ว แค่นำมาใช้ให้เหมาะกับงานมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการจัดปาร์ตี้จึงมักมีลักษณะเป็น 1 DPS, 0-1 Healer , 2-3 Support ในการบู๊ทั่วไป ส่วนในด้านการผจญภัยนั้นจะปรับเปลี่ยนตัวกันไปตามแต่ว่าเพื่อนๆ ชอบสลับตัวละครในปาร์ตี้กันแค่ไหน เพราะปกติตัวละครเพื่อนๆ จะไม่สามารถครอบคลุมทุกปริศนาที่เจอได้แน่นอน เอาแค่เสาธาตุไม่ตรงหรือมีการจับเวลา ก็มักจะได้เปลี่ยนตัวกันแล้วล่ะ (ฮา) อย่างไรก็ดี เพื่อนๆ ควรดูการธาตุของตัวละครในทีมและจัดให้มีการสนับสนุนกันเพื่อให้เกิดการผสมธาตุ ช่วยในการสร้างความเสียหายให้กับศัตรูได้ดีขึ้นไปด้วย   ตัวอย่างการจัดตัวละครในปาร์ตี้ ในส่วนนี้เป็นเพียงการแนะนำเท่านั้น เพื่อนๆ สามารถหาแนวทางของตัวเองหรือปรับเอาตามที่ตัวเองถนัดที่สุดจะดีกว่า ก่อนอื่นเพื่อนๆ ต้องดูก่อนว่า ในกลุ่มตัวละครที่เพื่อนๆ ได้มาจากการหมุนกาชานั้นมีตัวละครอะไรบ้าง และแต่ละตัวมีความสามารถอะไร เมื่อรวมกับตัวละครฟรีทั้งหลายแล้วสามารถจัดทีมได้อย่างไรบ้าง ซึ่งตัวฟรีนั้นก็จะมีดังนี้ Traveler (ตัวเอก) ธาตุลม / ดิน Amber ธาตุไฟ Lisa ธาตุไฟฟ้า Kaeya ธาตุน้ำแข็ง Noelle ธาตุดิน - ได้จากกาชาการันตีในป้าย Beginner Xiangling ธาตุไฟ - ได้จากการผ่าน Spiral Abyss ชั้น 3-3 สำเร็จ Barbara ธาตุน้ำ - เฉพาะคนที่เก็บ Adventure Rank 20 ทันในช่วงต้นของการเปิดตัวเกม จากนั้นเพื่อนๆ ก็จะมาพิจารณาว่า อยากจะปั้นตัวไหนเป็นดาวประจำใจ เป็น Main DPS ของเพื่อนๆ โดยดูจากความสามารถในการบวกมอนเป็นหลัก หรืออยากจะเอาตัวอื่นไปเป็นก็ได้ มันอาจจะไม่เร็วเท่าคนอื่น แต่ถ้าเล่นแล้วสนุก ฟินก็โอเค แต่เพื่อนๆ อาจจะต้องทำใจด้วยว่าในเนื้อหาบางส่วนเช่น Challenge, Spiral Abyss การเล่นนอกเมต้า ก็อาจจะเหนื่อยเป็นพิเศษหน่อย เพราะมีการบังคับเงื่อนไขอะไรต่างๆ เพิ่มเติม อย่างในกลุ่มตัวฟรี DPS นั้น Xiangling จะค่อนข้างเด่นที่สุด การโจมตีที่เร็ว, สกิลที่ต่อเนื่อง ทำให้สามารถโยกไปยังสาย Support ก็ยังได้ หรือ Noelle เมื่อมีไม้ตาย เธอจะกลายเป็นหน่วยกวาดที่ทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่ไม่สามารถชาร์จไม้ตายได้ไวเพียงพอเท่าไหร่นัก ทำให้อาจจะรู้สึกขาดๆ อยู่บ้าง Lisa เองก็จัดว่าน่าสนใจด้วยธาตุไฟฟ้าที่ถ้าไม่เจอไฟฟ้าด้วยกันเองเป็นอันสปาร์คเปรี้ยะๆ สนุกสนาน แต่การโจมตีของเธอเป็นแบบเป้าหมายเดี่ยว ทำให้จัดการฝูงมอนลำบากซักหน่อย ในด้านการสนับสนุนนั้น ตัวละครหลักธาตุลมจะเด่นในด้านการรวบมอนเข้ามากองด้วยกัน (แม้หลังจากนั้นมันจะปลิวก็ตาม) เมื่ออัพกลุ่มดาวผ่านเนื้อเรื่องแล้ว หรือ Kaeya ที่สกิลคูลดาวน์ไว เหมาะแก่การนำมาแปะธาตุน้ำแข็งใส่ตัวศัตรู (แม้กระทั่งเอาไปบู๊ก็ยังได้อยู่) Amber แม้ตัวเธอจะสู้ศัตรูไม่เก่งมาก แต่ในด้านสนับสนุนบางอย่าง เช่นโยนตุ๊กตาล่อเป้า สาดไฟใส่กลุ่มมอน ยิงกบาลพวกมอนให้ตกมาจากด้านบนของป้อมจะได้ไม่ต้องปีน หรือเจาะจุดอ่อนของพวก Ruin Guard / Hunter ก็ยังทำได้ดี รวมถึงการล่าสัตว์อย่างนกหรือหมูป่า (ฮา) ด้านการฮีลก็จะมีเพียงสองตัวคือ Noelle ที่ฮีลเมื่อกดใช้สกิลสร้างเกราะและหวดศัตรูไปเรื่อยๆ ลุ้นว่าจะฮีลถี่แค่ไหน หรือจะใช้วิธีสลับตัวมาเปิดเกราะให้คนอื่นนำเลยก็ได้ ไม่ต้องรอเลือดลด กับ Barbara (ถ้ามี) ที่กดสกิลปุ๊บ ตีไปยังไงเลือดก็เด้งยกตี้ แถมไม้ตายมาทีกดฮีลแล้วเผ่นเลยยังได้ บางทีก็ไม่ต้องมีครบทุกธาตุก็ได้ ตรงนี้เพื่อนๆ ก็อาจจะหยิบตัวมาใช้กัน เช่น Xiangling หลัก สนับสนุนด้วย Kaeya (Melt), Lisa (Overload) ส่วนคนฮีลเป็นใครก็ได้ เป็นทีมพื้นฐานที่มีการสลับธาตุไปมาตามชนิดของมอนสเตอร์ น้ำแข็ง+ไฟสำหรับตัวใหญ่ๆ สายฟ้า+ไฟสำหรับมอนจำนวนเยอะๆ Noelle หลักและตัวฮีล สนับสนุนด้วยใครก็ได้ เพราะน้องเป็นธาตุดิน ทำปฎิกิริยาธาตุในเชิงรุกไม่ได้เลย ก็อาจจะใช้ Xiangling มาโยนตุ๊กตาพ่นไฟคู่กับตัวละครหลักธาตุลมมารวบ / กระจายความเสียหายก็ได้ และแถม Amber...

ในขณะที่ตัว Genshin Impact นั้นให้เพื่อนๆ ได้ค้นหาของต่างๆ และทรัพยากรในโลก Teyvat ที่กว้างใหญ่นี้ แต่ก็มีพ่อค้าแม่ขายหลากหลายที่จะช่วยขายของต่างๆ ให้กับผู้เล่นเช่นกัน การที่รู้ว่าใครขายอะไรก็จะทำให้เพื่อนๆ สามารถรวบรวมของบางอย่างได้ง่ายขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวล่ะ ในบทความนี้ก็จะรวบรวมตำแหน่งและของต่างๆ ที่เหล่า NPC มาขายให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันจ้า - ในตัวเมือง Mondstadt - ร้านต่างๆ ในเมือง Mondstadt นั้นค่อนข้างเกาะกลุ่มกันมากรอบกิลนักผจญภัย ทำให้สามารถวิ่งหาซื้อของได้ง่ายมาก แม้ว่าร้านขายของจิปาถะจะขายไม่เยอะเท่ากับ Liyue แต่ก็มีเด็ดกว่าตรงร้านอาหารที่ของกินแปรรูปแล้วเยอะดี เสียเงินเกือบแสนทุกอาทิตย์ได้ง่ายๆ กับร้านเจ๊แกคนเดียวนี่ล่ะ ► Sara : Good Hunter (ร้านอาหาร) ระยะเวลาการเติมของในร้าน : 1 อาทิตย์ (ตีสามของทุกวันจันทร์) การแสดงผลในเกมจะ Bug เป็น Reset ทุกวัน แต่จริงๆ ของไม่รีนะเอ้อ ของที่ขาย จำนวน ราคา Teyvat Fried Egg 5 200 Fisherman's Toast 5 1025 Chicken-Mushroom Skewer 5 450 Flour 10 150 Cream 10 150 Smoked Fowl 10 900 Butter 10 270 Ham 10 630 Sugar 10 450 Crab Roe 10 1125 Jam 10 1475 Cheese 10 420 Bacon 10 720 Sausage 10 840 Recipe : Tea Break Pancake 1 2500 Recipe : Flaming Red Bolognese 1 2500 Recipe : Cream Stew 1 2500 Recipe : Calla Lily Seafood Soup 1 5000 Recipe : Sauteed Matsutake 1 5000 Recipe : "Pile Em' Up" 1 5000 Flour, Cream, Butter, Cheese ไม่แนะนำให้ซื้อ ไปซื้อวัตถุดิบมาแปรรูปเองประหยัดกว่ามาก   ► Blanche : Mondstadt General Goods (ร้านขายของทั่วไป) ระยะเวลาการเติมของในร้าน : 1 วัน (ตีสามของทุกวัน) ของที่ขาย จำนวน ราคา Salt 100 60 Pepper 100 80 Onion 100 80 Milk 100 100 Tomato 100 120 Cabbage 100 120 Potato 100 120 Wheat 100 100   ► Majourie : With Wind come Store (ร้านแลกเปลี่ยน Sigil) ระยะเวลาการเติมของในร้าน : ไม่มี ขายแล้วขายเลย ของในร้านจะใช้ Anemo Sigil ในการซื้อ (ได้จากการเปิดหีบต่างๆ ในเขต Mondstadt) ของที่ขาย จำนวน ราคา Agnidus Agate Silver 6 10 Varubada Lazurite Silver 6 10 Vayuda Turquoise Silver 6 10 Shivada Jade Silver 6 10 Prithiva Topaz Silver 6 10 Vajrada Amethyst Silver 6 10 Tile of Decarabian's Tower 3 4 Boreal Wolf's Milk Tooth 3 4 Fetter of the Dandelion Gladiator 3 4 Memory of Roving Gales 1 225 Northlander Sword Prototype 1 225 Mora x1600 60 1 Mora x1600 ไม่จำกัด 2   ► Flora : Floral Whisper (ร้านขายดอกไม้) ระยะเวลาการเติมของในร้าน : 1 อาทิตย์ (ตีสามของทุกวันจันทร์) ขายเฉพาะช่วงเวลากลางวัน ของที่ขาย จำนวน ราคา Sweet Flower 10 200 Windwheel...

ผีในเกม Phasmophobia แต่ละตัวจะมีหลักฐานสามอย่างที่เป็นตัวระบุประเภทของผีอยู่ ดังนั้นผู้เล่นจะต้องใช้เครื่องมือทั้งหมดที่มีและเฝ้าจับตาดูให้ดีว่าผีจะมีปฏิกิริยากับหลักฐานชิ้นไหน รวมถึงการรู้จุดแข็งจุดอ่อนของผีแต่ละตัวก็สามารถช่วยเราได้ในยามที่เก็บหลักฐานได้ไม่เพียงพอ โมเดลของผีในเกม Phasmophobia จะเป็นแบบสุ่ม ทำให้เราไม่สามารถระบุประเภทได้แม้ว่าจะเจอตัวแล้วก็ตาม และนิสัยของผีในเกมแต่ละรอบก็มีความไม่แน่นอน ดังนั้นการพยายามเก็บหลักฐานให้ครบเป็นข้อแนะนำที่ดีที่สุด ประเภทของผีใน Phasmophobia Spirit เป็นผีที่มีนิสัยไม่แน่นอน อาจจะดุร้ายหรือไม่ก็ได้ เดินมากหรือเดินน้อยก็ได้ ทำให้มักสับสนว่าเป็นผีชนิดอื่น หลักฐาน: เขียนหนังสือ (Ghost Writing) ตอบวิทยุ (Spirit Box) รอยนิ้วมือ (Fingerprints) จุดแข็ง/จุดอ่อน: ไม่มีจุดแข็งเป็นพิเศษ การจุดเครื่องหอม (Smudge Sticks) จะทำให้ Spirit หยุดโจมตีเป็นเวลานาน Wraith เป็นผีที่แทบจะลอยเหนือพื้นตลอดเวลา เป็นผีตัวเดียวในตอนนี้ที่เคลื่อนที่ทะลุกำแพงได้ หลักฐาน: อากาศเย็นจัด (Freezing Temperatures) ตอบวิทยุ (Spirit Box) รอยนิ้วมือ (Fingerprints) จุดแข็ง/จุดอ่อน: แทบไม่ได้ยินเสียงเดิน ทะลุกำแพงและประตูได้ แพ้เกลือมาก Phantom เป็นผีที่ลดค่าสติของเราได้แม้ยังไม่ถึงเวลาออกล่า ถ้าคิดว่าเจอ Phantom ให้พกยาเพิ่มค่าสติกับกล้องไว้ให้พร้อม หลักฐาน: อากาศเย็นจัด (Freezing Temperatures) EMF Level 5 Ghost Orb จุดแข็ง/จุดอ่อน: ถ้ามอง Phantom ตรง ๆ จะทำให้ค่าสติ (Sanity) ลดลงอย่างรวดเร็ว การถ่ายรูป Phantom จะทำให้มันหายตัวไปชั่วคราว แต่จะไม่หยุดล่า Poltergeist เป็นผีที่ชอบขยับและขว้างปาสิ่งของ สิ่งของที่ Poltergeist สามารถลดค่าสติของเราได้ด้วย หลักฐาน: ตอบวิทยุ (Spirit Box) Ghost Orb รอยนิ้วมือ (Fingerprints) จุดแข็ง/จุดอ่อน: ขยับสิ่งของหลายชิ้น/ประตูหลายบานพร้อมกันได้ ขว้างปาสิ่งของจำนวนมากใส่ผู้เล่น ถ้าเป็นห้องว่าง ๆ ไม่มีสิ่งของ Poltergeist ก็จะทำอะไรไม่ได้ Banshee เป็นผีที่จะแอบติดตามเหยื่อช้า ๆ แล้วจัดการทีละคน หลักฐาน: อากาศเย็นจัด (Freezing Temperatures) EMF Level 5 รอยนิ้วมือ (Fingerprints) จุดแข็ง/จุดอ่อน: คอยไล่เก็บเหยื่อทีละคน ไม่เปลี่ยนเป้าหมาย แพ้ไม้กางเขนมาก Jinn เป็นผีที่ยุ่งกับเครื่องใช้ไฟฟ้าบ่อยกว่าผีตัวอื่น ทำให้โทรศัพท์ดัง เปิดวิทยุ เปิดทีวี ปิดไฟ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้เล่นสับสนกับ Mare หรือ Poltergeist หลักฐาน: EMF Level 5 ตอบวิทยุ (Spirit Box) Ghost Orb จุดแข็ง/จุดอ่อน: เคลื่อนที่เร็วถ้าเป้าหมายอยู่ไกล ปิดกล่องฟิวส์ (แหล่งไฟฟ้า) บริเวณนั้นจะทำให้ Jinn ใช้ความสามารถไม่ได้ Mare เป็นผีที่น่ากลัวที่สุดในความมืด ปิดไฟบ่อยที่สุด แถมไม่เปิดคืนให้ด้วย ถ้าผีเปิดคืนให้เป็นไปได้ว่าผีตัวนั้นเป็น Jinn หรือ Poltergeist แทน หลักฐาน: อากาศเย็นจัด (Freezing Temperatures) ตอบวิทยุ (Spirit Box) Ghost Orb จุดแข็ง/จุดอ่อน: โจมตีบ่อยในที่มืด ถ้าเปิดไฟเอาไว้ Mare แทบจะไม่โจมตี Revenant เป็นผีที่ไม่ค่อยย้ายที่ไปไหน ถ้าไม่เห็นผู้เล่นก็จะไม่ค่อยน่ากลัว แต่พอออกล่าจะอันตรายมาก หลักฐาน: EMF Level 5 เขียนหนังสือ (Ghost Writing) รอยนิ้วมือ (Fingerprints) จุดแข็ง/จุดอ่อน: เคลื่อนที่เร็วมากขณะออกล่า เปลี่ยนเป้าหมายหาคนที่ใกล้ที่สุดหรือโจมตีง่ายที่สุด ถ้าซ่อนตัวจะทำให้ Revenant เคลื่อนที่ช้าลงมาก Shade เป็นผีขี้อาย ไม่ค่อยทำอะไรถ้าเกาะกลุ่มกัน แต่ถ้าค่าสติต่ำก็อาจโดนล่าได้ หลักฐาน: EMF Level 5 เขียนหนังสือ (Ghost Writing) Ghost Orb จุดแข็ง/จุดอ่อน: ตรวจจับหรือหาหลักฐานยากมาก ถ้าไม่แยกกันหา แทบไม่ออกล่าถ้าหากผู้เล่นอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ชอบโจมตีผู้เล่นที่อยู่คนเดียว Demon เป็นผีที่อันตรายที่สุด โจมตีบ่อยกว่าผีตัวอื่น ๆ และคาดเดาไม่ได้ การพกไม้กางเขนช่วยในการเอาตัวรอดได้ หลักฐาน: อากาศเย็นจัด (Freezing Temperatures) เขียนหนังสือ (Ghost Writing) ตอบวิทยุ (Spirit Box) จุดแข็ง/จุดอ่อน: โจมตีบ่อยที่สุดในเกม ใช้กระดานผีถ้วยแก้ว (Ouija Board) แล้วไม่ลดค่าสติ (Sanity) Yurei เป็นผีวิญญาณที่สูบค่าสติมาก ขังไว้ในห้องด้วยเครื่องหอมได้ ควรพกยาเพิ่มค่าสติเอาไว้ หลักฐาน: อากาศเย็นจัด (Freezing Temperatures) เขียนหนังสือ (Ghost Writing) Ghost Orb จุดแข็ง/จุดอ่อน: ลดค่าสติ (Sanity) ได้อย่างรวดเร็ว การจุดเครื่องหอม (Smudge Sticks) ในห้องที่เจอ Yurei จะทำให้มันย้ายที่ไปไหนไม่ได้ Oni เป็นผีที่เคลื่อนที่บ่อยมากและมักจะออกมาให้เห็นตั้งแต่เริ่มเกมได้ไม่กี่นาที มักปรากฏตัวถ้าผู้เล่นอยู่ใกล้ แนะนำว่าให้ซ่อนในตู้จนกว่ามันจะไป หลักฐาน: EMF Level 5 เขียนหนังสือ (Ghost Writing) ตอบวิทยุ (Spirit Box) จุดแข็ง/จุดอ่อน: ถ้าผู้เล่นอยู่ใกล้มันจะออกมาบ่อยขึ้น เจอตัวง่าย ปรากฏตัวบ่อย การรู้นิสัยและจุดแข็งจุดอ่อนของผีจะช่วยให้เราเอาตัวรอดและระบุตัวพวกมันได้ง่ายขึ้น แต่ในบางรอบนิสัยของพวกมันก็เป็นอะไรที่ไม่แน่นอน เราอาจเจอผีที่ทำตัวไม่เหมือนกับที่ควรจะเป็นเลย การหาหลักฐานให้ครบจึงเป็นวิธีระบุตัวที่ดีที่สุด

ในโลกอันแสนกว้างใหญ่ของ Genshin Impact (ที่ตอนนี้ยังไม่กว้างมาก แต่ patch ต่อๆ ไปล่ะไม่แน่) นั้น อย่างที่เพื่อนๆ ทราบดีว่าการเดินเล่นในครั้งแรกนั้นจะมีอะไรให้สำรวจเต็มไปหมด แต่พอไล่เก็บจนหมดแล้วมันก็จะเริ่มโล่ง ซึ่งตัวเกมนั้นก็เลยมีการทำให้พวกของต่างๆ และมอนสเตอร์เหล่านี้มีการเกิดใหม่เป็นระยะๆ ไม่ให้ตัวเกมนั้นว่างเปล่าจนเกินไป ในบทความนี้ก็จะมาไล่ของที่เกิดใหม่ในแต่ละช่วงเวลาให้เพื่อนๆ ทราบกันจ้า ระยะเวลาการเกิดใหม่ของสิ่งต่างๆ ในเกม ก่อนอื่นก็ต้องขอแจ้งให้เพื่อนๆ ทราบก่อนว่าการรีเซ็ทเวลาในแต่ละวันนั้นก็จะต่างกันไป โดยในของบ้านเราทาง Server Asia นั้น มีการนับวันใหม่ตอนช่วง 03:00 หรือตีสามในแต่ละวัน จ้า ► ระยะเวลา 1 วัน (รีเซ็ทเมื่อขึ้นวันใหม่) ชนิดไอเทม ลักษณะ ทรัพยากรที่หาได้ทั่วไป เช่น Sweet Flower, Mint, Mushroom, Bird Egg, Apple, Sunsettia สัตว์ชนิดต่างๆ เช่น นก, หมูป่า, เป็ด, ปลา Ley Line Deposit ทั้งสองชนิดที่ยังไม่ได้ถูกเปิดดอกไม้รางวัล 20 Resin *หากเปิดดอกไม้แล้วจะเกิดใหม่ทันที* มอนสเตอร์ระดับมินิบอส เช่น Ruin Guard, Futai Electro Citin Mage (ตัวที่ไม่ต้องใช้ Resin และมีบันทึกในคู่มือนักผจญภัย)   ► ระยะเวลา 3 วัน (รีเซ็ทเมื่อขึ้นวันใหม่) ไอเทมเหล่านี้จะเป็นไอเทมที่หายากขึ้นหน่อย มีเงื่อนไขการเก็บหรือมีเฉพาะเขตในเขตหนึ่งเท่านั้น ชนิดไอเทม ลักษณะ วัตถุดิบเฉพาะพื้นที่ เช่น Wolf Hook, Valberry, Lotus Head, Philanemo Mushroom, Jueyun Chili ต่างๆ ไอเทมกลุ่มนี้หลักๆ มักจะใช้เลื่อนระดับตัวละครหรืออาจจะมีใช้ทำอาหารและยาบ้าง ดอกไม้ที่มีเงื่อนไขในการเก็บ (Flaming Flower Stamen, Mist Flower Corolla)   ► ระยะเวลานับหลังจากทำการเก็บไป ไอเทมเหล่านี้จะเป็นไอเทมกลุ่มแร่ต่างๆ ที่จะเริ่มนับเวลาเกิดใหม่เมื่อเพื่อนๆ เก็บไป เช่นไปเก็บตอนตีสอง ก็จะเกิดใหม่ในเวลาตีสองของวันถัดๆ ไป รวมถึงไอเทมที่วางอยู่ และจุดสำรวจต่างๆ ชนิดไอเทม ลักษณะ ระยะเวลา พืชผักทั่วไปตามพื้น, บนโต๊ะ, ในรถเข็นต่างๆ 1 วัน จุดสำรวจต่างๆ ที่มีประกายแสง เมื่อสำรวจแล้วจะมีไอเทมกระเด้งออกมา 1 วัน ก้อนอำพันใหญ่ที่ Mt. Hulao 1 วัน Iron Deposit 1 วัน White Iron Deposit 2 วัน Crystal Deposit 3 วัน Electro Crystal Deposit 3 วัน Cor Lapis Deposit 3 วัน Noctilucous Jade Deposit 3 วัน   ► ระยะเวลาเฉพาะตัว จะเป็นบอสและดันเจี้ยนต่างๆ โดยจะแบ่งดังนี้ ชนิดของตัวการ หน้าตา ระยะเวลา จุดเกิดของมอนสเตอร์ธรรมดาในฉาก ประมาณ 12-24 ชั่วโมงหลังกำจัด บอสทั่วไปที่ใช้ 40 Resin (Elite Monster) ประมาณ 2-5 นาทีหลังจากไม่อยู่ในพื้นที่นั้น บอสรายอาทิตย์ Stormterror, Wolf of the North *ตัวบอสจะเกิดใหม่เรื่อยๆ แต่ดอกไม้ที่เปิดรับรางวัลจะเปิดได้เมื่อรีเซ็ทแล้วเท่านั้น* รีเซ็ททุกวันจันทร์ตอนตี 3 Spiral Abyss พื้นที่ Spiral Moon Spire (ตั้งแต่ชั้นที่ 9 ขึ้นไป) ทั้งตัว Star Bounty (ทำ Challenge ในแต่ละห้อง) และตัว Chamber Reward (รางวัลผ่านห้องนั้นได้) *ชั้นที่ 1-8 จะไม่มีการรีเซ็ททุกกรณี* รีเซ็ทในวันที่ 1 และวันที่ 16 ของทุกเดือน     ► ลึกลับเยี่ยงความลับจักรวาล จะเป็นเรื่องของหีบสมบัติชนิดต่างๆ ที่ยังไม่มีใครทราบถึงวิธีการเกิดใหม่ของพวกมัน (ยกเว้นจะมีคนแกะ Source Code ของเกมออกมาล่ะนะ) บ้างก็ว่ามีระยะเวลาเกิดใหม่ บ้างก็ว่าไม่ ซึ่งจากที่พยายามรวบรวมข้อมูลที่ผ่านมาเรื่อยๆ มีทฤษฎีที่น่าสนใจเป็นอย่างมากว่า ตัวหีบนั้นจะไม่เกิดใหม่ตามระยะเวลา (รอนานแค่ไหนก็เท่าเดิม) แต่จะเกิดใหม่ตามระดับนักผจญภัยของเพื่อนๆ (เมื่อระดับเพิ่มจะมีโอกาสที่จะเกิดใหม่) แน่นอนว่าทฤษฎีนี้ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่จากจำนวนผู้เล่นที่พยายามวิเคราะห์ ที่เป็นกลุ่มผู้เล่นที่มีระดับนักผจญภัยสูงจนเริ่มไม่ขยับเพิ่มเร็วๆ แล้ว (40 ขึ้นไปทั้งนั้น) ต่างก็พบว่าโลกของพวกเขาที่เปิดหีบจนเกลี้ยงนั้น โล่งจนน่าเบื่อกันเลยทีเดียว ดังนั้นจึงยังไม่อาจจะยืนยันได้อย่างแน่นอนว่าหีบเหล่านี้จะเกิดใหม่หรือไม่ แต่เพื่อนๆ ทำใจว่ามันไม่เกิดใหม่จากระยะเวลา แต่จากระดับนักผจญภัยไว้ก่อนอาจจะดีกว่า ตัวหีบสมบัติ หน้าตา ระยะเวลา Common Treasure Chest (Lv1) มีโอกาสเกิดใหม่สูงสุดเมื่อระดับนักผจญภัยเพิ่มขึ้น Exquisite Treasure Chest (Lv2) มีโอกาสเกิดใหม่บ้างเมื่อระดับนักผจญภัยเพิ่มขึ้น Precious Treasure Chest (Lv3) เหมือนจะไม่เคยเห็นเพิ่ม Luxurious Treasure Chest (Lv4) ไม่มีรีใหม่   หลังจากเพื่อนๆ ทราบแล้วว่าอะไรมีการรีเซ็ทเวลาเกิดใหม่ตอนไหน ถ้ามีเวลาเล่นก็สามารถเข้าไปไล่กวาดของต่างๆ เหล่านี้เพื่อให้คุ้มค่า พัฒนาตัวละครให้ดีที่สุดกันไปได้เลยน้า เพราะของบางอย่างก็ใช้เยอะ จะมาเก็บตอนที่อยากจะใช้เท่านั้น บางทีมันก็ต้องรอกันยาวกว่าที่จะได้ใช้จริงๆ เปล่าๆ Happy Hunting จ้า จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Artifact ในตัวเกม Genshin Impact นั้นก็เหมือนกับอุปกรณ์สวมใส่อย่างหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มค่าสเตตัสให้กับตัวละครของเพื่อนๆ ได้เป็นอย่างมาก และก็สามารถอัพเลเวลได้ แต่การอัพเลเวลตัว Artifact นั้นก็แอบยากนิดที่ต้องใช้ไอเทม ด้วยกันเองในการอัพ จะลงดันหามาอัพก็เปลือง Resin เพราะงั้นวันนี้ก็จะมาแนะนำวิธีการหา Artifact เลเวลต่ำๆ ที่หาได้ทุกวันกันแทนจ้า ได้ EXP น้อยหน่อยแต่หาได้ทุกวันจำนวนมาก และไม่เปลือง Resin ด้วย เฮ https://www.youtube.com/watch?v=YfRRJUpIvP0 หาจากจุดสำรวจตามแผนที่ วิธีนี้จะเป็นการที่เพื่อนๆ วิ่งสำรวจตามจุดต่างๆ ในแผนที่ของเมือง Liyue เพื่อกดสำรวจจุดที่มีประกายแสงในจุดที่กำหนด แต่ละจุดนั้นจะมีโอกาสที่จะได้รับ Artifact 1-2 ดาวประมาณ 1-3 ชิ้นแล้วแต่ตำแหน่ง (ส่วนมากจะได้ 1 ดาว มีโอกาสเล็กน้อยจะสุ่มได้ 2 ดาวบ้าง) ซึ่งในจุดประกายแสงบางจุดก็จะเป็นพวกวัตถุดิบทำอาหารหรือแร่ต่างๆ และอาจจะเป็นแค่เงินอย่างเดียว ซึ่งจะกำหนดตายตัวเลยว่าจุดไหนได้อะไรไม่มีสุ่มเปลี่ยนไปมาในแต่ละวัน เส้นทางทั้งหมดใน Liyue นั้นจะใช้เวลาวิ่งราวๆ 15-25 นาทีขึ้นกับความเคยชินของเพื่อนๆ ในการวิ่งและการออกนอกลู่นอกทาง (ฮา) โดยจะขออ้างอิงจากทาง เช่นเคย แต่ก็จะขอเว้นในจุดที่ทางผู้เขียนไม่เจอจุดสำรวจ หรือจุดที่อยู่นอกเหนือจากในแผนที่ และต้องใช้เวลาเดินทางไปหาไกลมากๆ (เกิน 5 นาที) จุดสำรวจเหล่านี้จะใช้เวลาในการเกิดใหม่ 24 ชั่วโมงหลังจากที่เพื่อนๆ ทำการสำรวจจุดนั้นๆ ไม่ได้รีเซ็ทตอนตีสามนะจ๊ะ ตรงนี้เพื่อไม่ให้สับสนตำแหน่ง ก็จะขอย่อยออกเป็นพื้นที่ย่อยๆ 3 ส่วนดังนี้ ► บริเวณด้านบนของโรงแรม Wangshu ลำดับ พื้นที่ จำนวน รูปขยาย 1 Stone Gate วาร์ปแล้วแวะไปหาคุณปู่ร้านน้ำชา 1 จุด 2 Qingce Village วาร์ปแล้ววิ่งไปตามเส้นทาง 3 จุด 3 ทางซ้ายของ Qingce Village วาร์ปแล้ววิ่งไปได้เลย 1 จุด 4 Dihua Marsh วาร์ปมาจากรูปปั้น วิ่งยาวๆ 2 จุด 5 Wangshu Inn ร่อนลงมาจากด้านบนของโรงแรม (ระวังโดดลงมากระแทกรั้วดับ) 1 จุด 6 Sal Terrae เดินอ้อมทะเลไปโล้ด 3 จุด (ติดกัน) 7 Yaoguang Shoal บินจากรูปปั้นไปหา 1 จุด   ► บริเวณด้านล่างสุด ลำดับ พื้นที่ จำนวน รูปขยาย 1 Domain of Wayward Path ไปจาก Domain หรือจากจุดวาร์ปก็ได้ 1 จุด   ► บริเวณด้านซ้ายของโรงแรม Wangshu ลำดับ พื้นที่ จำนวน รูปขยาย 1 Jueyan Karst (เส้นบน) ให้ไปจากจุดวาร์ปนะ กลางทางมีฝูงสไลม์ตีเล่นได้ 2 จุด 2 Jueyan Karst (เส้นล่าง) ไปจากจุดวาร์ปเป็นหลัก 4 จุด 3 ทางขวาของ Jueyan Karst วาร์ปแล้ววิ่งขึ้นเนินไปทางชายหาด 3 จุด 4 Qingyun Peak ไปจากจุดวาร์ปแล้วร่อนไปที่ภูเขาจะง่ายกว่า 3 จุด 5 ด้านบนของ Qingyun Peak วิ่งไปที่บ้านแล้วค่อยวิ่งผ่านช่องเขา 3 จุด 6 บริเวณหุบเขาด้านบนของ Qingyun Peak ทางจะกว้างๆ ชวนสับสนนิด สังเกตุทิศดีๆ 5 จุด 7 ชายหาดทางซ้ายของ Dihua Marsh เริ่มมาไปที่ซากรถเข็น เก็บแล้วไปตามชายหาด แวะไปที่ซากเรือ ต่อด้วยซากปรัก (มีพุ่มไม้บังรกมากๆ) จากนั้นปีนเขาขึ้นไปด้านบนอีกที 10 จุด   หาได้จากการตีมอนสเตอร์ขนาดใหญ่ / Miniboss วิธีนี้จะเป็นการลุ้นโอกาสดรอปอันน้อยนิดของมอนเสตอร์เหล่านี้ เพื่อนๆ ตีซัก 5 ตัวอาจจะหล่นแค่ชิ้นเดียวก็ได้ โอกาสดรอปค่อนข้างต่ำมากๆ อยู่ แต่ก็จะมีการได้รับ Artifact ระดับ 3~4 ดาวได้ ซึ่ง World Level ก็จะส่งผลให้มีโอกาสได้มากขึ้นในระดับ 3 ดาว และถ้า World Level สูงพอก็อาจจะได้ถึง 4 ดาวเช่นกัน (ถ้าดูจากตารางที่มีการ Drop ลงมาล่ะนะ) มอนสเตอร์เหล่านี้จะเกิดใหม่ทุกวัน และสามารถเช็คผ่านคู่มือนักผจญภัยของเพื่อนๆ ได้ แต่ไม่ใช่ทุกตัวในคู่มือที่จะดรอป Artifact แต่อย่างใด แถมมอนสเตอร์เหล่านี้ยังเกิดนอกเขตของคู่มือได้อีกด้วย (เช่น Futai Electro Cicin Mage นั้นก็สามารถเจอเจ๊เดินดุ่ยๆ ในเขต Liyue ได้เช่นกัน) ดังนั้นเพื่อนๆ อาจจะต้องพยายามตามหาตัวกันซักหน่อยถ้าจะหานอกเขต ตัวที่ Drop Artifact ก็จะมีดังนี้ Futai Electro Cicin Mage Abyss Mage ทั้ง 3 ธาตุ Mitachurl โล่ไม้, โล่ดิน, เกราะดิน Ruin Guard Ruin Hunter Futai Pyro Agent Geovishap Hatching ถึงจะดาวเดียว แต่มีเป็นสิบก็อัพเลเวลได้นะเอ้อ ส่วนตัวก็จะขอแนะนำให้เพื่อนๆ วิ่งหา Artifact ตามเส้นทางในเมือง Liyue ทุกวัน เนื่องจากใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ และหากต้องการเพิ่มเติมค่อยไปไล่ล่าตบตีเหล่ามอนสเตอร์ระดับมินิบอสต่างๆ จะดีกว่า เนื่องจากโอกาสดรอปนั้นไม่มากเท่าไหร่ แต่ก็จะดีสำหรับคนที่ต้องการหาฟาร์มของสำหรับเลื่อนระดับต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร อาวุธหรือ Talent ด้วยในตัว ก็ถือเป็นโบนัสของแถมกันไปจ้า จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ!...

ในโลกกว้างใหญ่ของเกม Genshin Impact มีภารกิจ กิจกรรม พัซเซิลและอีกมากหมายให้ได้ทำกันอยู่เสมอ ตามจุดต่างๆ ของแผนที่จะมีให้สามารถสู้กับศัตรูหรือเก็บของพิเศษเฉพาะแต่ละเมืองได้สิ่งเหล่านี้มีไว้ไม่ใช่แค่เอาไปสร้างอาหารแต่ยังมีไว้เพื่อใช้ในการอัพเลื่อนขั้นให้ตัวละครของผู้เล่นมี Max เลเวลสูงขึ้นด้วยนะ แต่ละจุดอยู่ไหนบ้าง แต่ละคนจะต้องใช้อันไหนไปดุกัน! วิธีการดูลูกศรในภาพ ในภาพแผนที่แต่ละอันจะทำเป็นลูกศรเรียงกันเอาไปเป็นจุดเริ่มต้นเก็บจนไปถึงปลายทาง ซึ่งภาพทั้งหมดนี้จะเป็นจุดที่สามารถหาได้เยอะเก็บได้ไม่ยากมากเกินไปและเป็นไกด์ไลน์ในการเก็บของเหล่านั้น Philanemo Mushroom เห็ดชนิดนี้จะอยู่ตามบ้านเรือนและเสากังหันขนาดใหญ่ Small Lamp Grass ดอกไม้เรืองแสงหาได้จากในป่าชื่นอับแสงเป็นส่วนใหญ่ Calla Lily หาได้ตามแถวหนองน้ำ ตรงไหนมีน้ำมักเจอ Calla Lily Cecilia เป็นดอกไม้ที่จะขึ้นบนที่สูงแถว Starsnatch Cliff เท่านั้น Dandelion Seed เป็นดอกไม้เรืองแสง 3 ช่อ ในต้นเดียว ใช้สกิลธาตุลมโจมตีใส่ดอกเดดิไลอ้อนจะกระจายไปในอากาศทำให้สามารถเก็บเมล็ดของมันมาได้ Jueyun Chili ต้นที่ออกผลเป็นพริกเผ็ดร้อนสีแดงสามารถหาได้ตามแถบ หมู่บ้าน Qingce Village และตามมุมเขา Windwheel Aster ดอกไม้กังหันสีแดงขนาดเล็กชอบอยู่ในจุดที่ลมพัดแรงหรือมีลมในบริเวณเป็นส่วนใหญ่ ตามจุดต่างๆ จะอยู่รวมกัน 3 - 4 ดอก Valberry ต้นที่ออกผลเป็นเบอร์รี่กลมสีชมพูอยู่เฉพาะ Stormbearer เท่านั้น Wolfhook ผลไม้สีม่วงเกินในป่า Wolvendom เท่านั้น Violetgrass ช่อดอกไม้สีม่วงที่จะเกิดตามเขาทรงเหลี่ยมเท่านั้นตัวดอกจะขึ้นตามกลางของเขาต้องปีนขึ้นไปเพื่อเก็บหรือร่อนจากที่สูงมองหาเท่านั้น (ดอกชนิดนี้มีเกิดอีกค่อนข้างหลายจุดแต่ค่อนข้างเก็บยากและวนหานาน) Noctilucous Jade หินแร่สีน้ำเงินทรงรีจะอยู่ตามในเหมืองและในจุดที่มีมากสุดคือที่ Minggyun Village ! Cor Lapis หินอำพันทรงเหลี่ยมมักจะอยุ่ตามปลายเข้ามีขนาดใหญ่เห็นได้ชัด Silk Flower ดอกไม้สีชมพูพุ่งข้างในคล้ายมังคุดมักจะอยู่ตามพุ่มใบไม้แดงจะมีให้เก็บสูงสุดพุ่มละ 2 ช่อ Glaze Lily ดอกไม้สีฟ้าคล้ายดอกบัวมักจะอยู่ตามหญ่าสีและดงดอกไม้ Starconch เปลือกหอยจะชอบอยู่ตามชายหาดมีให้เก็บค่อนข้างเยอะในแต่ละจุด และอีกที่คือแถว Guyun Syone Forest Qingxin ดอกไม้ชนิดนี้จะเกิดเฉพาะบนยอดเขาสูงเท่านั้นไม่มีเกิดบนดินเป็นดอกไม้ที่เก็บได้ยากและยังกระจายอยู่ในทุกเขา จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

ในครั้งนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำไอเทมที่น่าใช้งานในเกม ArcheAge ที่มีขายอยู่ใน Cash Shop ซึ่งในการแนะนำนี้ก็จะเป็นตัวเลือกในการตัดสินใจที่จะทำการซื้อสินค้าต่างๆ เพื่อเก็บไว้ใช้งานและใช้เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับเพื่อนๆ ในการเล่นเกมอีกด้วยไปดูกันเลยครับ คอสตูม ในหมวดของคอสตูมใน Cash Shop ส่วนใหญ่แล้วจะเป็น Image Item ที่เราสามารถใส่เลยก็ได้หรือเอาไปเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้กับคอสตูมที่มีค่าสเตตัสอย่าง Disciple Costume เป็นต้น ในหมวดนี้มีสินค้า 2 ชิ้นที่ผู้เขียนแนะนำเลยว่าให้ซื้อไว้ดังนี้ 1.Rousing Rabbit Pajama Set Rousing Rabbit Pajama Set เป็นชุดนอนเพียงหนึ่งเดียวที่มีขายใน Cash Shop ณ ตอนนี้ ในการแต่ละวันสามารถพื้นฟู Labor ได้ถึง 425 Point (ยังไม่รวมเตียงนอน) สามารถซื้อได้ในราคา 12000 XL เท่านั้น อ่านเพิ่มเติมได้ ที่นี่ 2.Classic Service Uniform: Casual Classic Service Uniform: Casual หรือถูกเรียกว่า ชุดเมด เป็นคอสตูมอเนกประสงค์ที่เหมาะกับสาย Life Skill เป็นอย่างยิ่งด้วยค่าสเตตัสเพิ่มเติมดังนี้ เพิ่ม Move Speed +3% เพิ่ม Vocation Points +10% เพิ่ม XP ที่ได้รับจาก Labor +5% เพิ่มค่า Proficiencies ทั้งหมด +10,000 ลด Production Time -5% สามารถซื้อได้ในราคา 12000 XL Otherworld Storage Chest หีบเก็บของสำหรับคนมีบ้านหรือฟาร์ม นอกจาก Warehouse Manager ที่เราใช้บริการฝากและเก็บของเป็นประจำแล้ว Otherworld Storage Chest ก็เป็นหีบเก็บของที่ซื้อได้ในราคาไม่แพงและยังขยายเป็น 150 ช่องอีกด้วย ขยายหีบเป็น 150 ช่อง โดยการใช้ Expansion Scroll x10 และ Otherworld Storage Chest x1 ทำการคราฟที่ Handicraft Kiln Workbench Otherworld Storage Chest ราคา 4000 XL + Expansion Scroll x10 ราคา 4000 XL เท่ากับว่า Expanded Otherworld Storage Chest 150 ช่องนี้มีราคาที่ 8000 XL เป็นไอเท็มที่สามารถวางได้ที่บ้านและฟาร์มเท่านั้น Any-Post Owl & Anywhere Warehouse Any-Post Owl & Anywhere Warehouse ขลุ่ยเรียกตู้จดหมายและหีบเก็บของที่เชื่อมต่อกับ Werehouse Manager ที่ไหนก็ได้เป็นไอเทมแนะนำที่จำเป็นต้องมี ไอเทมทั้งสองชิ้นนี้เป็นไอเทมถาวรไม่มีจำกัดเวลา และเมื่อเรียกออกมาแล้ว ตู้จดหมายและหีบจะอยู่ได้ 10 นาที สามารถซื้อได้ในราคาชิ้นละ 9900 XL Glider Companion: Sloth Glider Companion: Sloth เป็น Gilder ทีมีขายถาวรใน Cash Shop แบบไม่จำกัดเวลาซึ่งเจ้า Sloth นี้นอกจากจะน่ารักน่าใช้งานแล้วยังเป็น Gilder ที่สามารถร่อนลงในแนวดิ่งได้อีกด้วย กดร่อนลงแนวดิ่งด้วยการกดถอยหลัง (S) Glider Companion: Sloth สามารถซื้อได้ในราคา 14000 XL Wrapped Marvelous Mab Marvelous Mab แรคคูณบินได้ที่มีขายถาวรใน Cash Shop เราสามารถใส่ลูกแก้วเพิ่ม Effect พิเศษได้ 2 ช่อง ซึ่งเราสามารถเลือกลูกแก้ว Powerstone ใส่ได้ดังนี้ ไอเทม ชื่อ คุณสมบัติ Auto-Loot Powerstone เก็บ Loot ของเจ้าของที่อยู่ภายใน 40m อัตโนมัติ สามารถใช้ได้กับส่วนหน้าอกเท่านั้น Loot Drop Powerstone เพิ่ม XP ที่ได้รับของเจ้าของ, อัตราดรอป Gold และ Loot + 10% สามารถใช้ได้กับส่วนหัวเท่านั้น Kindled Spirit Powerstone ปลุก Spirit Powerstone เพิ่มความเร็วในการโจมตีให้เจ้าของ + 35 สามารถใช้ได้กับส่วนหัวเท่านั้น Bloomfang Powerstone เพิ่ม Max Health ของเจ้าของ +1500 สามารถใช้ได้กับส่วนหัวเท่านั้น Powerstone สามารถซื้อได้ในราคา 1500 XL และเมื่อเปิดใช้งานจะมีอายุการใช้งาน 30 วัน Skill พิเศษของเจ้าแรคคูณ Marvelous Mab คือ Abracadabra ที่ทำให้ศัตรูยกเลิกการกำหนดเป้ามายมาที่เราเป็นเวลา 3 วินาที ซึ่งเราจะสุ่มแปลงร่างเป็นสัตว์ต่างๆ ตอนเราแปลงร่างจะไม่สามารถใช่ Skill อะไรได้เลยแต่จะเพิ่มความเร็วในการเคลื่อนที่ให้เราเป็นอย่างมาก เอาง่ายๆ ก็คือเอาไว้หนีนั่นแหละ เราสามารถซื้อเจ้าแรคคูณ Marvelous Mab ได้ในราคา 9000 XL แพ็คพิเศษรายเดือนที่แนะนำ 1.Manastorm Crystal Manastorm Crystal เป็นไอเทมพิเศษที่นำมาแลกเป็น Glider สัตว์ขี่ สัตว์ต่อสู้ หรือเรือได้ที่ Mirage Isle ซึ่งในปัจจุบันเราสามารถหา Manastorm Crystal ได้จากการซื้อแพ็คพิเศษรายเดือนและรายวันเท่านั้น สามารถนำ Manastorm Crystal มาแลกเป็นไอเทมพิเศษต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีขายทั่วไปและไม่มีขายใน Cash Shop ได้ที่ Manastorm Fountain ใน Mirage Isle เท่านั้น ภาพจาก...

ในวันที่ 20 ตุลาคม 2020 เวลา 17.00 น. เกม Genshin Impact จะเพิ่มตู้กาชาลิมิเต็ดคนใหม่เข้ามาในเกมนั่นก็คือหนูน้อยผู้มาพร้อมระเบิดอย่างยิ่งใหญ่ Klee นั่นเองงง ซึ่งแน่นอนว่าผู้เล่นหลายคนโดยเฉพาะสายหมีเมื่อเห็นความน่ารักของน้องทั้งในเนื้อเรื่องเสริมของเธอ หรือแม้แต่ในตัวอย่างจากที่ต่างๆ มาแล้วก็ตามต้องอดใจรอเปิดหาในวันพรุ่งนี้ไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ถ้าได้ตัวมาไม่มีของอัพขั้นเลเวลก็แย่จริงไหมโดยเฉพาะเจ้า Philanemo Mushroom เป็นสิ่งหาได้ยากพอตัว ในวันนี้จะพาไปดูกันว่าสามารถหาเก็บได้จากไหนกันบ้าง! จุดเก็บ Philanemo Mushroom เจ้าเห็ดขนิดนี้จะชอบขึ้นอยู่ตามบ้านเรือนของผู้คนยิ่งตรงไหนมีไม้เลื้อยอยู่มักจะเจอออกดอกอยู่ประจำ และมักจะอยู่ในจุดสูงๆ ซะด้วย โดยแต่ละจุดที่หาได้นั้นมีดังนี้ 1. เมือง Mondstadt ในเมืองนั้นจะมีบ้านอยู่หลายหลังมากๆ และที่เสากังหันขนาดใหญ่เองก็มีอยู่ด้วยเช่นกัน ขั้นตอนแรกให้วาร์ปไปบนตึกกองกำลัง จากนั้นร่อนไปหกังหันลมที่อยู่ใกล้สุด ตรงนั้นจะมีให้เก็บอยู่ถึง 6 ดอก ต่อไปให้ไปยังบ้านใกล้สุดก่อนแล้วค่อยไปกังหันอีกเสา ต่อไปก็วนไปยังหลังกำแพงบ้านแต่ละจุดวนเป็นรูปตัว U ตามภาพด้านล่างได้เลย (บ้านแต่ละหลังจะมีให้เก็บจุดประมาณ 1 - 2 ดอก) 2. หมู่บ้าน Springvale จุดต่อไปให้วาร์ปไปยัง Springvale ก่อนแล้วไล่จากบ้านทางขวาของแผนที่จะเจอบ้านหลังใหญ่ แล้วค่อยๆ เก็บไล่ไปทีละหลัง (บนกังหันก็มีนะ) ไล่เก็บตามภาพด้านล่างได้เลย Philanemo Mushroom จะมีให้เก็บแต่ละหลังประมาณ 1 - 3 ดอก 3. ซื้อกับนักพฤกษศาสตร์ นอกจากจะสามารถหาเก้บได้ตามบ้านแล้วยังสามารถซื้อ Philanemo Mushroom กับ NPC นักพฤกษศาสตร์ที่มีชื่อว่า Cloris ได้ด้วย โดยตัวของเธอนั้นจะอยู่แถวขวาบนของ Windrise มีจุดวาร์ปอยู่ไม่ไกลสามารถวาร์ปไปตรงนั้นแล้วเกินขึ้นมาเส้นทางเดินซ้ายบนของแผนที่ได้ หลังจากมาถึงจุดดังกล่าวให้ลองหันมองรอบๆ เธอจะชอบเดินไปมาระหว่างพุ่มไม้ 3 จุด ไม่ห่างกันมากนักจะสามารถเจอกับเธอได้ เมื่อกดคุย Cloris จะมีพวกดอกไม้เฉพาะของเขต Mondstadt ให้ซื้อถึง 5 ชนิด 1 ในนั้นคือ Philanemo Mushroom นั่นเอง สามารถซื้อจากเธอได้ทั้งหมด 5 ดอก ดอกละ 1000 Mora มาซื้อได้ทุกๆ 3 วัน! หลังจากเก็บมาครบทั้งหมด 3 จุดก็จะได้เห็ดไว้ใช้สำหรับอัพน้อง Klee เยอะพอสมควรเลยทีเดียว เจ้า Philanemo Mushroom เมื่อเก็บมาหมดแล้วจะต้องรอประมาณ 3 วัน จึงจะสามารถกลับมาเก็บใหม่ได้อีกครั้ง ใครจะเปิดหาน้องอย่าลืมมาฟาร์มกันไว้นะ!! จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand