ยังคงอยู่กับโหมดหอคอยแห่งความสิ้นหวัง 2 ของเกม Honkai Impact 3 กัปตันหลายๆ คนน่าจะสามารถผ่านในช่วง 5 ชั้นแรกได้อย่างสบายๆ แต่หลังจากนี้สำหรับผู้เล่นใหม่อาจจะเริ่มกำจัดศัตรูได้ช้าลงแต่ก็ยังไม่ช้ามาก ส่วนสำหรับผู้เล่นเก่าบางส่วนก็น่าจะสามารถผ่านได้ไม่ยากนัก ซึ่งในรอบนี้จะพูดถึงชั้นที่ 6 ถึงชั้น 10 ว่าจะต้องเจอกับศัตรูแบบไหนบ้าง!
หอคอยแห่งความสิ้นหวัง
มีให้เล่นได้ทั้งหมด 20 ชั้น โดยในแต่ละวันจะลงได้สูงสุด 5 ครั้งเท่านั้นและในด่านจะมีการ์ดสุ่มความสามารถพิเศษออกมาช่วยเราในการผ่านแต่ละด่าน ซึ่งชั้นปกติจะมีให้เลือก 2 ใบ ส่วนในชั้นที่เป็นบอสจะมีสุ่มมาให้เลือกทั้งหมด 3 ใบ แต่ทุกด่านเราจะเลือกได้แค่ใบเดียวเท่านั้น มาดูกันว่าในแต่ละชั้นจะต้องเจอกับศัตรูแบบไหนบ้างและการ์ดที่ควรเลือกในชั้นนั้นๆ เป็นใบไหนดี
ในแต่ละชั้นจะมีเวลาในการลงจำกัดแต่จะไม่เท่ากันทั้งหมดขึ้นอยู่กับศัตรูและจำนวนเวฟของชั้น สำหรับผู้เล่นเก่าน่าจะสามารถผ่านในแต่ละชั้นได้สบายๆ (อาจจะมียากบ้างในช่วงชั้น 15 ขึ้นไป) ส่วนสำหรับผู้เล่นใหม่ที่มาลองเล่นในเวลากิจกรรมช่วงชั้นแรกยังพอสามารถผ่านกันได้แบบไม่ต้องวนลงซ้ำเพื่อเก็บเอฟเฟกต์ต่อสู้ก่อนเยอะ หลังจากชั้น 10 ขึ้นไปอาจจะถือว่ายากพอสมควรแม้ว่าตัวการ์ดบัพจะมีส่วนช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่หากยังไม่สามารถลงผ่านได้ให้เน้นลงด่านเดิมซ้ำไปก่อนเพื่อเก็บเลเวลเอฟเฟกต์ต่อสู้ให้สูงขึ้นแทนแล้วลงใหม่อีกครั้ง
ชั้นที่ 6
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 6 คอมโบพิฆาต และ เสียงระเบิดหลังความตาย]
ศัตรูมีทั้งหมด 3 เวฟ ในทุกเวฟจะเจอเดธลี่และปีศาจฮงไก สำหรับด่านนี้แนะนำบัพเอฟเฟคเสียงระเบิดหลังความตาย ทุกครั้งที่ศัตรูตายจะระเบิดใส่ตัวรอบข้างยิ่งแต่ละตัวเลือดเหลือน้อยแล้วโดนฆ่าจะระเบิดต่อกันเป็นทอดๆ ช่วยประหยัดเวลาของเราไปได้เยอะมากๆ เหมาะสำหรับทั้งผู้เล่นใหม่และผู้เล่นเก่าอย่างยิ่ง
ชั้นที่ 7
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 7 หยุดเวลาเพิ่มความเสียหาย และ สลับตัวเพิ่มความเสียหาย]
ภายในด่านจะเจอศัตรูหลายแบบทั้งปีศาจฮงไกธรรมดาและสีฟ้า เดธลี่โลงศพสีฟ้ากับเดธลี่ดาบคู่ บัพเอฟเฟคสำหรับคนเล่นสาย QTE มีเอฟเฟกต์หยุดเวลาสามารถเลือกได้ทั้งสองใบ แต่สำหรับผู้เล่นทั่วไปแนะนำให้ใช้ดาเมจสองคนพร้อมบัพสลับตัวเพิ่มความเสียหายก็ไม่เลวเพราะเมื่อเริ่มมาจะได้รับบัพโจมตีคงอยู่ 10 วินาที แล้วเน้นสลับตัวดาเมจสองคนไปมาเพื่อรับบัพจากการ์ดอยู่เรื่อยๆ ก็จะสามารถผ่านได้ไม่ยากนัก
ชั้นที่ 8
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 8 ได้รับ SP เริ่มต้น และ ฟ้าพิโรธ]
ศัตรูในด่านนี้จะมีเพียง 2 เวฟ เวฟละ 1 ตัวเท่านั้นเป็นเดธลี่ดาบคู่และปีศาจฮงไก Legatus แต่ศัตรูทั้งสองตัวจะมีบัพกายาเหล็กอยู่ทำให้ตีเข้าได้ยากขึ้น แนะนำให้เลือกบัพเอฟเฟคฟ้าพิโรธ เมื่อเราโจมตีได้สักระยะจะมีฟ้าผ่าลงมาโจมตีศัตรูสร้างดาเมจธาตุไฟฟ้า 2000% ตามค่าพลังโจมตีของตัวละคร (มีระยะเวลาคูลดาวน์ 10 วิ) จะช่วยสร้างดาเมจเพิ่มเติมทำให้เราผ่านด่านได้ง่ายขึ้น
ชั้นที่ 9
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 9 หลุมดำมฤตยู และ เพิ่มความเสียหาย]
สำหรับชั้น 9 จะเจอศัตรูหลายแบบโดยจะมีปีศาจฮงไก, ปีศาจฮงไกสีฟ้า และเดธลี่ โดยบัพเอฟเฟคที่แนะนำให้เลือกคือเพิ่มความเสียหาย หลังจากผ่านไป 10 วิจะได้รับบัพดาเมจเพิ่มขึ้นเป็นตัวใช้ได้ในทุกด่านถือว่าดีมากๆ แถมบัพโจมตีจะอยู่จนกว่าจะฆ่าหมดหรือหมดเวลาด่านเลยทีเดียว
ชั้นที่ 10
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 10 เสริมพลังแกร่ง, เร่งสะสมไฟ และ สกิลติดไฟ]
บอสชั้น 10 จะเจอกับ Rita ร่าง Argent Knight: Artemis สำหรับบัพเอฟเฟคในด่านนี้แนะนำให้เลือกสกิลติดไฟทำให้หลอดไฟบนหัวของเธอเต็มอย่างรวดเร็วพร้อมเกิดการชะงักโดนดาเมจแรงขึ้นอย่างมาก ถ้าสามารถทำให้ลอยอยู่บนอากาศได้นานๆ จะลดเลือดได้เร็วและไม่โดนโจมตีบ่อยๆ อีกด้วย (สำหรับผู้เล่นใหม่หากลงไม่ผ่านเน้นลงด่านก่อนหน้าซ้ำให้เอฟเฟคการต่อสู้เพิ่มขึ้นก่อนแล้วลุยใหม่อีกครั้ง)
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH [-กลุ่มคนไทย-]