Mobile Guide

            สวัสดีเพื่อนๆชาวเกม Darkness Rises ทุกท่านนะครับ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับระบบสมาคมกิลด์แบบละเอียดๆกัน เพื่อที่ผู้เล่นใหม่ทุกคนจะได้รู้ว่าระบบนี้มีอะไรดีๆบ้าง และจำเป็นไหมที่จะต้องมีกิลด์อยู่ แล้วถ้าหากไม่มีกิลด์อยู่ล่ะจะกระทบการเล่นในแต่ละวันมากเพียงใด ไปชมบทความนี้กันได้เลยครับ... การสร้างกิลด์      หากเราจะเป็นผู้สร้างกิลด์ล่ะก็ อันดับแรกที่จำเป็นเลยคือต้องมีทองถึง 10,000 เพียงแค่นี้ก็สามารถสร้างกิลด์ได้ เลือกสี ,สัญลักษณ์ ,พื้นหลังได้ตามใจชอบเลย... มีกิลด์แล้วไงต่อ?          ถ้ามีกิลด์แล้วล่ะก็นี่จะเป็นหน้าแรกที่ทุกคนจะได้เห็นกัน ส่วนนี้จะเป็นส่วนของการประกาศต่างๆจากกิลด์และการบริจาคเงินให้กับกิลด์ และจะมี 2 ส่วนที่เราต้องเข้ามาทำเป็นประจำทุกวันเลยนั่นคือ การกดเข้าร่วม และ บริจาค - การเข้าร่วม      เป็นที่รับของประจำวันของกิลด์ ทุกคนจะได้รับของที่มากขึ้นตามจำนวนคนที่ออนไลน์เข้ามาในเกมแล้วมากดเข้าร่วมตรงนี้ แน่นอนว่ากิลด์ที่ช่วยเหลือกันดีเข้ามาทุกคนก็จะได้รับเงินและเหรียญกิลด์ไปอย่างงามๆ - บริจาค      เมื่อร่วมกิลด์แล้วเราก็ไม่ควรจะเป็นปลิงเกาะกิลด์ไปวันๆนะครับ ส่วนนี้เป็นหน้าที่ของทุกคนในกิลด์เลย ซึ่งจะบริจาคแบบไหน เราไหวแบบไหนก็เลิอกไปเลยครับ ยิ่งค่าการบริจาคมูลค่าสูงก็จะได้แต้มต่างๆมากขึ้นไปด้วยและทำให้กิลด์โตเร็วอย่างมาก เหรียญกิลด์ และ แต้มกิลด์ เอาไปทำไรได้? - เหรียญกิลด์ จะเอาไว้ซื้อของต่างๆ เช่นในร้านค้ากิลด์หรือซื้อบัฟกิลด์ - แต้มกิลด์ จะเอาไว้อัพเกรดในส่วนต่างๆของกิลด์เช่น อัพ Lv.ของบัฟกิลด์ให้สูงขึ้น อัพ Lv. กิลด์ให้สูงขึ้นดียังไง?     การที่กิลด์เราอัพเวลมากขึ้นๆจะทำให้ปลดล็อคในส่วนต่างๆของกิลด์ได้เช่น ไอเทมบางชิ้นในร้านค้ากิลด์ที่ล็อคไว้อยู่ ,บัฟกิลด์อื่นๆที่ล็อคอยู่ และการจะทำให้กิลด์อัพ Lv. นั้นก็เพียงแค่ช่วยๆกันบริจาคนั่นเอง โดยการบริจาคแต่ละแบบก็จะได้ EXP กิลด์มากน้อยไม่เหมือนกัน บัฟกิลด์      เป็นส่วนที่ช่วยเหลือเราในการเล่นได้อย่างมากมาย เพราะยิ่งเลเวลบัฟสูงก็จะได้ % ที่จะเพิ่มค่าพลังต่างๆของเราได้มากสุดๆ และบัฟพวกนี้เราสามารถซื้อเอฟเฟคได้ทีหลายๆบัฟและทับซ้อนเวลากันได้เป็นชั่วโมงๆ ขึ้นอยู่กับเหรียญกิลด์ของเราว่ามีมากน้อยเพียงใด มาดูกันหน่อยว่าบัฟกิลด์แต่ละอันมีอะไรบ้าง - โฟกัส : เพิ่ม Crit Rate (เพิ่มโอกาสติดคริติคอลนั่นเอง) - การพิพากษา : เพิ่ม Crit DMG (เพิ่มความเสียหายจากคริติคอล) - ความโลภ : เพิ่มทองในด่านที่ได้รับ - การพัฒนา : เพิ่ม Exp ในด่านที่ได้รับ - การทำลายล้าง : เพิ่ม Crit Rate ในโหมด PvP - การทำลายล้าง 2 : เพิ่ม Crit DMG ในโหมด PvP -------------------------------------- บัฟเหล่านี้เราสามารถที่จะอัพเลเวลพวกมันได้ด้วยการใช้ "แต้มกิลด์" จำนวนหนึ่ง และซื้อบัฟกิลด์ด้วย "เหรียญกิลด์" เราสามารถกดซื้อบัฟกิลด์หลายๆบัฟได้ และซื้อบัฟเดิมซ้ำๆเพื่อเพิ่มระยะเวลาแสดงผลให้นานขึ้นได้อีกด้วย! ร้านค้ากิลด์     แหล่งรวมไอเทมต่างๆมากมายของกิลด์ที่ซื้อได้ด้วยเหรียญกิลด์เท่านั้น! เมื่อเลเวลกิลด์อัพจะสามารถปลดล็อครายการไอเทมใหม่ๆได้ เควสกิลด์ เป็นการทำเควสอีกรูปแบบหนึ่ง แต่จุดประสงค์หลักๆของเควสกิลด์นี้จะเป็นการทำเพื่อกิลด์ เพื่อสำเร็จเควสต่างๆเราจะได้ เหรียญกิลด์มาจำนวนนึงสำหรับซื้อไอเทมในร้านค้ากิลด์ และ Exp กิลด์ แน่นอนว่าสมาชิกทุกคนในกิลด์ควรทำ ก็เพื่อให้กิลด์ของพวกเรานั้นโตมากยิ่งขึ้น มี PVP ระหว่างกิลด์ด้วยนะ! ระบบมันส์ๆที่เราสามารถลากเพื่อนในกิลด์ของเราไปหาตบกิลด์อื่นๆได้ โดยการเล่นจะเป็นรูปแบบ 3vs3 และสมาชิกในการเข้าร่วม PvP จะต้องเป็นเพื่อนๆในกิลด์เท่านั้น PVP กิลด์ไม่ได้มีแต่ความมันส์เท่านั้น แต่ยังให้รางวัลอีกด้วย รางวัลจะแบ่งออกไปในหลายๆส่วน ทั้งยังมีร้านค้าเกียรติยศ สำหรับแลกไอเทมต่างๆได้อีกด้วย สรุปแล้วควรมีกิลด์อยู่หรือไม่? ควรมีสุดๆ สำหรับผู้ที่จริงจังและต้องการเก็บทุกเม็ดทุกหน่วยของเกม แต่สำหรับผู้เล่นที่ชิวๆก็ไม่ต้องก็ได้ เพราะจะทำให้ภาระในการเล่นในแต่ละวันเพิ่มขึ้น และอาจจะได้รับความกดดันจากกิลด์อีกหากเราขาดหรือไม่ช่วยเหลือกิลด์บ้าง สำหรับผู้เล่นใหม่นะครับแรกๆยังไม่จำเป็นก็ได้เพราะว่าเมื่อเข้ากิลด์เราจะต้องบริจาคทองให้กับกิลด์ครั้งละหมื่น ซึ่งแรกๆเราจะต้องการทองมาก เพื่อใช้ในการอัพของตัวละครของเรา ค่อยไปหากิลด์อยู่หลังเลเวล 40+ หรือมีค่าพลังเกิน 5 แสนก็ได้ครับ... ดาวน์โหลดเกม Darkness Risesกลุ่มผู้เล่น เข้ามาร่วมพูดคุย แชร์ข้อมูลกันได้ครับ... ติดตาม Facebook เพจหลัก

Night Lord เป็นหนึ่งในอาชีพที่อยู่ในกลุ่มของ Explorer โดยภายใน Maple Story M พวกเค้าอาจจะไม่ค่อยเหมือนกับในเวอร์ชั่น PC สักเท่าไหร่ในแง่ผลของสกิล แต่ก็ยังคงเป็นอาชีพที่มีความคล่องตัวสูงและสามารถสู้ได้ทั้งระยะใกล้และไกล โดยอาชีพนี้มีสกิลจัดได้ว่าครบเครื่องใช้ได้ทั้งการเก็บเลเวล, ลงดัน, ล่าบอส โดยช่วงแรกๆ อาชีพนี้อาจจะเล่นยากอยู่สักหน่อยแต่ถ้าหากเล่นจนถึงช่วงเลเวลประมาณ 60 แล้วชีวิตของเราจะดีขึ้นมากๆ https://www.youtube.com/watch?v=aAF5NITZCuQ แนวทางการอัพสกิลและการเก็บเลเวลเบื้องต้น Night Lord มีอะไรที่แตกต่างจากเวอร์ชั่น PC ค่อนข้างมากครับ อาทิสกิลที่เห็นได้ชัดเลยอย่างเช่นสกิล Showdown ที่ใน PC จะได้โบนัส exp และมีโอกาสดร็อปไอเทมเพิ่มแต่ในฉบับ Mobile นี้จะแค่ทำดาเมจเฉยๆ เท่านั้นครับ และยังมีสกิลอื่นๆ ที่แม้ว่ากราฟิกจะเหมือนเดิมแต่ผลไม่เหมือน 1-29 : ในช่วงระยะแรกนี้สกิลที่เราจะใช้เก็บเลเวลเป็นหลักเลยคือ Bandit Slash  ครับเพราะสามารถเก็บศัตรูได้ในทีเดียวค่อนข้างง่าย โดยแนะนำว่าให้เน้นอัพไปที่สกิล Passive ก่อนแล้วค่อยวนกลับมาอัพ Active ต่างๆ ก็ได้เพราะช่วงแรกไม่ค่อยเห็นผลอะไรเท่าไหร่ ให้เราพยามทนไปจนถึงช่วงเลเวล 30 ก่อนครับ 31-59 : ในช่วงเลเวลนี้เราจะมีสกิลหมู่เพิ่มมาอีกท่าคือ Shuriken Burst  ให้เราใช้เก็บเลเวลแทนท่าเก่าได้เลย แม้ว่าจะไม่ใช่ท่าที่เก็บเลเวลได้ไวมาก แต่ก็พอแก้ขัดได้ครับ รอท่าหากินของเราตอนเลเวล 60 ในช่วงนี้แนะนำว่าให้เปลี่ยนอาวุธให้เรียบร้อย โดยในช่วงเลเวล 35 Trade Station จะเปิดให้ลองหาอาวุธที่ดีกว่าเก่าสักชิ้นให้ตีมอนสเตอร์ทีเดียวตาย ส่วนการอัพสกิลช่วงนี้ก็คล้ายๆ กับของเดิมคืออัพสกิล Passive ก่อน หลังจากนั้นค่อยวนมาที่ Buff และ Active ครับ โดยสกิลที่แนะนำให้อัพแรกๆ เลยคือ Assassin Mark เพื่อเอาไว้ช่วยกระจายดาเมจให้เรา *Note : ในช่วงเลเวล 35 จะเปิดระบบตลาดได้ (Trade Station) จะเปิดให้ใช้งานแนะนำว่าควรหาอาวุธสักชิ้นมาใช้ เพราะซื้อเอาจะง่ายกว่าการอัพเกรดเองมาก 60-99 : ในช่วงนี้การเก็บเลเวลของเราจะง่ายขึ้นมาพอสมควร เพราะเราจะมีสกิลหมู่อย่าง Shade Splitter  ซึ่งกว้างมากๆ ทำให้จัดการกับมอนสเตอร์ได้ไวกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัด ส่วนถ้าใครจะลงดันในการตีดันผมแนะนำว่าให้ใช้บัฟ Shadow Partner แล้วตามด้วย Triple Throw รัวๆ เอาครับ ในส่วนของการอัพเลเวลสกิลในช่วงนี้ผมแนะนำว่าให้อัพ Passive อย่าง Expert Throwing Star ก่อน จากนั้นก็ตามด้วยบัฟ Shadow Stars ส่วนหลังจากนั้นจะอัพอะไรก่อนก็ได้ครับ แต่สกิลพวก Active ไม่จำเป็นต้องรีบอัพมากก็ได้ ในช่วงนี้การเก็บเลเวลตามเควสจะเริ่มติดขัดโดยเฉพาะช่วงหลัง 80 เควสจะหมด แนะนำให้ลงดันเพื่อเก็บเลเวลครับ โดยดันที่ได้ EXP งามมากเลยคือ Mini Dungeon แต่ดันท่ขาดไม่ได้เลยก็คือปีรามิดควรลงให้ครบครับเพราะมีโอกาสได้เครื่องประดับด้วย  และถ้าหากว่าลงดันหมดแล้วไม่รู้จะไปเวลไหนดีแนะนำว่าให้ไปต่อที่ Star Force Field ครับ 100+ : showdown ก่อนเพื่อเก็บเลเวลและใช้ในดัน หลังจากนั้นให้อัพไปทาง Toxin Venom และ Night Lord's Mark ครับ นอกจากนั้นก็ลองอัพดูได้ตามใจชอบครับ ในช่วงนี้การเก็บเลเวลส่วนใหญ่เราจะอยู่กับการลง Mini Dungeon หรือไม่ก็ Star Force Field นั่นเอง *ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ https://youtu.be/4N85xdnOnLE ข้อมูลสกิลของ Night Lord Night Lord Lv.0 Lucky Seven (Active) ปาดาวกระจายสองดวงใส่ศัตรู ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 10Require MP : 26 Cooldown : 0s Target : Opponent Attack Type : PHY Target Count : 1 Hit Count : 1 Skill DMG : 125.8% Bandit Slash (Active) ฟาดฟันศัตรูด้านหน้าเป็นกลุ่ม ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 10Require MP : 52 Cooldown : 0s Target : Opponent Attack Type : PHY Target Count : 1 Hit Count : 1 Skill DMG : 203% Dark Sight (Buff) หลบในเงาเพื่อป้องกันความเสียหายจากศัตรู ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 5Require MP : 42 Cooldown : 30s Target : Self Buff Duration : 10s Invicibility Side Step (Passive) หลบในเงาเพื่อป้องกันความเสียหายจากศัตรู ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 5EVD : 6% Flash Jump (Passive) ทำให้กระโดดสองครั้งได้ กดปุ่มทิศทางระหว่างกระโดดเพื่อเลือกทิศที่จะกระโดดไป Nimble Body (Passive) เพิ่มความแม่นยำ การหลบหลีกและอัตตาติดคริติคอล ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 5ACC : 2% EVD : 6% Crit Rate : 2%   Night Lord Lv.30 Shuriken Burst (Active) ปาดาวกระจายที่จะระเบิดสร้างความเสียหายเป็นหมู่ใส่ศัตรูสุงสุด 5 ตัว ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 10Require MP : 59 Cooldown : 0s Target : Opponent Attack Type : PHY Target Count : 1 Hit Count : 1 Skill...

Star Force Field จะเป็นพื้นที่ที่มีศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าปกติ เหมาะแก่การฟาร์มเป็นอย่างมาก ซึ่งการจะเข้าไปนั้น ผู้เล่นจะต้องมีค่า Star Force มากเพียงพอด้วย โดยค่านี้จะได้จากการ Enhance อาวุธและอุปกรณ์ของเรานั่นเองครับ ► ข้อมูลเบื้องต้นของ Star Force Field ผู้เล่นต้องมีเลเวล 60 ขึ้นไป มอสเตอร์ในพื้นที่นี้จะมีค่า HP / ATK สูงกว่าปกติ สามารถเล่นเป็นปาร์ตี้ได้ ในแต่ละพื้นที่จะต้องการค่า Star Force ที่แตกต่างกันไป หากมีค่านี้ไม่ถึงจะทำความเสียหายมอนสเตอร์ไม่ได้ สามารถเข้าได้ผ่านทางเมนู จากหน้าจอหลัก ร่วมกลุ่มผู้เล่น MapleStory M >>Click<<  

Dark Knight เป็นหนึ่งในอาชีพที่อยู่ในกลุ่มของ Explorer โดยภายใน Maple Story M สายอาชีพนี้แม้ว่าจะเป็นสายประชิดก็จริง แต่ในช่วงเลเวลสูงๆ อาชีพนี้มีความสามารถในการเคลียร์มอนสเตอร์ไม่ได้น้อยกว่าอาชีพอื่นๆ เลย และท่าก็จัดว่าค่อนข้างกว้างเลยทีเดียวล่ะครับ แต่ที่เด่นสุดก็คือบัฟสารพัดชนิดที่ค่อนข้างมีประโยชน์เอามากๆ  เพียงแค่ช่วงแรกๆ อาจจะเก็บเลเวลยากเพราะสกิลค่อนข้างสั้นเท่านั้นเอง นอกจากนี้ในดันเจี้ยนเค้ายังเป็นสายอาชีพที่ชนบอสให้กับปาร์ตี้ได้ดีสุดๆ เพราะจำนวนเลือดที่เยอะแบบเห็นได้ชัด และมีสกิลที่รุนแรงอย่างกุงเนียร์ด้วย โดยรวมแล้วเป็นอาชีพที่ค่อนข้างสมดุลและไปได้แทบจะทุก Content ครับ แต่เป็นอาชีพที่ไม่ค่อยเหมาะกับการกดออโต้ยาวๆ เท่าไหร่ https://youtu.be/NnPDOl6mmHY แนวทางการอัพสกิลและการเก็บเลเวลเบื้องต้น โดยภาพรวมแล้วสายอาชีพนี้เป็นอาชีพที่เคลียร์มอนสเตอร์ได้กลางๆ ไม่ช้าหรือไม่ไวมาก แต่ก็สามารถฟาร์มได้นานโดยไม่ต้องเปลืองยามากนักจากสกิล Beholder (ถ้าไม่ลืมกด)  เพียงแค่ในช่วงต้นๆ สกิลเค้าอาจจะค่อนข้างด้อยไปสักนิดในการเก็บเลเวล ถ้าจะให้ดีการเล่นตัวละครนี้เราควรอยู่เฝ้่าหน้าจอได้เรื่อยๆ เพราะสกิลบัฟของเค้าค่อนข้างดีและทำให้เก็บเลเวลไวขึ้นมาก (ต้องกดเรื่อยๆ ) แต่ข้อเสียก็คือสกิลหลักอย่าง Beholder ไม่สามารถให้สัตว์ใช้ได้ตอนออโต้ซะอย่างนั้นต้องกดเอาเอง 1 - 29 : ในช่วงแรกจะมีสกิลให้เราใช้งานน้อยมาก แนะนำว่าให้อัพกวก Passive ต่างๆ เอาไว้ก่อน เนื่องจากช่วงแรกการเร่งอัพสกิลดาเมจไปก็ไม่ได้ช่วยอะไรเราเท่าไหร่ เปลืองมานาซะเปล่าๆ โดยเราอาจจะอัพสกิล Warrior Mastery ตามด้วย Iron Body และเอาสกิลกดใช้ไว้ทีหลังได้เลยครับ 31- 59 : ช่วงเลเวล 35 อย่าลืมเปลี่ยนไอเทมด้วยเพราะมอนสเตอร์จะเริ่มดุขึ้น ในช่วงนี้เราจะมีสกิลมากขึ้นและสามารถเก็บเลเวลได้โดยไม่ค่อยเปลืองยาเท่าไหร่แล้ว โดยหากเรามีเวลากดบัฟเรื่อยๆ แนะนำว่าให้อัพสกิล Beholder และท่าบัฟต่างๆ ก่อน แต่หากไม่ค่อยมีเวลากดเองเท่าไหร่ปล่อยออโต้ยาวๆ ก็อัพไปทางพวก Passive ก่อนได้ครับ ดังนี้ Weapon Mastery > Final Attack > Physical Training *Note : ในช่วงเลเวล 35 จะเปิดระบบตลาดได้ (Trade Station) จะเปิดให้ใช้งานแนะนำว่าควรหาอาวุธสักชิ้นมาใช้ เพราะซื้อเอาจะง่ายกว่าการอัพเกรดเองมาก 60-99 : ในช่วงเลเวลนี้จะมีสกิลเพิ่มขึ้นมาเยอะมากๆ สกิลในการเก็บเลเวลหลักของเราจะเป็น Charge ส่วนแนวทางการอัพสกิลนั้นแนะนำให้อัพ Cross Surge กับ Beholder's Buff ก่อน แต่หากไม่ได้กดเองบ่อยข้าม Cross Surge กับ Beholder's Buff ไปก่อนก็ได้ครับ นอกนั้นก็ไม่ค่อยตายตัวแล้วอัพอะไรก็ได้ครับ สาเหตุที่ให้อัพ Beholder's Buff ก่อนเพราะจะทำให้เราประหยัดมานาได้เยอะมากเพียงแต่ข้อเสียคือบัฟมันจะหมดทุก 10 นาที (ใช้ร่วมกับสกิล Beholder ) ถ้าหากไม่คิดจะกดสกิลบ่อยๆ ก็แนะนำว่าให้เน้นไปอัพพวก Pasive กับัฟ ก่อนเลยก็ได้ครับเช่น Lord of Darkness และสกิลอื่นๆ จากนั้นค่อยวนกลับมาอัพสกิลกดใช้อย่าง Charge และ La Mancha Spear 100+ : ในช่วงนี้ผมจะไม่ขอแนะนำหรือฟิกอะไรมากครับ เนื่องจากผมก็ยังเล่นไปได้ไม่ไกลจากช่วง 100 มาก แต่โดยเบื้องต้นแล้วเราจะได้สกิลมาคอมโบเพิ่มอีกหลายท่าเลยทีเดียว รวมไปถึงสกิลที่ทำดาเมจกับบอสแรงขึ้นด้วย โดยคอมโบที่น่าสนใจหลังจาก 100 คือใช้ Sacrifice เพื่อดูดวิญญาณ Beholder เข้ามาจะทำให้เราใช้สกิลที่ค่อนข้างรุนแรงอย่าง Gungnir's Descent  ได้รัวๆ แต่ถ้าถามถึงการเก็บเลเวลแล้วในเบื้องต้นผมก็คิอว่าใช้สกิลเก่าๆ ก็ได้ครับ แต่ถ้าหากจะเอาสกิลในช่วงนี้ไว้เก็บเลเวลจริงๆ แนะนำให้อัพ Dark Impale แต่ถ้าเน้นจัดการกับบอสในดัน หรือลงดันแนะนำว่าให้อัพ Sacrifice > Gungnir's Descent *ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ข้อมูลสกิลของ Dark Knight https://youtu.be/5sn-kH-3O8I Dark Knight Lv.0 Slash Blast (Active) ฟาดโจมตีศัตรูเป็นกลุ่ม ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 10Require MP : 47 Cooldown : 0s Target : Opponent Attack Type : PHY Target Count : 6 Hit Count : 1 Skill DMG : 280.7% Warrior Leap (Passive) กระโดดได้อีกครั้งหนึ่ง กดปุ่มทิศทางเพื่อเลือกทิศที่จะกระโดดไปได้ Iron Body (Passive) เพิ่มพลังชีวิต, ค่า MP และพลังป้องกันที่มีให้สูงขึ้น ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 5 MAX HP : 416 MAX MP : 167 PHY DEF : 9% AG DEF : 9% Warrior Mastery (Passive) เพิ่มพลังโจมตีให้สูงขึ้น ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 5PHY ATK Increase : 9%   Dark Knight Lv.30 Piercing Drive (Active) แทงศัตรูที่อยู่ด้านหน้าเป็นกลุ่ม ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 10Require MP : 69 Cooldown : 0s Target : Opponent Attack Type : PHY Target Count : 8 Hit Count : 2 Skill DMG : 124.8% Spear Pull (Active) ตวัดหอกฟาดศัตรูทั้งหมดในรัศมีเป็นวงกว้างมาก พร้อมดึงเข้ามาและทำให้ติด Stun ค่าสเตตัสเมื่อเลเวล 10Require MP : 71 Cooldown : 10s Target : Opponent Attack Type : PHY Target Count : 8 Hit Count : 1 Skill DMG :...

Nett's Pyramid เป็นดันเจี้ยนที่ผู้เล่นจะต้องปกป้อง Obelisk จากเหล่ามอนสเตอร์ให้ได้ สามารถเข้าได้จากเมนู ในหน้าจอหลักเช่นเดียวกันกับดันเจี้ยนอื่นๆ โดยมีของรางวัลเป็นเครื่องประดับและ Gold Leaf ► ข้อมูลพื้นฐานดันเจี้ยน ดันเจี้ยนนี้สามารถเข้าได้ตั้งแต่เลเวล 60 ขึ้นไป ซึ่งภารกิจหลักในดันเจี้ยนนี้ของผู้เล่นคือการป้องกัน Obelisk (อยู่ทางด้านซ้ายของหน้าจอ) จากกลุ่มศัตรูที่จะเกิดมาจากทางด้านขวาเรื่อยๆ ให้ได้ ผู้เล่นสามารถได้รับ EXP ตามปกติ มอนสเตอร์จะบุกมาทั้งสิ้น 10 waves ซึ่งถ้า HP ของ Obelisk เหลือแม้จะมีแค่ 1 ตอน wave สุดท้ายจบลงก็จะถือว่าผ่าน นอกจากค่า EXP ที่ได้แล้ว จะยังมีโอกาสได้การ์ดจากการชนะดันเจี้ยนนี้อีกด้วย ในระหว่างเล่น ผู้เล่นจะได้แต้มตอนที่กำจัดศัตรู ซึ่งใช้ในการซื้อไอเทมชนิด Eye ได้ Eye มีทั้งหมด 5 แบบ และส่งผลกับผู้เล่นในปาร์ตี้ทุกคนในดันเจี้ยน ► วิธีการสร้างดันเจี้ยนเล่น หลังจากเลือกดันเจี้ยนแล้ว จะมีคำสั่งให้เลือกคือ สำหรับสร้างห้อง ซึ่งผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะตั้งเป็นแบบส่วนตัวหรือไม่ก็ได้ ซึ่งแบบส่วนตัวผู้เล่นอื่นจะเข้าไม่ได้ จะเข้าได้เฉพาะการชวนเพื่อนหรือคนในกิลเท่านั้น สำหรับการหาห้องเล่นแบบด่วน หากไม่มีห้องอยู่จะเป็นการสร้างห้องใหม่ขึ้นมา ระหว่างที่รอ เจ้าของห้องสามารถปรับห้องเป็น Public ได้ถ้าต้องการ แต่ว่าจะไม่สามารถปรับเป็น Private ได้อีก และในห้องรอที่เป็น Public นั้นจะมีเวลารอผู้เล่น 60 วินาที ก่อนที่ดันเจี้ยนจะเริ่มอัตโนมัติ โดยไม่สนใจว่าผู้เล่นจะครบแล้วหรือไม่ก็ตาม อย่างไรก็ตาม สามารถกดปุ่ม เพื่อยืดเวลารอได้ *ผู้เล่นที่มีปาร์ตี้จะไม่สามารถเข้าห้องรอได้ ซึ่งเมื่อดันเจีย้นเริ่ม ทุกคนในดันเจี้ยนจะถูกมัดรวมเป็นปาร์ตี้เดียวกันทันที* ► เงื่อนไขการเข้าดันเจี้ยน ผู้เล่นต้องมีตั๋ว Nett's Pyramid Entry Ticket ในการเข้า (เข้าฟรีได้สามครั้งต่อวัน) ดันเจี้ยนนี้ต้องมีผู้เล่นได้ 2-4 คน มีการจำกัดเลเวลตามความยากที่เลือกไว้(ระดับ Normal 60 - 120 ระดับ Hard 100 - 120) ► การลุยในดันเจี้ยนนี้ หลังจากที่ดันเจี้ยนเริ่มแล้ว ผู้เล่นจะต้องพยายามเอาตัวรอดและปกป้อง Obelisk ให้ได้ด้วยการกำจัดมอนสเตอร์ที่บุกมาเรื่อยๆ ทั้งหมด 10 Waves ใช้แต้มที่ได้จากการกำจัดศัตรูมาซื้อ Eye เพื่อบัพคนทั้งหมดในปาร์ตี้ ดันเจี้ยนจะจบลงเมื่อกำจัดศัตรูหมดใน Wave ที่ 10 หรือเมื่อ Obelisk HP เหลือ 0 (ทุกคนแชร์เลือดของ Obelisk กัน) เจ้าของห้องสามารถตั้ง Auto Battle ได้ระหว่างที่รอ ซึ่งเมื่อการต่อสู้เริ่มขึ้น จะสามารถใช้ระบบ Auto Battle หรือสู้เองก็ได้ ► รายละเอียด Eye Item Anubis's Eye : เพิ่มค่าสเตตัส Phy/MAG Atk ของสมาชิกทั้งหมด 10% เป็นเวลา 30 วินาที Osiris's Eye : สตั๊นมอนสเตอร์ทั้งหมดเป็นเวลา 1 วินาที แต่จะไม่ได้ผลกับมินิบอสและบอส Isis's Eye : ล้างสถานะผิดปกติทั้งหมดให้กับผู้กดใช้ (คูลดาวน์ 40 วินาที) Horus's Eye : ลดความเร็วของมอนสเตอร์ทั้งหมด 50% เป็นเวลา 10 วินาที เอฟเฟ็กนี้จะมีผลลดลงเหลือแค่ 10% กับบอสและมินิบอส(คูลดาวน์ 30 วินาที) ► สิ่งที่ควรทราบ Eye ไอเทมจะมีผลเฉพาะใน Nett's Pyramid เท่านั้น ทุกคนในปาร์ตี้แชร์ค่าคูลดาวน์ของ Eye ไอเทมกันดังนั้นตกลงกันให้ดีก่อนกด ► รางวัลที่ได้ ค่า EXP จะได้ตอนจบดันเจี้ยนนี่ไม่ว่าจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ตาม อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นจะได้ EXP ต่อเมื่อผ่าน Wave ที่ 3 เป็นต้นไป โดยคำนวนจากผลงานที่ทำได้ว่าผ่านไปได้เท่าไหร่ จำนวนคนในปาร์ตี้มีกี่คน เลือดเหลือเท่าไหร่ ได้กี่แต้ม (ไอเทมเพิ่มค่า EXP จะมไ่มีผลตรงนี้) หากผู้เล่นเคลียร์ดันเจี้ยนได้ จะมีโอกาสได้รับไอเทมด้วยด้วย ซึ่งตัวไอเทมจะส่งให้ทางกล่องจดหมาย และแตกต่างไปตามระดับความยาก ตัวอย่างของรางวัลที่อาจได้ กลุ่มผู้เล่น MapleStory M >>Click<<  

กระรอกน้อยแห่ง Onmyoji Arena ผู้มีหางใหญ่กว่าตัว Komatsu นั้น เป็นแครี่ที่มากับความสามารถที่ค่อนข้างแปลก และน่าน้วยในเวลาเดียวกัน เธอจะแสดงฝีมือได้ดีเมื่อมีเพื่อนอยู่ใกล้ๆ รวมถึงว่องไวในระดับนึงเมื่ออยู่กับศัตรู แม้ว่าตัวเธอจะไม่มีท่าในการเร่งความเสียหายที่รุนแรงเฉียบขาด แต่ลูกเล่นลูกชนของเธอ ทำให้เธอเป็น Marksman ที่จับตัวและเทรดด้วยยากเมื่ออยู่ในมือองเมียวที่เจนศึก ตำแหน่ง : Marksman ความชำนาญ : DPS ความยาก : 4 (Hard) DPS : A Agile : B Buff : C Survive : B Control : C   Skill ภาพ ชื่อสกิล ชนิด ความสามารถ Curiosity Natural Passive เพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ของเธอขึ้น 15% หากมีชิกิกามิศัตรูอยู่ในระยะ 800 หลา Pine Cone Clap Active Cooldown : 12/11/10/9/8 MP Cost : 60 เปลี่ยนการโจมตีของเธอให้กลายเป็นลูกสนยักษ์ ทำให้การโจมตีปกติของเธอ 8 ครั้งถัดไปสร้างความเสียหายกายภาพ 30 (+70% Bonus AD) เพิ่มเติมให้กับศัตรูที่อยู่รอบๆ เป้าหมายในรัศมี 285 หลา Pine Woods Blessing Active Cooldown : 24/22/20/18/16 MP Cost : 50 รับพรจากต้นสน ทำให้เธอไม่ได้รับความเสียหายกายภาพใดๆ (ยกเว้นป้อมปราการ) เป็นเวลา 2 วินาที Dependence Active Cooldown : 12/11/10/9/8 MP Cost : 60 กระโดดไปหาเพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในรัศมี พร้อมเพิ่มความเร็วการเคลื่อนที่ 45/50/55/60/65% เป็นเวลา 2 วินาทีให้กับทั้งสองคน ผลเพิ่มความเร็วนี้จะค่อยๆ ลดลงตามระยะเวลา ผลพาสซีพ : หากมีเพื่อนร่วมทีมอยู่ใกล้ๆ ทั้งคู่จะได้รับผลเพิ่มความเร็วในการโจมตี 5/10/15/20/25% Raining Pine Cones Ultimate Cooldown : 60/50/40 MP Cost : 100 ปล่อยลูกสนลงมาถล่มแบบสุ่มบนพื้นที่ที่กำหนดจำนวน 10/12/14 ลูกต่อระลอก รวมทั้งสิ้น 3 ระลอก สร้างความเสียหายกายภาพ 30/42/54 หน่วยในรัศมี 120 หลาพร้อมทำให้ติด Slow 30% เป็นเวลา 2 วินาที   แนวทางอัพสกิล แนวทางการเล่น Komatsu ผลพาสซีพของเธอจะทำให้ยามที่อยู่ในระยะโจมตีระยะไกล (600-800 หลา) เธอจะเคลื่อนที่เร็วขึ้น 15% ซึ่งจัดว่าค่อนข้างมากเลยทีเดียว ทำให้เธอไล่ตามหรือรักษาระยะได้ดีกว่าที่คาดคิดมาก Pine Cone Clap เป็นท่าบัพเร่งความเสียหาย รวมถึงใช้ในการตอดแบบลดความเสี่ยงได้ในตัว ด้วยรัศมีระเบิดที่ค่อนข้างกว้างพอสมควร แม้จะเบาไปเล็กน้อย แต่ก็ช่วยปั่นทอดกำลังของเหล่าครีปสำหรับการดัน หรือใช้ในการตอดพวกศัตรูที่อยู่นอกระยะโจมตีได้ แต่ต้องระวังการกดใช้ในรัศมีของป้อม เพราะการกระจายอาจจะไปโดนอีกฝ่ายจนป้อมหันมาเล็งเราได้ Pine Woods Blessing เป็นท่าอมตะสองวินาทีธรรมดาๆ ยกเว้นที่ไม่ธรรมดาคือเธอยังโดนความเสียหายเวทย์และป้อมปราการได้ตามปกติ ดังนั้นมันเลยเป็นท่ากดในการป้องกันตัวจากตัวล้วงหรือเหล่าแครี่ด้วยกันยามเทรดเสียมากกว่า ทั้งนี้เพื่อนๆ ต้องสังเกตุว่าอีกฝ่ายเป็นชิกิกามิที่โจมตีด้วยอะไรอีกด้วย เพราะบางตัวก็ใช้สกิลเป็นเวทย์มากกว่ากายภาพทั้งๆ ที่หน้าตาเป็นตัวเบ่งกล้ามเอาแรงเข้าว่าแท้ๆ Dependence นั้นเมื่อมีเพื่อนร่วมทีมอยู่ใกล้พอที่จะได้รับผลนั้น จะมีเส้นออร่าสีเหลืองเชื่อมกันทั้งสองคนปรากฎให้เห็น (ได้รับผลพาสซีพ) และในระหว่างที่มีเส้นเชื่อมนี้ จะสามารถกดสกิลนี้เพื่อพุ่งไปหาเพื่อนได้ พร้อมเพื่อความเร็วการเคลื่อนที่ให้กับทั้งคู่ ทำให้ท่านี้เป็นท่าที่อาศัยตำแหน่งเพื่อนร่วมทีม ที่อยู่ด้วยในเวลานั้นเป็นอย่างมากในการแสดงความสามารถออกมาได้เต็มที่ ตัวสกิล Dependence นั้นสามารถใช้ข้ามกำแพงหรือสิ่งกีดขวางได้ ด้วยเหตุนี้ทำให้เธอเล่นหรืออยู่ในตำแหน่งยืนบู๊ที่แปลกๆ ได้มากกว่าคนอื่น ขออย่างเดียวเพื่อนอย่าเผ่นจนสายขาดก่อนก็พอ ไม้ตายของเธอค่อนข้างเรียบง่าย มันเป็นการระดมสุ่มทิ้งระเบิดในพื้นที่กว้างมากๆ สามครั้ง ซึ่งแน่นอนว่าในเมื่อเป็นการสุ่มทำให้มันหวังผลมากไม่ได้ แต่ก็มีข้อดีที่มีระยะเวลาที่ค่อนข้างนานและทำให้ติด Slow ทำให้มันใช้ได้ในทั้งด้านการเทรดกับอีกฝ่าย การก่อกวนทีมไฟท์ หรือกั้นทางหลบของอีกฝ่ายได้ดี แต่ถ้าจะหวังพึ่งความเสียหายที่อลังการ คงต้องข้ามไปก่อน   ไอเทมแนะนำสำหรับ Komatsu -อ่านข้อมูล Item ทั้งหมดภายในเกม- Spell แนะนำ รูป Spell ชื่อ Spell ความสามารถ คูลดาวน์ (วินาที) Flash วาร์ปเป็นระยะทางสั้นๆ สามารถข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้ 120 Heal ฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองทันที 125 (+25 ต่อเลเวล)หน่วย และทำให้ได้รับความเสียหายลดลง 15% เป็นเวลา 3 วินาทีด้วย 90 Barrier สร้างโล่ป้องกันความเสียหาย 125 (+25 ต่อเลเวล) หน่วยเป็นเวลา 3 วินาทีให้กับตัวเองและชิกิกามิร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆ ผลของโล่จะลดลงครึ่งหนึ่งหากได้รับ Barrier จากคนอื่นภายใน 15 วินาทีหลังจากที่มีผล 90   Flash จะทำให้เธอมีความคล่องตัวที่สูงขึ้นมากโดยไม่ต้องพึ่งพาเพื่อนร่วมทีมโดยตรง ส่วน Heal นั้นค่อนข้างเป็นมาตราฐานที่เราสามารถนำมาใช้เอาตัวรอดได้ และในขณะเดียวกัน Barrier เป็นอีกตัวเลือกที่เข้ากับเธอมาก จากการที่ต้องอยู่กับเพื่อนจึงจะแสดงพลังได้เต็มที่ การช่วยให้รอดได้ทั้งคู่จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว -อ่านข้อมูล Spell ทั้งหมดภายในเกม- Onmyodo แนะนำ ASPD ความเร็วการโจมตี +7.5% HP Steal ดูดเลือด(การโจมตีธรรมดา) +1.6% ArPen การเจาะเกราะ +4.2 Star Coin เมื่อกำจัดครีปในเลนได้ จะได้รับทองเพิ่ม 10~15% (เมื่อครบ 600 ทององเมียวโดะนี้จะหยุดทำงาน) Occult: Panther Mual การโจมตีปกติ หรือใช้สกิลต่างกันจะทำให้เป้าหมายติดตรา Panther เมื่อมีตรา 2 ดวง การโจมตีปกติครั้งต่อไปของผู้ใช้ จะสร้างความเสียหายเวทย์ (+25% Bonus AD)(+10% AP)(+2% จากพลังชีวิตสูงสุดของศัตรู)(+8 ต่อเลเวล) เพิ่มเติม คูลดาวน์ 18...

เนื้อเรื่องได้ดำเนินมาอย่างเข้มข้นจนมาถึงบทที่ 7 กันแล้วกับภารกิจการช่วยเหลือ kiana ที่ถูกจับตัวไปสามารถเข้าเล่นและรับชม CG เนื้อเรื่องได้แล้วตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมานั้นเอง และด่านใหม่ในระดับปกติจะมีทั้งหมด 6 ด่านด้วยกันในแต่ละด่านจะเจออะไรบ้างมาชมกัน ด่านที่ 1 เราจะได้บังคับยานลำใหญ่ที่มีเกราะป้องกันอยู่และจะมีปุ้มในวงกลมสีแดงจะสามารถเปลี่ยนสีของเกราะเป็นสีขาวและสีดำได้เอาไว้ใช้ในการหลบกระสุนของศัตรูที่ยิงเข้ามาหากสลับผิดสีกระสุนจะทะลุผ่านเกราะทำดาเมจใส่ยานทำให้เสียเลือดทันทีกำจัดศัตรูให้หมดและหลบกระสุนสีให้ดีๆ ก็จะผ่านด่านได้ไม่ยาก ด่านที่ 2 เราจะได้บังคับยานลำเดิมแต่ในครั้งนี้จะต้องสลับสีเกราะเพื่อคอยผ่านเส้นเลเซอร์ที่มุ่งหน้าเข้ามาใส่ตัวยานของเราเมื่อหลบผ่านจนหมดในตอนสุดท้ายจะมีฮงไกบินพุ่งเข้ามาหาเราให้หลบไปมุมสุดของจอแล้วขยับขึ้นลงไปมารอให้ศัตรูระเบิดตัวเองตายก็จะผ่านด่าน คลิปการหลบเส้นเลเซอร์ ( คลิปอาจจะมีกระตุกบ้างเล็กน้อยจากการอัด ) https://www.youtube.com/watch?v=WM-XpI1Uhag&feature=youtu.be ด่านที่ 3 ด่านจะบังคับให้ใช้แค่เพียง Murata Himeko : Scarlet Fusion เพื่อจัดการกับศัตรูประเภทฮงไกเพื่อไม่ให้เข้าไปยังจุดได้ครบ 5 ครั้ง ไม่งั้นเควสจะล้มเหลวทันทีแต่การโจมตีของเธอจะฟื้นฟูเกจ SP ได้อย่างรวดเร็วทำให้สามารถใช้ท่าไม้ตายเพื่อกำจัดศัตรูที่โผล่ออกมาเรื่อยๆ เป็นเวฟๆ เมือ่มีเงามังกรีขาวปรากฏก็จะจบด่านทันที ด่านที่ 4 ด่านนี้จะบังคับให้ใช้ Murata Himeko : Scarlet Fusion เหมือนเดิมเพื่อต่อสู้กับมังกรยักษ์เพียงลำพัง! แนะนำให้หยิบเพื่อนอย่าง Raiden Mei : Lightning Empress เอา SP 50 จากสกิลหัวหน้าธีมเพื่อจะได้สามารถกดท่าไม้ตายได้เร็วยิ่งขึ้น เมื่อสู้ไปได้สักพักจะมีสกิลเสริมเป้นลำแสงจากปืนใหญ่มาช่วยโจมตีใส่มังกรทำให้เกราะลดไปได้ระดับนึงแต่มีเวลาคูลดาวน์ที่ค่อนข้างนาน ยิ่งเลือดบอสลดไปมากเท่าไหร่ความโหดก็จะเพิ่มมากขึ้นหากเลือดเหลือหลอดกว่าๆ บอสจะเริ่มโกรธและเปลี่ยนสีตัวบางส่วนจากสีฟ้ากลายเป็นสีม่วงและจะยิ่งสกิลมากขึ้น สกิลส่วนใหญ่ของมังกรจะเป็นการโจมตีด้วยน้ำแข็งและสายฟ้าเมื่อเลือดเริ่มลดไปพอสมควร ท่าที่ควรระวังก็คือพายุน้ำแข็งบอสจะเงยหัวขึ้นฟ้าและคำราม 1 ครั้งหากเห็นทันให้รีบวิ่งหนีออกมาให้ไกลที่สุดเพราะระยะการดูดของพายุค่อนข้างเยอะหากโดนเข้าไปจะถูกแช่แข็งและโดนดาเมจค่อนข้างถี่ก่อนจะดิ่งลงมาบนพื้นเป็นดาเมจสุดท้าย ด่านที่ 5 หลังจากที่กำจัดมังกรได้สำเร็จพวกฝูงฮงไกจะโผล่ออกมาจะต้องต่อสู้เพื่ออยู่รอดให้ได้จนหมดเวลาก็จะผ่านด่าน ด่านที่ 6 เราจะได้บังคับเป็นหุ่นไททันสีขาวและจะมาพร้อมกับสกิลยิงจรวจทำลายล้างตามวงกลมสีแดงในภาพแค่รอเวลาให้กดใช้และคอยรอคูลดาวน์สกิลใหม่ เมื่อฝูงใหม่ปรากฏขึ้นมาก็กดใช้ต่ออีกครั้งไม่ว่าศัตรูจะอยู่ที่ไหนของแผนที่จรวดก็สามารถโจมตีโดนทุกดอก จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH

Higanbana เมจสาวผู้ใช้ดอกไม้แห่ง Onmyoji Arena เธอเป็นเมจคนแรกที่มาพร้อมกับสกิลที่ทำให้เป้าหมายติด Charm ได้ และยังฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองระหว่างโจมตีไปพร้อมกันได้ ในด้านความเสียหายที่เธอทำได้นั้นจะไม่ค่อยรุนแรงเท่าเมจสาย Burst คนอื่นๆ แต่ไปในทาง Harass ได้เรื่อยๆ เสียมากกว่า ตำแหน่ง : Mage ความชำนาญ : Burst / Control ความยาก : 2 (Easy) DPS : A Agile : B Buff : D Survive : C Control : B   Skill ภาพ ชื่อสกิล ชนิด ความสามารถ Zephyr Natural Passive การใช้สกิลโดนเป้าหมายจะทำให้เป้าหมายติดแต้ม Fiery Poison ซึ่งสร้างความเสียหายเวทย์ 3 (+0 ต่อเลเวล) ต่อวินาทีเป็นเวลา 3 วินาที ซ้อนทับได้ 3 ครั้ง Soil Protection Passive Cooldown : 9/8.5/8/7.5/7 เมื่อสกิลของเธอโจมตีโดนเป้าหมาย เธอจะฟื้นฟูพลังชีวิต 60/120/180/240/300 (+50% AP) หน่วย Deadly Blooms Active Cooldown : 8/7.5/7/6.5/6 MP Cost : 50/60/70/80/90 ส่งดอกไม้สองดอกโจมตีไปยังด้านหน้าของเธอ สร้างความเสียหายเวทย์ 130/195/260/325/390 (+60% AP) ใส่ศัตรูทั้งหมดในเส้นทาง Flower Charm Active Cooldown : 12/11.5/11/10.5/10 MP Cost : 40/50/60/70/80 ปล่อยดอกไม้ขนาดใหญ่พุ่งไปยังทิศที่กำหนดไว้ สร้างความเสียหายเวทย์ 110/170/230/290/350 (+55% AP) ใส่ศัตรูทั้งหมดในเส้นทาง ชิกิกามิศัตรูที่โดนดอกไม้นี้จะติดสถานะ Charm 1.1/1.1/1.2/1.2/1.3 วินาทีด้วย ดอกไม้นี้เมื่อไปสุดทางจะบานออกชั่วขณะ Blood-soaked Flowers Ultimate Cooldown : 50/45/40 MP Cost : 100 สั่งให้ดอกไม้บานในพื้นที่ที่กำหนด สร้างความเสียหายเวทย์ทันที 200/300/400 (+50% AP) หน่วยให้กับศัตรูทั้งหมดในขอบเขตนั้น จากนั้นดอกไม้จะค่อยๆ บานเป็นวงกว้างขึ้นเป็นเวลา 4 วินาที ศัตรูที่อยู่ในวงนี้จะติด Slow 20% พร้อมกับได้รับความเสียหายเวทย์เพิ่มเติม 120/180/240 (+30% AP) ทุกๆ วินาที   แนวทางอัพสกิล แนวทางการเล่น Higanbana ตัวเธอเป็นเมจที่แม้จะเขียนว่าสาย Burst ก็จริง แต่โดยรวมแล้วในตอนที่ยังไม่มีไม้ตายนั้น เธอจะเหมาะในการ Harass ศัตรูมากกว่า ด้วยพาสซีพ Soil Protection ทำให้เธอยืนในเลนได้โดยไม่ต้องกังวลว่าเลือดจะน้อยจนเสี่ยงโดนเสยคาป้อมหรือเปล่ามากนัก แต่ก็อย่าฝืนแลกกับอีกฝ่ายจนฟื้นเลือดไม่ทันจะดีกว่า ยังไงซะสกิลอื่นๆ ของเธอก็มีคูลดาวน์ที่นานไม่แพ้พาสซีพนี้ของเธอเลย Deadly Blooms จะยิงดอกไม้ออกไปสองดอกก็จริง แต่เป็นแค่ผลทางด้านกราฟฟิคเท่านั้น การโดนดอกไม้สองดอกพร้อมกันไม่ได้ทำให้ท่านี้แรงขึ้นแต่อย่างใด ให้คิดว่าเป็นท่ายิงเป็นเส้นตรงธรรมดาจะดีกว่า ใช้ Deadly Blooms ในการ Harass ศัตรูหรือยิงกวาดครีปไปในตัว โดยแรกๆ ให้กะจังหวะให้เข้ากับพาสซีพจะช่วยให้จังหวะ Harass ของเราปลอดภัยขึ้นเพราะฟื้นฟูพลังชีวิตให้ตัวเองได้ด้วย Flower Charm เป็นท่าป่วนที่ดีมาก ศัตรูที่โดนจะติด Charm เดินเข้ามาหาเราเล็กน้อยก่อนจะเดินหนี และมันยังโดนศัตรูได้ทั้งแนวอีกด้วย ทำให้มันเป็นท่าที่ใช้ทั้งในการปะทะเดี่ยวหรือทีมไฟท์ได้ดีเป็นอย่างมาก ใช้ Flower Charm ในการจับเป้าหมายไม่ให้หนี หรือถ่วงเวลา ใช้คู่กับไม้ตายได้ดี แต่อาจจะไม่คุ้มค่ามากนักในการใช้กับ Deadly Blooms โดยเฉพาะตอนที่เรารุกเข้าไปในพื้นที่ศัตรู เนื่องจากเธอไม่มีท่าหนีโดยตรง การเก็บสกิลนี้ไว้เผื่อป่าอีกฝ่ายโดดมากินตับจะช่วยถ่วงเวลาได้มาก ไม้ตายของเธอหวังผลในการสร้างความเสียหายได้ดี ด้วยผลสโลว์ที่แม้ไม่มาก แต่ถ้าโดนตรงกลางก็เรียกว่ายากที่จะหนีได้ทันก่อนจะหมดเวลา การโยนไปในทีมไฟท์ก็เป็นอะไรที่สร้างความบรรเทิงได้ไม่น้อย ซึ่งหากต้องการให้ได้ผลสูงสุดนั้น ก็สามารถใช้ร่วมกับ Flower Charm ช่วยซื้อเวลาให้อีกฝ่ายยืนในพื้นที่ได้นานขึ้นก็ได้ เนื่องจากตัวเธอเป็นเมจสายยิงกวาดยกแผง ทำให้ค่า AP Ratio ของเธอต่ำกว่าคนอื่นๆ ดังนั้นเมื่อเกมยื้อ เธอจะแลกกับตัวซามูไร แทงค์ หรือเมจที่เน้นความเสียหายโดยตรงได้ไม่ดีนัก ให้เน้นการจับคู่, ปะทะทีมไฟท์ หรือฉวยโอกาสเล่นงานตัวบางๆ จะดีที่สุด   ไอเทมแนะนำสำหรับ Higanbana -อ่านข้อมูล Item ทั้งหมดภายในเกม- Spell แนะนำ รูป Spell ชื่อ Spell ความสามารถ คูลดาวน์ (วินาที) Flash วาร์ปเป็นระยะทางสั้นๆ สามารถข้ามสิ่งกีดขวางต่างๆ ได้ 120 Heal ฟื้นฟูพลังชีวิตของตัวเองทันที 125 (+25 ต่อเลเวล)หน่วย และทำให้ได้รับความเสียหายลดลง 15% เป็นเวลา 3 วินาทีด้วย 90 Barrier สร้างโล่ป้องกันความเสียหาย 125 (+25 ต่อเลเวล) หน่วยเป็นเวลา 3 วินาทีให้กับตัวเองและชิกิกามิร่วมทีมที่อยู่ใกล้ๆ ผลของโล่จะลดลงครึ่งหนึ่งหากได้รับ Barrier จากคนอื่นภายใน 15 วินาทีหลังจากที่มีผล 90   ด้วยความที่ท่าหนีเป็นศูนย์ ทำให้เธอจะเป็นต้องมี Flash ในการเอาตัวรอดเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แม้เธอจะฮีลได้ แต่บางครั้งฮีลมันก็ไม่ทันใจ การจะแบก Heal หรือ Barrier ไปช่วยจึงไม่เป็นเรื่องที่น่าเสียหายแต่อย่างใดนัก โดยการใช้งานนั้น Heal จะใช้เพื่อฟื้นเลือดและรับเท้าส่วนที่เหลือ ส่วน Barrier จะต้องกดก่อนจะโดนอะไรหนักเข้ามาจึงจะเห็นผล -อ่านข้อมูล Spell ทั้งหมดภายในเกม- Onmyodo แนะนำ AP พลังเวทย์ +8.1 Extract ดูดเลือด(สกิล) +3.5% MPen การเจาะเกราะเวทย์ +4 Witch's Prayer ลดค่าคูลดาวน์ของ Spell ลง...