PC Guide

PC Guide - รวมบทความ เทคนิค ไกด์ต่างๆของชาว PC วิธีผ่านเกมเก่า วิธีฟาร์มเกมใหม่ จัดทีมยังไง ต้องทางนี้

ในเกม ArcheAge นั้น Talisman Temper ก็เปรียบเสมือนหินตีบวกให้อาวุธและชุดเกราะ ซึ่งเราสามารถหาได้จากหีบต่างๆ ที่ดรอปจากมอนเตอร์ เช่น Prince's Crate หรือ Ancestral Crate เป็นต้น ในครั้งนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำสถานที่ขุดแร่ที่มีโอกาสในการได้ Temper ชนิดต่างๆ เพื่อเอามาในการตีบวกอาวุธและชุดเกราะกันครับ แผนที่ในการขุดแร่ แผนที่ในการขุดจะอยู่ที่ West Hiram Mountains ในทวีป Auroria แหล่งแร่จะอยู่ภายในแม่น้ำของแผนที่ West Hiram Mountains เมื่อเราดำลงไปภายในแม่น้ำเราจะเห็น ก้อนแร่ที่มีผลึกที่ชื่อว่า Mysterious Mineral ให้ทำการขุดได้เลยโดยใช้ 20 Labor Point จุดขุดแร่สามารถดูได้ ที่นี่ ในการขุด Mysterious Mineral นี้เราจะได้แร่ในระดับสูงขึ้นมาเลย จะไม่มี Raw Stone หรือ Iron Ore ให้เห็น ซึ่งเรามีโอกาสได้แร่และไอเท็มดังต่อไปนี้ ไอเทม ชื่อ จำนวน Copper Ore 1 ก้อน Silver Ore 1 ก้อน Gold Ore 1 ก้อน Diamond 1 เม็ด Sapphire 1 เม็ด Ryby 1 เม็ด Emerald 1 เม็ด Topaz 1 เม็ด Amethyst 1 เม็ด Gilda Star 1 เหรียญ Radiant Hiram Awakening Scroll 1 ใบ Mysterious Hiram Infusion 1 ขวด Solar Temper 1 ชิ้น Lunar Temper 1 ชิ้น Solar Temper และ Lunar Temper เป็น Talisman ที่ใช้ในการตีบวกอาวุธปละชุดเกราะให้มีประสิทธิภาพดีขึ้นไปอีกครับ ก็จบลงไปแล้วกับวิธีการขุดแร่หาเจ้า Solar Temper และ Lunar Temper เพื่อนำมาตีบวกชุดและอาวุธของเรา จากที่ทดลองการขุดแล้ว Lunar Temper จะออกง่ายกว่า Solar Temper มาก ถ้าใครมี Labor เหลือๆ ก็มาขุดหากันได้ครับ หวังว่าไกด์นี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยและถ้าชื่นชอบในผลงานเขียนแล้วก็สามารถมาพูดคุยกันได้ที่เพจ >> THAILAND กุ๊กไก่เล่นไปเรื่อย << >>FANPAGE ARCHEAGE<<

Read more

ในแพทวันที่ 5 พฤศจิกายน 2563 ทางเกม ArcheAge ได้ทำการเพิ่มกิจกรรม Briquette Delivery หรือ จัดส่งด้วยหัวใจที่เป็นกิจกรรมยาวไปจนถึง 7 มกราคม 2564 เลยทีเดียว โดยกิจกรรมนี้จะเป็นของรางวัลที่น่าสนใจมากๆ นั้นก็คือ Manastorm Crystal ที่เป็นของรางวัล ซึ่งในหนึ่งวันเราสามารถสุ่มได้ถึง 10 - 20 ชิ้นเลยทีเดียวครับ เราไปดูวิธีทำกันเลยครับ เริ่มทำเควส ในเริ่มแรกให้เราทำการรับเควสกับ Commemorative Event Worker Lovely Nutcracker Costume โดย NPC จะอยู่ที่เมือง Austera, Marianople, Diamond Shores เพื่อรับ Order Receipt เมื่อคุยกับ NPC แล้วเราก็จะได้ Order Receipt มา เมื่อเราได้รับ Order Receipt แล้วก็ใช้งาน Order Receipt ที่ Supply Bundle Exchanger ที่ตั้งอยู่ข้างๆ กัน เพื่อรับ Community Center Delivery Order เมื่อเราได้ Community Center Delivery Order ให้เรากดคลิกขวาเพื่อเปิดใช้งานเควสจัดส่งด้วยหัวใจ เมื่อเปิดใช้งานเควสจัดส่งด้วยหัวใจแล้วให้ทำการหยิบ Trade Pack Brick Bundle ขึ้นมา เมื่อทำการหยิบ Trade Pack Brick Bundle ขึ้นมาแล้วตัวเควสจะทำการสุ่มที่หมายในการจัดส่งให้เรา ซึ่งเราต้องไปส่งให้ NPC ตาม Community Center ในแต่ละแผนที่ สามารถกดปุ่ม Map ที่เควสเพื่อดูจุดหมายปลายทางได้เลย ในการจัดส่งเราสามารถรับยานพาหนะต่างๆ ได้จาก Mystery Vehicle Box ฟรีได้ใน Cash Shop ในหมวด Event เมื่อเปิดกล่องแล้วจะได้รับยานพาหนะแบบสุ่ม 1 วัน เมื่อมาถึงที่หมายแล้วก็ให้นำ Trade Pack Brick Bundle ส่งกับ NPC Community Center Manager ที่ยืนอยู่ข้างป้าย Resident Board เมื่อส่งเควสแล้วเราก็จะได้ Heartfelt Gift เป็นรางวัล เมื่อเปิดกล่องเรามีโอกาสได้ไอเทมดังต่อไปนี้ ไอเทม ชื่อ หมายเหตุ Manastorm Crystal สุ่ม 10 - 20 ชิ้น Fruit of Effort สุ่มเงินจำนวน 10 - 100 Gold Hot Coffee ฟื้นฟู Labor ทุกๆ 5 นาที เป็นเวลา 50 นาที (ระยะเวลาที่เหลือจะคงนับถอยหลังแม้ว่าจะออกเกมไปแล้ว) หมายเหตุ 1.ตัวละครเลเวล 30 หรือมากกว่าเท่านั้น จึงจะสามารถรับเควสกิจกรรมได้ 2.เควสรายวันทุกเควสจะรีเซ็ตทุกวันเวลา 23.00 เวลาไทย 3.ไม่สามารถรับ'Order Receipt' และ 'Delivery Order' ได้อีก เมื่อไอเทมดังกล่าวถูกทำลาย 4.NPC, Deliver Quest, Order Receipt, Delivery Order, Supply Bundle Exchanger ทั้งหมดจะหายไปหลังปิดปรับปรุงเซิร์ฟเวอร์ในวันที่ 7 มกราคม 2021 5.สามารถใช้ Hot Coffee ได้จนถึงวันที่ 14 มกราคม 2021 6.ไม่สามารถวาง Trade Pack ได้และจะถูกทำลายเมื่อสำเร็จหรือละทิ้งเควส เมื่อตัวละครตาย หรือรับแล้วผ่านไป 24 ชั่วโมง 7.หากสูญเสีย Trade Pack สามารถรับใหม่ได้ที่จุดที่รับเควส 8.ไม่สามารถกู้คืนไอเทมกิจกรรมได้ทุกกรณี อ่านเพิ่มเติม ArcheAge.TH.SEA ที่นี่ ก็จบลงไปแล้วกับวิธีการทำกิจกรรมจัดส่งด้วยหัวใจ ที่เป็น Event สะสม Manastorm Crystal เพื่อนำไปแลกไอเทมต่างๆ ไว้ใช้งานครับ หวังว่าไกด์นี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยและถ้าชื่นชอบในผลงานเขียนแล้วก็สามารถมาพูดคุยกันได้ที่เพจ >> THAILAND กุ๊กไก่เล่นไปเรื่อย << >>FANPAGE ARCHEAGE<<

Read more

Keqing เป็น Yuheng 1 ใน Liyue Qixing เธอนั้นมีความสามารถในการใช้ดาบสั้นที่รวดเร็ว มีสกิลและท่าไม้ตายเป็นดาเมจธาตุไฟฟ้าจัดว่ารุนแรงหาใครเทียบได้ยาก แถมยังสามารถเคลื่อนย้ายไปยังจุดหมายที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดสกิลเพียง 2 ครั้งเท่านั้น! ข้อมูลตัวละคร ชื่อ : Keqing เกิด : วันที่ 20 พฤศจิกายน อยู่ฝ่าย : Liyue Qixing – Yuheng วิชั่นที่ครอบครอง : ธาตุไฟฟ้า กลุ่มดาว : Trulla Cementarii Keqing สาวน้อยผู้มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคแม้วันมามาก ผู้ที่ถูกเพ่งเล็งโดยเทพเจ้าจากทุกการกระทำของเธอที่ท้าทายไม่แคร์คำชี้นำของเทพเจ้า เพราะเธอเชื่อว่าอนาคตของมนุษย์ต้องลิขิตด้วยตนเอง วิธีการได้รับตัวละคร : ได้จากการเปิดกาชา Skill ภาพ สกิล รายละเอียด Yunlai Swordsmanship โจมตีด้วยดาบต่อเนื่องมากสุด 5 ครั้ง สร้างความเสียหายกายภาพ ชาร์จโจมตี (ใช้เกจสตามิน่า) ปลดปล่อยเพลงดาบไปข้างหน้า 2 ครั้งพร้อมกัน Stellar Restoration เล็งและขว้าง Lightning Stiletto ไปยังเป้าหมายด้านหน้า 1 ตัวสร้างความเสียหายธาตุสายฟ้า พร้อมสร้างสัญลักษณ์ Stiletto Mask กดแตะค้างเพื่อเล็งเป้าหมายที่ต้องการ กดโจมตีทันทีหลังใช้สกิลนี้ Keqing วาร์ปพุ่งเข้าโจมตีจุดที่สร้างสัญลักษณ์ Stiletto สร้างความเสียหายเกิดระเบิดสายฟ้าในพื้นที่วงกว้างด้านหน้าชั่วขณะ กดชาร์จโจมตี  Lightning Stiletto ระเบิดสร้างความเสียหายสายฟ้าในวงกว้างชั่วขณะ Starward Sword เรียกพลังสายฟ้าสถิตย์ในดาบ ทำให้เป็นอมตะชั่วขณะ เข้าโจมตีศัตรูด้วยกระบวนท่าดาว 5 แฉกสร้างความเสียหายสายฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนอย่างรวดเร็วให้กับศัตรูโดยรอบ และสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงในกระบวนท่าสุดท้าย Thundering Penance ภายใน 5 วินาทีหลังจากใช้สกิล Stellar Restoration อีกครั้ง การโจมตีปกติ และการชาร์จโจมตีของ Keqing เปลี่ยนเป็นความเสียหายสายฟ้า Aristocratic Dignity เมื่อใช้ท่าไม้ตาย อัตตราคริและประสิทธิภาพในการชาร์จพลังงานของ Keqing เพิ่มขึ้น 15% เป็นเวลา 8 วินาที Land's Overseer เมื่อทำคำขอการออกสำรวจของ Liyue เวลาที่ใช้ลดลง 25% กลุ่มดาว : Trulla Cementarii หมายเหตุ : ต้องใช้ดวงดาวแห่งชีวิตของ Keqing ในการอัพดาวแต่ละดวง สามารถหาได้จากการเปิดกาชาได้ตัวละคร Keqing ซ้ำเท่านั้น กลุ่มดาว สกิล รายละเอียด Lv.1 Thundering Might เมื่อใช้สกิล Stellar Restoration สร้างความเสียหายสายฟ้าวงกว้างเพิ่มขึ้น 50% Lv.2 Keen Extraction มีโอกาส 50% สร้างอณูธาตุสายฟ้า 1 ลูกทุก 5 วินาที เมื่อโจมตีปกติ หรือชาร์จโจมตีศัตรูที่ได้รับผลกระทบธาตุสายฟ้า Lv.3 Foreseen เพิ่มเลเวลสกิลท่าไม้ตายขึ้น 3 ระดับ เพิ่มได้สูงสุด 15 ระดับ Lv.4 Attunement เพิ่มพลังโจมตี 25% ภายใน 10 วินาทีหลังจาก Keqing ทำความเสียหายที่เกี่ยวข้องกับธาตุสายฟ้า Lv.5 Beckoning Stars เพิ่มเลเวลสกิล Stellar Restoration ขึ้น 3 ระดับ เพิ่มได้สูงสุด 15 ระดับ Lv.6 Tenacious Star ได้รับพลังโจมตีธาตุสายฟ้าเพิ่มขึ้น 6% เป็นเวลา 8 วินาที เมื่อใช้สกิล โจมตีปกติ ชาร์จโจมตี หรือปล่อยอันติ (คำนวณแยกกัน) จุดเด่น-จุดด้อย จุดเด่น จุดด้อย มีการโจมตีประชิดที่รวดเร็ว เข้าหาศัตรูได้ในพริบตาตามสไตล์นินจา เบิร์สดาเมจได้หนักหน่วง คริติคอลดาเมจสูงมาก ส่วนใหญ่เน้นการสแปมดาเมจด้วยการชาร์จโจมตีทำให้เหลือเกจสตามิน่าน้อย ต้องบริหารดี ๆ เผื่อสำหรับการแดชหนีการโจมตีด้วย สกิลธาตุใช้ได้หลากหลายรูปแบบ ตอบโจทย์ผู้เล่นทั้งสายกายภาพและสายโจมตีธาตุ เนื่องจากเป็นตัวละครสายประชิด ทำให้โดนล้อมโจมตีได้ง่าย การรักษาพลังชีวิตเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนที่ชอบเล่นแนวลุย ๆ บู๊แหลก อันติรีไวมาก เนื่องจากใช้พลังงานธาตุเพียง 40 พอยท์ทำให้ปล่อยอันติได้รัว ๆ ไม่ต้องกลัวใคร แนะนำอาวุธ Keqing เป็นตัวละครที่สามารถบิ้วไปได้หลายสายทั้งสายธาตุเน้นคริสูง, สาย Hybrid เล่นแบบผสมระหว่างโจมตีกายภาพและธาตุ หรือจะเป็นสายโจมตีกายภาพเพียวๆ แบบจัดจ้าน จะมีอาวุธแนะนำดังนี้ แนะนำอาร์ติแฟกต์  สำหรับ Keqing นั้นเน้นการโจมตีได้ทั้งกายภาพและธาตุสายฟ้า จะเล่นแบบไหนก็มันส์ชิ่งฟันกระจุยแถมยังมีคริติคอลดาเมจสูงกว่าตัวละครอื่น ๆ แนะนำให้ใส่ออฟหลักเป็น โจมตี% l เพิ่มดาเมจธาตุไฟฟ้า l คริดาเมจ หรือ คริติคอล, โจมตี% l โจมตี% l คริดาเมจ หรือ คริติคอล โดยอาร์ติแฟกจะจำแนกลง 2 สายเพื่อให้สะดวกแนวทางในการเล่นของแต่ละคร 1.เซ็ต Gladiator’s Finale จะใส่แบบ 2 ชิ้น หรือ 4 ชิ้น ก็รุนแรงไม่แพ้กันเพราะช่วยเสริมพลังโจมตีกายภาพให้กับตัวละครที่ถือดาบอย่าง Keqing ได้อย่างดี 2.เซ็ต Thundersoother ใส่แบบ 4 ชิ้นเพื่อเพิ่มความเสียหายให้กับศัตรูที่ได้รับผลกระทบ ธาตุสายฟ้าเพิ่มขึ้น 35% คำนวณแยกจากความเสียหายปกติ บอกได้เลยว่าถ้าไม่ได้เล่นชงกับธาตุไหนเซ็ตนี้แหละ แนะนำแรงถึงใจส่งน้อนถึงสวรรค์แน่นอน 3.เซ็ต Thundering Fury ใส่แบบ 2 ชิ้นก็ดี เพิ่มความเสียหายสายฟ้า 15% 4 ชิ้นก็โหด เพิ่มความเสียหายให้กับปฏิกริยาธาตุต่าง ๆ อาทิ Overload, Recharge, Superconduct เมื่อเกิดปฏิกริยาธาตุช่วยลด CD สกิล Stellar Restoration ลง 1 วิ ทำให้สร้างความเสียหายธาตุสายฟ้าได้ตลอดทั้งงาน จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

Read more

คริติคอลเป็นหนึ่งในสิ่งที่เพื่อนๆ คอเกม RPG หลายคนชอบมากมาย โดยเฉพาะการได้เห็นตัวเลขโหดๆ เด้งขึ้นมา หรือบางเกมที่มี Effect และเสียงประกอบสะใจ ซึ่งแม้ว่า Genshin Impact จะไม่มีส่วนของ Effect เพิ่มเติม แต่แค่เลขที่โดดมาเป็นเท่าตัวสองเท่าตัวก็เพียงพอจะฟินตัวแตกกันได้แล้ว วันนี้ก็จะมาคุยกันเรื่องของคริติคอลหนักๆ กันไปเลยจ้า พื้นฐานเกี่ยวกับค่าคริติคอล ค่าคริติคอลนั้น จะเป็นการที่การที่เพื่อนๆ ทำความเสียหายแล้ว ตัวระบบสุ่มโอกาสจากตัวเลขอัตราคริ (CRI RATE) ขึ้นมา หากติดจะทำความเสียหายเพิ่มเติมไปจากเดิมตามค่าความแรงคริ (CRIT DMG) ไปด้วย เช่น สมมุติว่าโจมตีทำความเสียหายได้ 2300 หน่วย หากมีโอกาสติดที่ 5% ความแรง 50% และมันติดขึ้นมา ก็จะทำความเสียหายเพิ่ม 2300+1150 = 3450 แทนในการโจมตีครั้งนั้น (อูวหูว โคตรแรง!) โดยปกติแล้ว การโจมตีหรือการใช้สกิลต่างๆ จะสามารถทำให้เกิดคริติคอลได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการโจมตีปกติ การใช้สกิล ท่าไม้ตายต่างๆ ทำให้เป็นค่าที่หลายคนจะแนะนำให้ความสนใจกับมันหากอยากรีดความเสียหายได้สูงๆ แต่ทว่า ไม่ใช่ทุกความเสียหายที่ติดคริติคอลได้ มีบางส่วนที่ไม่สามารถติดคริได้เช่นกัน ► สิ่งที่ไม่สามารถติดคริติคอลได้ ความเสียหายต่อเนื่อง (Damage Over Time) ซึ่งในตอนนี้มีเพียงการถูกเผาไหม้จากไฟ และการถูกไฟฟ้าช๊อตต่อเนื่องเท่านั้น ความเสียหายของปฎิกิริยาธาตุทุกชนิดที่ไม่ใช่ระเหย (ไฟ+น้ำ), ละลาย (ไฟ+น้ำแข็ง) ค่าปฎิกิริยาเหล่านี้จะแรงตามเลเวลของตัวละครและความชำนาญธาตุ ไม่เกี่ยวกับพลังโจมตีอีกต่างหาก การตกจากที่สูง, ถังระเบิด (ถ้ามันมีอัตราคริก็อาจจะคริได้...) ด้วยเหตุนี้ทำให้ตัวคริติคอลนั้นเป็นอะไรที่เรียกได้ว่าน่าสนใจมาก หากต้องการที่จะรีดความเสียหายให้ได้สูงๆ เนื่องจากทั่วไปแล้ว คริติคอลมักจะถูกนำไปคูณเพิ่มเป็นอันดับท้ายสุดของสมการเสมอ ทำให้ตัวเลขมันดีดเป็นม้า (ก่อนจะถูกนำไปหักลบกับพลังป้องกันสำหรับเกมสมัยใหม่ แต่บางเกมก็จะตีให้คริทะลุพลังป้องกันไป แล้วแต่เกมนั่นแหละนะ) การเพิ่มค่าคริติคอลทั้งสองแบบนี้ก็คำนวนไม่ยากนัก อะไรที่เพิ่มค่าไหนกี่ % ก็เอาไปบวกกับของเดิมได้เลย 5+29+3.5+8.7 ก็รวมกันออกมาเป็น 46.2% คำนวนกันง่ายๆ แบบนี้แหละ ถึงแม้ว่าคริติคอลจะเป็นค่าที่น่าสนใจยังไงก็ตาม มันก็มีปัญหาเช่นกันตรงที่มันมีทั้งอัตราคริและความแรงคริ เราควรเน้นค่าไหนถึงจะแรง? ซึ่งนี่เป็นปัญหาโลกแตกของทุกเกมที่มีคริมาเกี่ยวข้องเลยล่ะนะ   เซ็ทใน patch 1.0 จะมีแค่ 4 ชิ้นทำให้บางทีส่วนหัวเราก็ใช้อย่างอื่นได้... เสียดายไม่มี 5 ดาวเนอะ อัตราคริหรือความแรงคริ? ตามสภาพในอุดมคติหรือต้องการให้ดีที่สุดแล้ว ก็ย่อมจะต้องผสมกันไป แต่สำหรับพื้นฐานแล้ว ก็จะบอกว่าเป็นอัตราคริ เนื่องจากค่าเริ่มต้นที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน การดันขึ้นมาก่อนเป็นอันดับแรกจะเพิ่มความเสียหายได้ดีมาก จากนั้นจึงไปดันส่วนของความแรงคริตามมาเมื่อโอกาสอำนวย ในจุดนี้ถ้าเพื่อนๆ อยากคำนวนให้เห็นภาพว่าอะไรจะเพิ่มขึ้นมาได้เท่าไหร่นั้น ก็ต้องเข้าใจธรรมชาติของคริติคอลก่อน แน่นอนว่ามันเป็นอัตราติด เพราะงั้นในเกมเราจะเห็นแค่เลขความแรงตอนคริ กับไม่คริเท่านั้น การที่เราจะคำนวนให้ได้ง่ายที่สุดคือการหาความแรงเฉลี่ยของคริและตีออกมาเป็น % นั่นเอง เนื่องจากถ้าไม่มีตัวแปรอะไรมายุ่งเกี่ยวกับการสุ่มแล้ว หากสุ่มไปเรื่อยๆ ตามสถิติมันย่อมออกมาใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยมากที่สุดนั่นเอง วิธีหาค่าเฉลี่ยของความเสียหายก็คิดได้ง่ายๆ จากการนำ จะได้เป็น % ค่าเฉลี่ยที่เพิ่มมา และเราจะใช้มันเป็นพื้นฐานในการคำนวนความแรงที่ลงตัวนี้ นอกจากนี้แล้ว สำหรับตัว Genshin Impact นั้น ของชนิดเดียวกัน มักจะให้อัตราคริน้อยกว่าความเสียหายคริในอัตราส่วนครึ่งหนึ่งเสมอ เช่น ลองสมมุติในกรณีที่ใช้แค่ของหลักสองชิ้นมายุ่งเกี่ยวกับคริติคอล Artifact ส่วนหัว จะมีอัตราคริที่ 31%/62% อาวุธอยู่ที่ 22%/45% (ที่ level 70) หากเราลองมาแทนค่าในสมการก่อนหน้านี้ จะได้ผลประมาณนี้ ตัวอย่าง อัตราติดคริติคอล โบนัสความเสียหาย ค่าเฉลี่ย ค่าเริ่มต้นของเกม 5% 50% 2.5% อัดแต่ความเสียหายคริ 5% 157% 7.85% อัดแต่อัตราคริ 58% 50% 29% เพิ่มความเสียหายคริ (สูง) 27% 112% 30% เพิ่มอัตราคริ (สูง) 36% 95% 34.2% จะเห็นได้ว่า ในช่วงแรกนั้น การเน้นอัตราคริเยอะๆ จะช่วยเร่งค่าเฉลี่ยได้มาก เพราะค่าพื้นฐานมันน้อยสุดๆ นั่นเอง แต่พอมีอัตราคริซักหน่อยแล้ว การกระจายไปลงความแรงคริ จะทำให้ค่าเฉลี่ยสูงกว่าขึ้นมาแล้ว เหตุผลก็เนื่องมาจากการที่อัตราครินั้นแรกเริ่มมีน้อย ประกอบกับอัตราส่วนที่ได้จากอาวุธหรือ Artifact นั้นก็ได้น้อยกว่าความแรงคริ ทำให้การจะให้ได้ค่าเฉลี่ยสูงๆ นั้นต้องมีการจัดสรรปันส่วนให้ดีในระดับหนึ่ง ถึงจะคุ้มค่าที่สุด   การเลือกว่าจะใช้อะไรเป็นค่าไหน หลังจากที่เพื่อนๆ เห็นตารางก่อนหน้านี้ ก็คิดว่าน่าจะพอเห็นภาพรวมของค่าเฉลี่ยความเสียหายได้มากขึ้น จากนี้ก็จะเข้าสู่ปัญหาหลักจริงแล้ว นั่นคือจะเลือกอะไรใช้อาวุธหรือ Artifact อะไรดีให้เป็นค่าที่คุ้มที่สุด และบอกตรงๆ ว่าตรงนี้เป็นอะไรที่ไม่สามารถตอบแบบฟันธงได้เลย เพราะมันมีการกาชามาเกี่ยวข้องนี่แหละ แถมในความเป็นจริงเรายังมีตัวเลือกอีกหลายอย่างที่สามารถเพิ่มอัตราคริให้สูงขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นสกิลของอาวุธ (ที่ส่วนตัวว่าไม่ค่อยคุ้มนัก), ชุดเซ็ทของ Artifact อย่าง Berserker, ค่าสเตตัสรองที่สุ่มกันตาแหก แม้กระทั่งพรสววรค์ของตัวละครหรือการอัพหมู่ดาวที่ทำให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นมา ก็อาจจะมีส่วนทำให้อัตราคริของตัวละครแต่ละตัวสูงขึ้นได้เช่นกัน ตัวเลือกที่ตัดสินใจได้ง่ายสุดก็ไม่พ้นค่าสเตตัสหลักของ Artifact นั่นแหละ ดังนั้นมันจะเป็นอย่างสุดท้ายที่เราจะคิดถึงมัน เพราะเป็นของที่เพื่อนๆ ฟาร์มได้เรื่อยๆ จะหล่นมาเมื่อไหร่แค่นั้นเอง แต่อาวุธนั้นหลักๆ เราจะได้จากระบบกาชาทำให้เรียกได้ว่า "ต้องหวังพึ่งฟ้าดิน" ว่าจะมีอะไรมาให้ใช้ อย่างเลวร้ายคืออาจจะไม่ได้ซักอย่างเลยทีเกี่ยวกับคริ ก็ชีช้ำกันไป แถมเมื่อได้มาแล้ว ก็ต้องพิจารณาอีกว่า ตัวสกิลของอาวุธชิ้นนั้นสามารถตอบโจทย์สไตล์การเล่น หรือแนวทางของตัวละครได้หรือเปล่าอีกด้วย ถ้ามันไม่เข้ากันเลย ก็อาจจะไม่ได้เป็นคำตอบที่ดีเท่าไหร่นักอีกต่างหาก อนึ่ง อาวุธที่ได้จากการซื้อ Battle Pass ใน patch 1.0 จะมีค่าสเตตัสเป็นอัตราคริทั้งหมด เป็นทางเลือกแบบการันตีสำหรับคนที่อยากอุดหนุนตัวเกม ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องดูคือตัวเลือกอาวุธที่มีในขณะนั้น ว่ามีชิ้นไหนที่สามารถตอบโจทย์ด้านคริติคอลที่เพื่อนๆ ต้องการได้หรือไม่ หรือมันมีค่าคริแต่สกิลมันเข้ากับสไตล์การเล่นหรือเปล่า โดยมากอาวุธสายคริจะมีสกิลที่ค่อนข้างใช้งานได้หมดอยู่แล้ว อาจจะมีเล็กน้อยอย่าง Twin Nephrite (สื่อเวทย์) ที่ต้องฆ่าศัตรูถึงจะได้บัพ (ไม่ดีสำหรับบอสหรือดันที่ศัตรูมันอึดมาก) หรือ Lithic Blade (ดาบใหญ่) ที่ต้องมีตัวละครในทีมที่มาจาก Liyue แต่ในทีมดันไม่มีตัวแบบนั้นเลย ก็ไม่ค่อยเข้ากัน การตัดสินใจเป็นอันดับต่อมาคือการดูการจัดทีมของเพื่อนๆ ว่ามีส่วนของอัตราคริมาช่วยไหม เช่น Traveler (ตัวเอก) ธาตุดิน มีท่าไม้ตายจะช่วยเพิ่มอัตราคริให้ หรืออย่าง Diluc เมื่อเลื่อนระดับแล้วจะมีสเตตัสติดตัวเป็นอัตราคริ การใช้อาหารช่วยเพิ่มอัตราคริหรือเปล่า (ซึ่งใน Spiral Abyss จะใช้ไม่ได้) เป็นจุดอีกเล็กน้อยที่จะได้นำมาคิดกันในการเล่นจริงด้วย จากนั้นจึงมาดูกันที่ตัว Artifact กันเป็นอันดับสุดท้าย ซึ่งตัวเลือกก็จะเป็นส่วนหมวกที่มีอัตราคริและความแรงคริให้ใช้อย่างใดอย่างหนึ่ง ตามด้วยการสุ่มค่ารอง และผลเซ็ท (ที่มี Berserker เซ็ทเดียวที่เกี่ยวกับคริ) และด้วยความที่อัตราครินั้นหายาก ถ้ายังหาตัวเลือกเซ็ท 4 ชิ้นดีๆ ไม่ได้ การผสม Berserker 2 ชิ้นเข้ากับชุดอื่นก็เป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างดีไม่น้อยถ้าต้องการอัตราคริจริงๆ ค่าสเตตัสหลักนั้น ถ้าอัตราคริเพื่อนๆ ยังน้อยก็เลือกอัตราคริได้เลย แต่ถ้ามีอัตราคริเริ่มสูงซัก 30-50%...

Read more

Jack of All Lantern Festival เป็นกิจกรรมในเกม ArcheAge ที่ถูกเพิ่มเข้ามาซึ่งให้ผู้เล่นได้ดื่มดำกับเทศกาล Halloween ซึ่งภายในเกมได้ทำกิจกรรมไว้มากมายทั้ง 2 ทวีป เมื่อผู้เล่นมาเข้าร่วมกิจกรรมก็จะได้เหรียญ Festival Coin ที่เอาไว้แลกของรางวัลมากมาย เราไปดูวิธีทำกิจกรรมกันเลยครับ เริ่มทำเควส ในแต่ละฝ่ายจะมีประตูวาร์ปสีแดง Worldgate: Demon War Memorial ใน Hero Hall (Faction Base) ซึ่งทำให้เราสามารถวาร์ปไปพื้นที่กิจกรรมได้ โดยเควสกิจกรรม Festival จะมีทั้ง 2 ทวีป ฝั่งทวีป Nuia จะอยู่ที่แผนที่ Two Crowns ฝั่งทวีป Haranya จะอยู่ที่แผนที่ Solis Headlands ทางผู้เขียนขอเริ่มเควสที่ฝั่ง Two Crowns ครับ ต้นกำเนิด Hallowtide เมื่อเข้าประตูวาร์ปมาเราก็จะมาโผล่ที่หน้า Arena ในแผนที่ Two Crowns ให้เรารับเควสต้นกำเนิด Hallowtide กับ Festival Keeper Kennis จากนั้นก็วิ่งมาส่งเควสกับ Festival Keeper Welkos ที่ด้านหน้าทางเข้า Arena เราก็จะได้ XP 1004 และเงิน 1 Silver เป็นรางวัล ทำให้ค่ำคืนมีสีสัน หลังจากส่งเควสเรียบร้อยแล้วให้รับเควสทำให้ค่ำคืนมีสีสัน กับ Festival Keeper Welkos อีกครั้ง เควสทำให้ค่ำคืนมีสีสัน เขาจะให้เราจุดตะเกียงฟักทอง Decorative Pumpkin Lantern ที่อยู่โดยรอบพื้นที่จำนวน 3 ดวง เมื่อเสร็จแล้วก็ให้ส่งเควสกับ Festival Keeper Welkos เราก็จะได้ XP 1004 และเงิน 1 Silver 1 Festival Coin และ Welkos's Candy จำนวน 3 เม็ดเป็นรางวัล วิญญาณที่น่าหนักใจ จากนั้นวิ่งเข้ามาที่ภายใน Arena เพื่อรับเควสกับ Festival Keeper Ceremony Guide Verdi ที่จะเกิดเป็นเวลาเพื่อรับเควส วิญญานที่น่าหนักใจ เควสนี้เป็นเควสซ้ำที่สามารถทำได้วันละ 3 เวลาได้แก่ 13.00 น. 18.00 น. และ 23.00 น. เวลาไทย NPC จะอยู่เป็นเวลา 1 ชั่วโมงแล้วจึงจะหายไป (แนะนำว่าให้มาตรงเวลาไม่งั้นอาจไม่ได้ทำเควสต่อเนื่อง) เมื่อรับเควสแล้วก็มาคุยกับหิน Demon War Soulstone ที่อยู่ด้านหลังของเขาก็เป็นอันเสร็จเควส เราก็จะได้ XP 1004 และเงิน 1 Silver และ 1 Festival Coin เป็นรางวัล ให้กำลังใจ Moonswept Spirits และ Ezna Spirit หลังจากคุยกับหิน Demon War Soulstone แล้วก็กลับมารับเควสกับ Festival Keeper Ceremony Guide Verdi อีกครั้งซึ่งเควสจะให้เราไปขว้างลูกอมเข้าปากฟักทอง (หลังรับเควส จะสุ่มฝั่งหัวฝักทองให้โยนลูกอม) เมื่อรับเควสแล้วผู้เล่นจะถูกแบ่งเป็นฝ่าย Moonswept Spirits และ Ezna Spirit ซึ่งทั้ง 2 ฝ่ายต้องทำการแข่งขันโยนลูกอมเข้าไปในปากฟักทองให้เต็มเร็วที่สุด กิจกรรมนี้ควรมาตรงเวลาเพราะถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งชนะแล้วจะไม่สามารถทำเควสต่อได้อีก ต้องรอทำในรอบถัดไป เมื่อมีฝั่งใดฝั่งหนึ่งชนะแล้วก็สามารถไปกดรับหีบได้ - ฝั่งที่แพ้สามารถเปิดหีบ Shabby Treasure Chest ได้เพื่อรับ Harvest Festival Box 1 กล่อง เมื่อเปิดใช้งานจะได้รับ Festival Coin 1 ถึง 2 เหรียญ และ Mysterious Hiram Infusion 1 ขวด - ฝั่งที่ชนะสามารถเปิดหีบTreasure Chest ได้เพื่อรับ Harvest Festival Box 1 กล่อง เมื่อเปิดใช้งานจะได้รับ Festival Coin 3 ถึง 5 เหรียญ และ Mysterious Hiram Infusion 2 ขวด เมื่อทำการเปิดหีบแล้วก็ส่งเควสกับ Festival Keeper Ceremony Guide Verdi อีกครั้งเราก็จะได้ XP 1004 และเงิน 1 Silver และ 1 Festival Coin เป็นรางวัล จากนั้นออกมาที่ด้านหน้าของ Arena เพื่อเข้าประตูวาร์ป Worldgate: Demon War Memorial ไปพื้นที่กิจกรรมของทวีป Haranya ในแผนที่ Solis Headlands ฟักทองสำหรับคนตาย เมื่อมาถึงแผนที่ Solis Headlands แล้วเราก็เดินเข้าไปในบ่อน้ำพุร้อนก็จะเจอ Festival Keeper Hallowtide Guide Bongro ยืนอยู่ภายในเต็นท์ ให้ทำการรับเควสฟักทองสำหรับคนตายมา เมื่อรับเควสมาแล้วให้เราทำการคราฟ Festival Pumpkin Decoration ที่โต๊ะ Hallowtide Workbench ที่อยู่ข้างๆ NPC โดยเราต้องเตรียม Blue Salt Knife x5 ติดตัวไว้ด้วย เมื่อคราฟ Festival Pumpkin Decoration เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้นำมาส่งกับ Festival Keeper Pumpkin Carver Suyeon ที่อยู่ตรงฟักทองยักษ์ในพื้นที่เทศกาลไม่ไกลกันนัก เมื่อส่งเควสแล้วเราก็จะได้ XP 1004 และเงิน 1 Silver...

Read more

โลกของ Teyvat ภายในเกม Genshin Impact นั้นนอกจากเควสแล้วยังมีอีกหลายสิ่งให้ผู้เล่นได้เข้าไปค้นหากันอย่างมากมายเพื่อรับของรางวัลฟรีๆ จากความสำเร็จในการปลดล็อคภารกิจเหล่านั้นมา ซึ่งในครั้งนี้เราจะพาไปดูวิธีการทำเควสสมบัติที่หวนคืน ใน ท่าเรือ Liyue แบบละเอียดกัน! เควสสมบัติที่หวนคืน เมื่อมาถึงเขตเมืองดินใน Liyue พอเดินมาถึงแถว Guili Plain จะเจอ NPC ชื่อว่า Soraya อยู่หลังจากกดคุยจะเริ่มเควสในทันที สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเริ่มทำภารกิจ ควรมีเลเวลตัวละครทั้งทีม เลเวล 40 หรือมากกว่าเพื่อสู้กับศัตรูทั้งหมด เตรียมอาหารและยาไปให้พร้อม ภารกิจแรกที่จะต้องไปทำก็คือตามหาแผ่นศิลาโบราณให้ครบ 5 แผ่น โดยการจะหาศิลานั้นให้สังเกตถ้าเจอคบไฟ 2 อัน ตรงนั้นจะมีศิลาตั้งอยุ่ตรงกลาง ซึ่งทั้ง 5 ชิ้นจะอยู่ตามจุดในภาพข้างล่าง จุดแรก : หลังคุยกับ Soraya เดินตรงแล้วเลี้ยวซ้าย จุดสอง : เก็บอันแรกแล้วเดินเลี้ยวซ้ายขึ้นไป จุดสาม : ตามในแผนที่จากจุดเก็บสองลงมาข้างล่างจะมีลานมีหีบอยู่ตรงกลางจะเจอศิลาอยู่ตรงนั้น จุดสี่ : เดินเลี้ยวไปทางขวาของแผนที่จะเจอลานวงกลมมีศิลาอยู่ตรงกลาง จุดห้า : เดินไปทางซ้ายของแผนที่ตรงนั้นจะมีพวกโจรสุสานอยู่กับศิลากำจัดให้หมดแล้วกดสำรวจอันสุดท้าย เมื่อได้ครบแล้วเควสจะให้กลับไปคุยกับ Soraya อีกครั้ง แต่ก่อนไปตรงจุดสุดท้ายจะมีระเบิดกับหลุมมีหินบังอยู่กดทำลายมันจะเจอหุ่น 1 ตัวเฝ้าทางเข้าใต้ดินอยู่ ข้างในจะเจอกับของสักการะธาตุดินอยู่ 1 อัน และกองสมุดมีบันทึกอยู่กดสำรวจก่อนแล้วค่อยกลับไปคุยกับเธอ (อย่าลืมกดเปิดดันเจี้ยนท้าทายเอาไว้เพื่อใช้ในการวาร์ปกลับมาแถวนี้) เควสต่อไปจะต้องไปตามหาศิลาอีก 2 จุดจะขึ้นให้เห็นบนแผนที่ว่าจะไปตรงไหน โดยจุดทางขวามือทางเข้าจะมีหนามกั้นอยู่พร้อมกับระเบิด ให้ทำลายมันแล้วเข้าไปข้างในจะเจอศิลา (อย่าลืมกดเปิดจุดวาร์ปเอาไว้เพื่อใช้วาร์ปกลับมาในเควสต่อไป) จุดที่สองทางซ้ายตรงสะพานขาดให้กระโดดลงข้างล่างทางขวาจะเจอศิลากับพวกศัตรูขวางอยู่ กำจัดให้หมดแล้วกดสำรวจศิลาแล้วกลับไปหา Soraya ได้เลย แต่ก่อนไปอย่าลืมกดเปิดจุดวาร์ปเอาไว้ด้วยนะ หลังจากคุยจบแล้วเธอจะกลับไปที่โรงแรม Wangshu Inn เธอจะอยู่ที่นั้นไปคุยกับเธอเพื่อทำเควสต่อไปกัน หลังจากคุยจบแล้วเราจะต้องไปตามหาศิลาอีกแบบให้ครบ 4 ชิ้น แต่ชิ้นแรกนั้นเควสจะบังคับให้เราไปหาก่อน ซึ่งตรงนั้นจะมีลมบังอยู่ต้องขึ้นไปที่สูงแล้วบินลงไปถ้ามี Vanti ก็จะง่ายขึ้นอีกขั้นนึงพร้อมกับพวกสไลม์ลม เมื่อกดสำรวจแล้วจะต้องไปตามหาต่ออีก 3 ให้ครบ วิธีการหาอีก 3 จุดนั้นให้สังเกตบนแผนที่จะมีมุมเป็นสี่เหลี่ยมโผล่ออกมาให้เห็นทั้งหมด 4 มุมตามแผนที่ในภาพ จุดทางขวาให้วาร์ปไปตรงดันเจี้ยนแถวซากปรักหักพังจุดแรกที่เคยไปแล้ววิ่งขึ้นข้างบนจะมีพวกโจรสุสานคุมอยู่ให้กำจัดให้หมดแล้วกดสำรวจศิลา จุดทางขวาล่างให้วาร์ปลงไปจะมีนักเวทย์ Fatui อยู่ (หากใครมาตีครั้งแรกแล้วจะไม่ปรากฏออกมาอีก) จุดสุดท้ายทางซ้ายล่างจะมีพวกอบิสและสไลม์ธาตุไฟอยู่พร้อมกับหนามบังพื้นที่อยู่ ให้กำจัดให้หมดก่อน สำรวจเสร็จแล้วให้กลับไปหา Soraya กลับมาคุยกับเธอจะต้องไปตามหาโบราณสถานที่สุดท้ายให้เจอ ซึ่งในรอบนี้จะไม่บอกว่ามันอยู่ที่ไหน โดยจุดสุดท้ายนั้นไม่ได้อยู่ที่ไหนไกลเลย มันอยู่ด้านล่างของซากโบราณจุดแรกเริ่มตอนเจอกับ Soraya ครั้งแรกเลย ให้เดินไปตามแผนที่มีแอ่งน้ำอยู่ตรงกลาง ที่นั้นจะมีศิลาอยู่เมื่อกดสำรวจพวกหุ่นจะตื่นขึ้นมาทันที 3 ตัว ต้องกำจัดให้หมดก่อนจึงจะสามารถกลับมากดศิลาได้ หลังจากกำจัดหมดแล้วกดสำรวจศิลาอีกครั้งจะเกิดคัดซีนน้ำในบ่อลดจนหมดจะพบกับกล่องสมบัติถึง 3 กล่องด้วยกัน ซึ่งในกล่องทองจะมีของเควสอยู่ด้วยให้กลับไปคุยกับ Soraya เป็นครั้งสุดท้ายจะจบเควสสมบัติที่หวนคืนพร้อมกับรับของรางวัลและได้รับความสำเร็จ "สัมภาษณ์เทพเจ้าในอดีต" จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Genshin Impact Thailand

Read more

ว่ากันว่าการโจมตีเป็นวิธีการป้องกันที่ดีที่สุด ในเกม RPG ที่มีการต่อสู้ การทำความเสียหายใส่ศัตรูให้ตายให้เร็วที่สุดก็ดูจะตรงกับจุดนี้ไม่น้อย หากศัตรูไม่ได้มีเลือดหนาจนเว่อร์มากนัก เพราะยิ่งกำจัดได้เร็วเท่าไหร่ ศัตรูก็ยิ่งออกท่าได้น้อยเท่านั้น ในวันนี้กับบทความของ Genshin Impact ก็จะพาเพื่อนๆ ดำดิ่งสู่สารพัดเคล็ดไม่ลับเพื่อหาวิธีที่จะช่วยรีดความเสียหายให้ได้มากๆ กัน คำเตือน บทความนี้มีความยาว เพื่อนๆ ควรทำ Satisfying Salad มานั่งแทะระหว่างรับชม Introduction to ปั่นแดเมจ ก่อนจะเข้าเนื้อหาเชิงลึก ก็คงต้องพูดถึงพื้นฐานของพื้นฐานกันก่อน นั่นคือการปั่นจากอะไรที่รู้กันอยู่แล้ว การอัพเลเวลของตัวละครและอาวุธ รวมถึงการใช้ Artifact ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีนั่นเอง จริงๆ ตรงนี้หลายคนก็อาจจะยังไม่ทราบหรือเผลอมองข้ามไปเพราะคิดว่าตีมอนตายสบายๆ ในช่วงแรกๆ คงไม่ต้องสนใจมากนัก รอไปหาของดีๆ ทีเดียวเลย การอัพเลเวลของตัวละคร, อาวุธ หรือแม้กระทั่งกดเลื่อนระดับเฉยๆ จะช่วยเพิ่มพลังโจมตีพื้นฐานขึ้นมาได้ (จำคำว่าพื้นฐานไว้นะเพื่อนๆ เดี๋ยวจะออกสอบ) การเลือก Artifact ที่มีผลเพิ่มพลังโจมตี และการอัพเลเวลของ Artifact เหล่านี้ให้เยอะๆ เพื่อเพิ่มผลของมันให้สูงขึ้น เพราะในขณะที่อาวุธกับตัวละครถูกล๊อคไว้ด้วยระดับนักผจญภัย แต่ตัว Artifact ขอแค่มีซัก 3-4 ดาว ก็สามารถอัพได้เยอะและเริ่มคุ้มแล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้า Artifact เป็น 3 ดาวขอแนะนำแค่ประมาณ +8 พอ หลังจากนั้นเริ่มไม่คุ้มแล้ว ยกเว้นขนนกที่จัด +12 ได้เลย ซึ่งการอัพเลเวลมันขึ้นมา จะทำให้เพื่อนๆ ตีแรงกว่าตอนใช้ +4 +0 อย่างเห็นได้ชัดเจนมากๆ (โดยเฉพาะขนนกในช่วงแรกๆ ของเกม) ที่บอกว่ามองข้ามเพราะอะไร? บางคนอาจจะเห็นว่าแค่ +4 ขนนกที่เหลือ +0 รอได้ของดีค่อยอัพก็ได้ ตีมอนตายเหมือนกัน แต่กว่าจะได้ของที่ต้องการนั้นเชื่อได้ว่าค่อนข้างนาน และเมื่อระดับของโลกเพิ่มขึ้น มอนก็จะอึดขึ้น การที่เรากำจัดได้ไวขึ้นมันก็จะทำให้เราเสียเวลาน้อยลง ไอ้การตีทีละ 200 ที่ +4 พอยอมอัพซักหน่อยกลายเป็นตีทีละ 400 600 มันก็คนละเรื่องกันล่ะเนอะ   ปั่นแดเมจ 101 : ที่มาของตัวเลข ในส่วนของพลังโจมตีที่เพื่อนๆ เห็นที่หน้าจอสถานะของตัวละครนั้น จะเป็นการรวมค่าต่างๆ ทั้งค่าพื้นฐานและผลจาก Artifact และตัวอาวุธเข้าด้วยกันแล้ว ซึ่งวิธีการคำนวนหลักๆ จะมีประมาณนี้ ค่าพลังโจมตีที่เห็น = + พลังโจมตีเป็นหน่วยจาก Artifact (เช่นขนนกและค่าสเตตัสรอง) จะเห็นได้ว่า พลังโจมตีพื้นฐานของตัวละครและอาวุธนั้นมีบทบาทเป็นอย่างมาก ยิ่งเลเวลของอาวุธและตัวละครยิ่งสูง จะยิ่งได้ผลคูณมากเป็นเงาตามตัว ตัวผลคูณนี้จะมาจากค่าสเตตัสรองของอาวุธ เช่น Prototype Rancor ที่มีผลคูณพลังโจมตี หรือค่าสเตตัสของ Artifact ที่เพิ่มพลังโจมตีเป็น % ทั้งหลาย และผลของเซ็ทต่างๆ ที่เพิ่มมาด้วย เช่น Gladiator 2 ชิ้นหรือ Resolution of Sojourner 2 ชิ้นก็ตาม ส่วนพลังโจมตีเป็นหน่วยของขนนก, ค่ารองของ Artifact จะมีผลบวกตรงๆ ไม่คูณเพิ่ม ทำให้มีผลน้อยที่สุดเมื่อค่าพื้นฐานและตัวคูณสูงมาก (ท้ายเกม) แต่ในขณะเดียวกันก็มีผลมากที่สุดถ้าค่าพื้นฐานและตัวคูณต่ำ (ต้นเกม) และมีไว้ก็ดีกว่าไม่มี +200 +300 มันก็ช่วยได้ ตัวเลขนี้จะไม่นับพวกเงื่อนไขต่างๆ เช่นคริหรือความเสียหายเฉพาะอย่าง   ปั่นแดเมจ 201 : "พลังโจมตี" และ "ความเสียหาย" หลังจากที่เข้าใจในเรื่องพลังโจมตีที่ปรากฎในหน้าตัวละครไปแล้ว เพื่อนๆ จะเริ่มเข้าใจว่า การยัด Artifact ที่มีผลเพิ่มพลังโจมตีเป็น % นั้นจะช่วยได้เป็นอย่างมากในช่วงท้ายเกม ซึ่งนั่นก็ถูก และในเมื่อมันรวมทุกค่ามันจึงไม่น่ามีปัญหาอะไรที่ว่ายิ่งเยอะยิ่งไม่คุ้ม แต่! ในเมื่อช่องของเพื่อนๆ นั้นมีจำกัด การเลือกให้คุ้มค่าที่สุดจึงเป็นที่มาของการใส่ไปเยอะเกินไปไม่คุ้มค่าเท่านั่นเอง สิ่งที่เพื่อนๆ จะสังเกตุได้นอกจากพวกพลังโจมตีที่เพิ่มเป็น % แล้ว ก็จะมีส่วนของ พลังโจมตีกายภาพ, ความเสียหาย ที่เพิ่มขึ้นมา และตัวเกมได้ใช้คำที่ต่างกันอย่างชัดเจน (พลังโจมตี = ATK | ความเสียหาย = DMG) และนั่นคืออีกจุดหนึ่งที่เพื่อนๆ สามารถนำมาใช้เร่งความเสียหายให้มากขึ้นไปอีกได้ โดยถ้าให้อธิบายแบบรวบรัด "พลังโจมตี"นั้นจะมีผลกับทุกๆ สิ่ง (ที่ใช้พลังโจมตีมาเกี่ยวข้อง) เช่นการโจมตีปกติ การใช้สกิลต่างๆ ทำให้มันเป็นพื้นฐานของการคำนวน แต่"ความเสียหาย"นั้น จะมีเงื่อนไขติดพ่วงมาตลอดเวลา เช่นเพิ่มความเสียหายของการโจมตีปกติ, เพิ่มความเสียหายของธาตุไฟ ด้วยเหตุนี้ ทำให้คีย์เวิร์ด"ความเสียหาย"จะเป็นตัวคูณแยกตามเข้าไปอีกที ส่งผลให้ตัวคูณนั้นเพิ่มขึ้นไปอีกขั้นนึงนั่นเอง เช่น พลังโจมตีพื้นฐาน +100 จากสูตรเดิม (478) เมื่อมีส่วนของความเสียหายมาเพิ่มเติมและติดเงื่อนไขอย่าง "การโจมตีปกติแรงขึ้น 35%" นั้นทำให้ผลการคำนวนของเดิม +100 มีการเพิ่มไปอีก 35% กลายเป็น 645.3 (ในการคำนวนจริงอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอีก เช่นตัวคูณพลังโจมตีลดลงจากการเปลี่ยนไปใช้เซ็ทที่มีผล 35% แทน หรือการโจมตีปกติอาจจะไม่ได้ทำความเสียหายเต็มๆ 100%) ดังนั้น การจะมองเพียงแค่การใส่แต่ค่าพลังโจมตีเพียงอย่างเดียวนั้น อาจจะทำให้เพื่อนๆ ได้พลังโจมตีที่สูงที่สุดก็จริง"โดยไม่มีเงื่อนไขมายุ่งเกี่ยว" แต่การเลือกที่จะมีส่วนของเงื่อนไขลงในสมการแล้ว เพื่อนๆ จะเสียพลังโจมตีลงไปเล็กน้อย (อาจจะ 18-30% ขึ้นกับการจัดเซ็ท) แต่ได้ตัวคูณใหม่เพิ่มขึ้นมาเน้นๆ อีกหลายสิบเปอร์เซ็น เมื่ออยู่ในเงื่อนไขดังกล่าว   ปั่นแดเมจ 202 : ประเภทของความเสียหาย เพื่อนๆ หลายคนอาจจะเงิบถ้าอยากจะบอกว่า กายภาพก็จัดเป็นธาตุชนิดหนึ่ง เอ้า! หลุดโลกเกินไปแล้ว! แต่จริงๆ ถ้าอธิบายว่า ธาตุหรือกายภาพเป็น"ประเภท"หนึ่งของความเสียหายนั้น น่าจะทำให้เข้าใจได้ง่ายกว่า อย่างที่เพื่อนๆ ทราบดีว่า ตัวเลขนั้นจะแยกเป็นสีต่างๆ ตามธาตุ โดยสีขาวนั้นหมายถึงเป็นความเสียหายกายภาพ ทีนี้มันเกี่ยวข้องกับการรีดความเสียหายยังไง? ก็เพราะไอ้เจ้าเงื่อนไขสารพัดสารเพของ"เพิ่มความเสียหาย"นั่นยังไงล่ะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการต้านทาน (Resistance) ที่แยกต่างหากจากพลังป้องกัน (Def) อีก (บอกแล้วมันค่อนข้างยุ่บยั่บ) ดังนั้นการเข้าใจว่าตัวเลขสีขาวกายภาพ หรือสีธาตุต่างๆ ต่างกันยังไงจะช่วยให้เพื่อนๆ เลือกสกิลของอาวุธหรือผลเซ็ทของ Artifact ได้ตรงกับการที่เพื่อนๆ ต้องการได้มากกว่า โดยในจุดนี้ เพื่อนๆ ต้องดูที่ Talent หรือสกิลของตัวละครว่า ผลของสกิลและไม้ตายเนี่ย มันส่งผลอย่างไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่น ไฟ ไฟ ไฟ และ ไฟ ล้วนๆ Diluc ที่สกิลเป็นการโจมตีธาตุไฟ 3 ครั้ง และไม้ตายที่เป็นธาตุไฟ พร้อมเปลี่ยนการโจมตีเป็นธาตุไฟ ..... แม้ว่าตัวเขาจะมีการโจมตีปกติที่รุนแรง แต่เห็นสกิลแบบนี้บอกได้เลยว่า การเน้นใช้อาวุธหรือเซ็ท Artifact...

Read more

ArchePass เป็นระบบ Daily Quest แบบใหม่ในเกม ArcheAge ที่ถูกปรับเปลี่ยนหลังจากแพทวันที่ 22 ตุลาคม 2563 โดยระบบ ArchePass จะเป็นการทำเควสประจำวันรับ XP ในการอัพเกรด Tier เพื่อรับของรางวัลต่างๆ ที่ระบบได้จัดเตรียมไว้ให้ในแต่ละประเภทเราไปดูกันเลยครับ ArchePass ArchePass อยู่ในหน้าเมนู Daily ArchePass แบ่งออกเป็น 3 ประเภท (แบ่งจากของรางวัล): Basic, High-End (ArchePass ยังไม่มาในเดือนแรก), และ Premium ซึ่งปัจจุบันในเดือนแรกเราจะลงทะเบียนได้คือ Basic → Fresh Start Pass เราสามารถเปิดใช้งานได้ด้วยการ Register และซื้อในราคา 1G ข้อมูล ArchePass 1.ของรางวัลระดับ Basic 2.ของรางวัลระดับ Premium (ต้องมี Premium Pass ถึงจะรับรางวัลได้) 3.เควสแบบสุ่มของ ArchePass ระดับ Basic ซึ่งเราสามารถเปิดได้ 3 เควส โดยใช้ 5 Gilda Star ในการเปิดเควส โดยที่ 3 เควสดังกล่าวเมื่อทำเสร็จจะได้ ArchePass Point จำนวน 1500 แต้ม 4.เควสสุดท้ายต้องใช้ Premium Pass เปิดเท่านั้น เมื่อทำเสร็จจะได้แต้ม ArchePass Point จำนวน 2100 แต้มและในแต่ละสัปดาห์สามารถทำได้แค่ 1 ครั้ง 5.ในแต่ละวันเราสามารถรีเซ็ตเควสได้จำนวน 6 ครั้ง 6.จำนวนเควสที่ทำเสร็จไปแล้วซึ่งจำกัดการทำเควสเป็นจำนวน 20 เควสต่อสัปดาห์ เมื่อทำเสร็จแล้วจะไม่สามารถทำเควสได้อีกจนกว่าจะรีเซ็ตในวันจันทร์สัปดาห์ต่อไป 7.Tier หรือ Level ของ ArchePass ในการอัพระดับต้องใช่แต้ม ArchePass Point จากการทำเควส (ในข้อ 3 และ 4) ของรางวัลที่รับได้จะอ้างอิงจากตรงนี้ เมื่อทำครบ 20 เควสแล้วเควสจะถูกล็อกและไม่สามารถทำได้อีกจนกว่าจะรีเซ็ตในวันจันทร์สัปดาห์ต่อไป ArchePass Upgrade Ticket (Premium Pass) เราสามารถซื้อ ArchePass Upgrade Ticket ใน Cash Shop ได้ในราคา 11000 XL (ราคาประมาณ 275 บาท) ความคุ้มค่าของ Premium Pass สำหรับตัวผู้เขียนเอง Premium Pass นั้นถือว่าคุ้มค่ามากๆ เลยครับโดยเราจะได้รับไอเทมหลังจากจบที่ Final Rewards ดังต่อไปนี้ ไอเทม ชื่อ จำนวน Manastorm Crystal 280 ชิ้น Server Labor Recharger 14 ชิ้น Expansion Scroll 5 ใบ ArcheBlessing 7 วัน 3 ชิ้น Loyalty Token 200 เหรียญ Bound Worn Costume Crate 3 กล่อง Bound Serendipity Stone 3 ชิ้น Building Management Title 2 ใบ Total Upgrade Ticket 3 ใบ Bound Anchoring Temper Charm Create 3 กล่อง Fusion Alembic 5 ชิ้น Bound Orchidna's Dream Lunastone 1 เม็ด Dye Ticket 1 ใบ Salon Certificate 1 ใบ Saving Pendant 1 ชิ้น Wrapped Blue Stormwraith Kirin 1 ตัว อ้างอิงของรางวัล Premium ของ Fresh Start Pass 22 ตุลาคม 2563 ภาพจาก https://www.trionworlds.com/archeage/en/2020/07/02/archeage-unchained-festivities-and-freedom/ แค่ Manastorm และเจ้าสัตว์ขี่ Blue Stormwraith Kirin ก็เกินคุ้มกับ 11000 XL ที่เสียไปแล้วครับยังไม่รวมของรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย อ่านเพิ่มเติม ArcheAge.TH.SEA ที่นี่ ก็จบลงไปแล้วกับการแนะนำระบบ ArchePass ที่เป็นระบบ Daily Quest แบบใหม่ที่น่าสนใจและถ้าเราซื้อ Premium Pass ด้วยละก็ เมื่อทำเควสมา่จนสุดท้ายแล้วเราก็จะได้เจ้า Blue Stormwraith Kirin สัตว์ขี่สุดเจ๋งที่ไม่มีขายทั่วไปแม้กระทั้งใน Cash Shop ก็ตาม หวังว่าไกด์นี้จะมีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ไม่มากก็น้อยและถ้าชื่นชอบในผลงานเขียนแล้วก็สามารถมาพูดคุยกันได้ที่เพจ >> THAILAND กุ๊กไก่เล่นไปเรื่อย << >>FANPAGE ARCHEAGE<<

Read more

ในวันที่ 22 ตุลาคม 2563 เกม ArcheAge Sv.SEA ได้ทำการอัพเดตใหญ่มีระบบ และ Event เพิ่มเติมมามากมาย และหนึ่งในสิ่งที่น่าสนใจอย่างมากคือระบบย้ายฝ่ายและการเพิ่ม Desperado (Pirateหรือโจรสลัด) ที่เป็นขั้วอำนาจที่สามในเกมขึ้นมา ซึ่งทำให้เกมมีสีสันมากขึ้นและระบบย้ายฝ่ายนี้ยังเป็นการปรับสมดุลให้ผู้เล่นที่แข็งแกร่งย้ายไปช่วยเหลือฝ่ายที่อ่อนแอกว่าอีกด้วย Exile หรือการย้ายฝ่าย คือความสามารถในการเปลี่ยนฝ่าย จากฝ่ายปัจจุบันเป็นฝ่ายตรงข้าม เช่น การย้ายจากฝ่าย Nuia ไปฝ่าย Harunya หรือฝ่าย Nuia ไป Desperado (Pirateหรือโจรสลัด) เป็นต้น เงื่อนไข ● เมื่อใช้ Exile 1 ครั้ง ไม่สามารถเปลี่ยนได้อีก 2 เดือน, ดังนั้นจึงต้องตัดสินใจให้ดี ●ผู้เล่นสามารถรับไอเทม Exile จากการทำเควสง่ายๆ และสามารถใช้ไอเทมได้เมื่อมีจำนวนที่สามารถย้ายฝ่ายได้ (Exile) เหลืออยู่ใน Faction Info ● อ้างอิงตามกิจกรรมฝ่าย, ผู้เล่นสามารถย้ายจากฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่าไปยังฝ่ายที่กำลังอ่อนแอกว่าเท่านั้น, และยิ่งคะแนนกิจกรรมฝ่ายแตกต่างกันมากเท่าไหร่, ก็สามารถย้ายได้มากขึ้นเท่านั้น  ● การย้ายฝ่ายต้องการความสามารถทางภาษา (Language Proficiency) 5,000 หรือมากกว่า การเรียนภาษา เราต้องเตรียมไอเทมในการคราฟ Tutoring Cushion ตามภาษาที่เราต้องการเรียนดังนี้ 1.Cashmere Thread x 3 2.Fabric x10 3.Handicraft Yarn x20 4.Lavender x 200 หรือ Rose x 200 (ตามชนิด Tutoring Cushion ที่เราทำการคราฟ ครูผู้ชายใช้ Lavender ครูผู้หญิงใช้ Rose) เมื่อเตรียมครบแล้วให้นำไปคราฟที่ Handicraft Kiln จากนั้นให้นำ Tutoring Cushion ที่เราคราฟไปวางที่พื้นบ้านแล้วเรียกครูออกมาเพื่อทำการเรียนภาษา ซึ่งจำเป็นต้องมี The Art of Language อยู่กับตัวด้วยจึงจะสามารถเรียนได้ The Art of Language สามารถทำการคราฟได้ที่ Printing Press Workbench เมื่อทำการเรียนเสร็จแล้ว เราจะได้ Debuff ในการเรียนภาษาขึ้นมา ซึ่งเราจะได้ค่าความชำนาญ 100 แต้ม ต้องใช้ The Art of Language 1 เล่ม ในการเรียนแต่ละครั้ง และมีคูลดาวน์ในการเรียนใหม่ 4 ชั่วโมง ● เพื่อป้องกันปัญหาที่ไม่สามารถดำเนินเควสชนเผ่า (Race Quest) ต่อได้ในภายหลัง เฉพาะผู้ที่ทำเควส A Secret in Sun's End สำเร็จเท่านั้นที่สามารถใช้ย้ายฝ่ายได้ A Secret in Sun's End เป็นเควสหลักใน Chapter 7 ต้องทำให้เสร็จก่อนถึงจะทำเควสย้ายฝ่ายได้ แต่ในกรณี ย้ายออกจาก Desperado (Pirate) ไปยังฝ่ายอื่นๆ สามารถย้ายได้โดยไม่ต้องสำเร็จเควส A Secret in Sun's End ● เฉพาะผู้เล่นที่มีคะแนนความเป็นผู้นำ (Leadership) 100 คะแนนหรือมากกว่าและมี Equipment points 8,000 คะแนนหรือมากกว่าเท่านั้นที่จะสามารถรับเควส Exile ได้ ● หลังจากสำเร็จเควส Exile แล้วจะไม่สามารถรับเควสได้อีกเป็นระยะเวลา 5 นาที ● ฮีโร่ของแต่ละฝ่ายจำเป็นต้องรักษาตำแหน่งของตนไว้ ดังนั้นจะไม่สามารถย้ายฝ่ายได้ ข้อสรุปของเงื่อนไข ● สามารถย้ายจากฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่าไปยังฝ่ายที่กำลังอ่อนแอกว่าเท่านั้น, และต้องเป็นฝ่ายที่มีจำนวนที่สามารถย้ายฝ่ายได้ (Exile) เหลืออยู่ ● ต้องมีความสามารถทางภาษา (Language Proficiency) 5,000 หรือมากกว่า ● มี Equipment score 8,000 หรือมากกว่า ● ต้องไม่อยู่ในสถานะที่รอเวลาคูลดาวน์ ● สำเร็จเควส A Secret in Sun's End  ( ยกเว้นเมื่อย้ายจาก Desperado ไปยังฝ่ายอื่น ) ● มีทักษะความเป็นผู้นำ (Leadership) 100 หรือมากกว่า ฝ่ายที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ฝ่ายที่มี การย้าย หมายเหตุ Nuia Alliance Haranya Alliance ย้ายจากฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่าไปยังฝ่ายที่มีกำลังอ่อนแอกว่า Desperado (Pirate) Haranya Alliance Nuia Alliance Desperado (Pirate) Desperado (Pirate) Haranya Alliance Nuia Alliance ข้อมูลฝ่าย ในช่อง หรือกด Shift+K ท่านสามารถตรวจสอบข้อมูลของฝ่ายและจำนวนที่สามารถย้ายฝ่ายได้ (Exile) ● ตัวเลขจะถูกรีเซ็ตในเวลา 0 นาฬิกาของวันอาทิตย์ เมื่อมีการตัดสินฝ่ายที่มีกำลังเหนือกว่าและอ่อนแอกว่า ข้อมูลของ NPC สำหรับย้ายฝ่าย ภาพจาก https://www.facebook.com/ArcheAge.TH.SEA.XLGAMES/photos/o.174506927628644/199765638276033 ไอเทมการย้ายฝ่าย ไอเทม ชื่อ หมายเหตุ Haranya Exile Nuia Alliance → Haranya Alliance Desperado → Haranya Alliance Nuia Exile Haranya Alliance → Nuia Alliance Desperado → Nuia Alliance Desperado (Pirate) Nuia Alliance → Desperado Haranya Alliance → Desperado ● ผู้เล่นสามารถลองเปลี่ยนฝ่ายได้ และจะล้มเหลวหากไม่ตรงตามเงื่อนไข ● หากผู้เล่นประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนฝ่าย , ท่านสามารถรับรางวัลเป็น Exile Support Bundle 5...

Read more
Genshin Impact Elemental Shield cover playpost

เกราะธาตุ... หนึ่งในความน่ารำคาญสุดๆ ของมอนสเตอร์ใน Genshin Impact ตัวไหนมีเกราะธาตุแล้วเสกขึ้นมาทันก่อนฆ่ามันได้นี่ มีปวดหัวกันอย่างแน่นอน บทความสั้นๆ วันนี้จะชวนเพื่อนๆ มาหาวิธีตบตีเกราะธาตุของมอนเหล่านี้กันจ้า ชนิดของเกราะธาตุ เกราะธาตุของมอนสเตอร์นั้น จะแสดงออกมาเป็นรูปแบบของหลอดเลือดสีของธาตุนั้นๆ ใต้หลอดเลือดสีแดงของมอนสเตอร์แต่ละตัว ซึ่งไอ้เจ้าเกราะธาตุเหล่านี้เนี่ย ก็จะแบ่งออกไปเป็นกลุ่มๆ ตามชนิดของมอนสเตอร์ด้วย แต่ละกลุ่มนั้นมีคุณสมบัติเฉพาะตัวของมันอยู่ ถ้าจำได้เพื่อนๆ ก็มีปัญหาน้อยลงเยอะเลยล่ะ   ► เกราะของสไลม์ (มีเฉพาะในสไลม์ธาตุดินและธาตุน้ำแข็ง) คุณสมบัติ : ป้องกันตัวเฉยๆ ลดความเสียหายกายภาพได้มาก ดาบใหญ่ทำลายได้ง่ายเลยทีเดียว วิธีจัดการ : ใช้ธาตุที่ไม่ใช่ธาตุเดียวกันโจมตี หรือใช้อาวุธอย่างดาบใหญ่ทุบ ผลเมื่อเกราะแตก : สไลม์จะตกใจและพยายามหนีซักพักหนึ่ง ถ้าถูกขวางจะสู้กลับตามปกติ เมื่อปล่อยไว้ซักพักหนึ่งจะสร้างเกราะขึ้นมาใหม่   ► เกราะของ Whopper Flower คุณสมบัติ : ลดความเสียหายกายภาพได้พอสมควร ถูกทำลายได้ง่ายมากจากธาตุที่ชนะทาง สร้างเกราะเมื่อจะชาร์จท่าใหญ่เท่านั้น หลังชาร์จเสร็จเกราะจะหายไปและยิงท่าใหญ่ต่อเนื่อง (ปล่อยไว้ซักพักจะใช้ท่าใหญ่ หรือถ้าใกล้ตายจะรีบใช้ท่าใหญ่ทันที) วิธีจัดการ : ใช้ธาตุที่ไม่ใช่ธาตุเดียวกันโจมตี หรือใช้อาวุธอย่างดาบใหญ่ทุบ หากใช้ธาตุที่ชนะทางแทบจะแตกในพริบตา ผลเมื่อเกราะแตก : ติดสตัน ยืนงงให้ตีอย่างยาวนานมากร่วม 15 วินาที   ► เกราะของ Abyss Mage คุณสมบัติ : ลดความเสียหายกายภาพได้ดีมาก มีความทนทานสูงมากๆ แต่แพ้ทุกธาตุที่ไม่ใช่ธาตุเดียวกัน ธาตุที่แพ้ทางจริงๆ จะเข้าเยอะหน่อย วิธีจัดการ : ใช้ธาตุที่ไม่ใช่ธาตุเดียวกันโจมตีไปเรื่อยๆ สามารถใช้อาวุธอย่างดาบใหญ่ทุบได้ แต่นานมากๆ กว่าจะแตก ผลเมื่อเกราะแตก : ตกลงมายืนติดสตันที่พื้นประมาณ 10 วินาที หลังจากนั้นมันจะร่ายท่าใหญ่ป้องกันตัว (หัวเราะและเต้นไปมาพร้อมกับมีวงเวทย์ที่พื้น) เมื่อท่าใหญ่จบจะสร้างเกราะขึ้นมาใหม่อีกทีหนึ่ง หมายเหตุ : เกราะของ Hydro Abyss Mage (ธาตุน้ำ) มีความแข็งมากที่สุด และแตกต่างจากคนอื่นตรงธาตุน้ำแข็งจะค่อนข้างมีประสิทธิภาพมากกว่าไฟฟ้า ซึ่งแทบจะเป็นตัวเดียวในเกมที่มีปัญหาเรื่องนี้จนอาจจะเรียกได้ว่าเป็น Bug ก็ว่าได้   ► เกราะของ Futai Skirmisher คุณสมบัติ : ลดความเสียหายกายภาพได้ดีมาก มีความทนทานสูงต่อธาตุที่ไม่ได้แพ้ทาง วิธีจัดการ : ใช้ธาตุที่ชนะทางอัดให้แตก ธาตุอื่นอาจจะถึงขั้นไม่มีผลเลย ส่วนดาบใหญ่ไม่ช่วยอะไรนัก หากมีหลายตัวอยู่ด้วยกัน ควรกำจัดตัวธาตุน้ำ > ธาตุดิน ก่อนเป็นอันดับแรก (ธาตุน้ำฮีลได้, ธาตุดินเสริมเกราะคนอื่นได้) ผลเมื่อเกราะแตก : ติดสตันประมาน 10 วินาทีให้ได้ทุบฟรีๆ   ► เกราะของ Regisvine (บอสดอกไม้ทั้งสองชนิด) คุณสมบัติ : มีไว้เป็นจุดอ่อนเฉยๆ โดยจะมีเกราะสลับกันที่ลำต้นและที่เกสร วิธีจัดการ : ใช้ธาตุที่ไม่ใช่ธาตุเดียวกันโจมตี ธาตุที่ชนะทางจะมีผลแรงมาก นับความเสียหายจากจำนวนครั้งในการโจมตี/ชนิดในการโจมตีมากกว่าตัวเลขความเสียหายจริง ผลเมื่อเกราะแตก : ตัวดอกจะหมดแรงประมาณ 15 วินาที ในช่วงนี้จะทำความเสียหายได้เต็มจำนวนจนกว่าจะลุกกลับขึ้นมาอีกครั้ง (เกราะแตกไม่แตกไม่เกี่ยวกับการลดความเสียหายตรงนี้ เป็นแค่ช่วงระยะเวลาทำความเสียหายได้เฉยๆ DPS Window)   ธาตุที่ชนะทางในการทำลายเกราะที่ดีที่สุด นอกจากธาตุที่ตรงกับตัวเกราะชนิดนั้นๆ แล้ว เพื่อนๆ สามารถใช้ธาตุอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่ธาตุเดียวกันโจมตีใส่เพื่อลดเลือดของเกราะได้ทั้งนั้น หรือถ้าเพื่อนๆ ใช้อาวุธชนิดดาบใหญ่ จะสามารถลดเกราะธาตุนี้ลงได้เช่นกันเพราะถือว่าเป็นการโจมตีชนิดที่รุนแรงพิเศษ (แต่ลองเอาดาบธรรมดาหรือหอกจิ้มนี่ ไม่มีสะเทือนเลยจ้า) เพียงแต่ว่าถ้าเพื่อนๆ ใช้ธาตุที่ชนะทาง จะทำความเสียหายใส่ตัวเกราะได้ดีที่สุด ซึ่งจะไล่ตามแผนภูมิดังนี้ (อันที่จริงแค่ทำให้ติดสถานะตรงข้าม เช่น เปียก กับเกราะไฟ เลือดเกราะก็ลดแล้วแหละ) ไฟฟ้า ทำลาย เกราะน้ำ (ยกเว้น Hydro Mage ใช้น้ำแข็ง) น้ำ ทำลาย เกราะไฟ ไฟ ทำลาย เกราะน้ำแข็ง น้ำแข็ง ทำลาย เกราะไฟฟ้า ดิน ทำลาย เกราะดินซะงั้นล่ะเฮ้ย เอาล่ะ รู้วิธีรับมือเกราะธาตุกันแล้ว อย่าลืมจัดทีมให้มีตัวช่วยเจาะเกราะดีๆ ซักตัวตอนจะวิ่งฟาร์มอะไร ชีวิตการฟาร์มจะสบายขึ้นสุดๆ เลยล่ะ! ..... อันที่จริงแนะนำให้จัดทีมที่มีตัวเจาะเกราะธาตุเวลาลง Spiral Abyss นั่นแหละ ไม่งั้นชีวิตลำบากแน่ จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้ว หวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ นะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่

Read more
Page 56 of 137 1 55 56 57 137