โหมดหอคอยแห่งความสิ้นหวัง 2 ของเกม Honkai Impact 3 เป็นด่านที่จำเป็นต้องเล่นทุกวันเพราะสามารถเล่นได้เพียงวันละ 5 ครั้งเท่านั้น ในรอบนี้สำหรับผู้เล่นใหม่ถือว่าเริ่มผ่านได้ยากมากจำเป็นต้องลงเล่นด่านเก่าซ้ำก่อนแล้วค่อยลองเล่นในด่านชั้นต่อไปใหม่อีกครั้ง ส่วนผู้เล่นเก่าบางคนก็ยังสามารถผ่านได้อยู่เช่นเคย ในรอบนี้จะพูดถึงชั้น 11 ถึงชั้น 15 ว่าจะต้องเจอกับศัตรูแบบไหนบ้าง!
หอคอยแห่งความสิ้นหวัง
มีให้เล่นได้ทั้งหมด 20 ชั้น โดยในแต่ละวันจะลงได้สูงสุด 5 ครั้งเท่านั้นและในด่านจะมีการ์ดสุ่มความสามารถพิเศษออกมาช่วยเราในการผ่านแต่ละด่าน ซึ่งชั้นปกติจะมีให้เลือก 2 ใบ ส่วนในชั้นที่เป็นบอสจะมีสุ่มมาให้เลือกทั้งหมด 3 ใบ แต่ทุกด่านเราจะเลือกได้แค่ใบเดียวเท่านั้น มาดูกันว่าในแต่ละชั้นจะต้องเจอกับศัตรูแบบไหนบ้างและการ์ดที่ควรเลือกในชั้นนั้นๆ เป็นใบไหนดี
ในแต่ละชั้นจะมีเวลาในการลงจำกัดแต่จะไม่เท่ากันทั้งหมดขึ้นอยู่กับศัตรูและจำนวนเวฟของชั้น สำหรับผู้เล่นเก่าน่าจะสามารถผ่านในแต่ละชั้นได้สบายๆ (อาจจะมียากบ้างในช่วงชั้น 15 ขึ้นไป) ส่วนสำหรับผู้เล่นใหม่ที่มาลองเล่นในเวลากิจกรรมช่วงชั้นแรกยังพอสามารถผ่านกันได้แบบไม่ต้องวนลงซ้ำเพื่อเก็บเอฟเฟกต์ต่อสู้ก่อนเยอะ หลังจากชั้น 10 ขึ้นไปอาจจะถือว่ายากพอสมควรแม้ว่าตัวการ์ดบัพจะมีส่วนช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่หากยังไม่สามารถลงผ่านได้ให้เน้นลงด่านเดิมซ้ำไปก่อนเพื่อเก็บเลเวลเอฟเฟกต์ต่อสู้ให้สูงขึ้นแทนแล้วลงใหม่อีกครั้ง
ชั้นที่ 11
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 11 หลุมดำมฤตยู และ ปลดปล่อย QTE
ศัตรูในด่านทั้งหมดจะมีหลายชนิดตัวที่น่าปวดหัวสุดคงหนีไม่พ้นเดธลี่โลงศพสีฟ้าเพราะนอกจากจะชอบหลบไปมาแล้วยังคอยป่วนเราจากระยะไกลแถมยังถึกพอสมควรเลยทีเดียว แนะนำให้เลือกบัพเอฟเฟคปลดปล่อย QTE เน้นใช้ QTE วนสร้างดาเมจไปเรื่อยๆ จะทำให้การผ่านด่านเป็นเรื่องงานไปเลย
ชั้นที่ 12
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 12 ติดตราอ่อนแอ และ ฟ้าพิโรธ]
ชั้น 12 จะเจอศัตรูเป็นพวกเดธลี่ทั้งหมด 3 เวฟ สามารถเลือกใช้บัพเอฟเฟคได้ทั้งสองใบตามความถนัดของแต่ละคน หากเน้นดาเมจหนักๆ เก็บเรียงทีละตัวให้เลือกติดตราอ่อนแอ แต่หากดาเมจไม่เยอะมากเน้นจัดการพร้อมกันหลายๆ ตัวให้เลือกฟ้าพิโรธเพื่อใช้ในการผ่านด่านนี้ไป
ชั้นที่ 13
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 13 ยุทธศาสตร์ประชิด และ หยุดเวลาเพิ่มความเสียหาย]
ศัตรูแต่ละเวฟจะมีบัพกายาเหล็กทำให้การโจมตีเข้าได้เบาลงหากใครใช่วาลคิเรียโจมตีระยะประชิดแนะนำให้หยิบยุทธศาสตร์ประชิดเพราะตัวละครตีระยะใกล้จะได้บัพโจมตีเพิ่มขึ้น 40% เลยทีเดียว ทำให้สามารถกำจัดศัตรูได้รวดเร็วแถมยังได้บัพลดความเสียหายที่ได้รับถึง 50% วาลคิเรียควรหยิบประเภทชีวภาพกับจักรกลไปเพราะศัตรูเวฟแรกจะเป็นเดธลี่ดาบคู่และเวฟบอสเป็นปีศาจฮงไกจะช่วยรับมือได้ดี
ชั้นที่ 14
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 14 คอมโบพิฆาต และ ฟ้าพิโรธ]
ฉากสำหรับด่านนี้จะค่อนข้างกว้างแถมศัตรูที่เจอยังอยู่แบบกระจายตัวมีทั้งปีศาจควอนตัมบินเป็นศัตรูหนีเก่งอันดับต้นเลยก็ว่าได้ พวกเดธลี่และปีศาจควอนตัมตัวอื่นๆ ในด่านนี้เองก็จัดว่าสายหนีเพื่อทำให้เวลาเราหายไป จึงแนะนำให้เลือกคอมโบพิฆาต หลังจากโจมตีเกิน 30 ฮิตแล้วจะสร้างหลุมดำดูดให้มารวมกันจะทำให้เราเก็บในแต่ละเวฟได้ขึ้นเยอะมากไม่ต้องคอยปวดหัวว่าจะหนีไปไกลอีกต่ไป!
ชั้นที่ 15
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 15 เสริมพลังแกร่ง, สกิลยุบตัว และ ยุบตัวเพิ่มความเสียหาย]
บอสชั้น 15 เป็นบอสควอนตัมที่สามารถแปลงร่างเป็นรูปแบบอื่นๆ ได้ หากใครไม่ได้ปั้นวาลคิเรียประเภทควอนตัมเอาไว้หรือยังไม่มีแนะนำให้เลือกบัพเอฟเฟคสกิลยุบตัวมันจะทำให้ศัตรูเกราะของประเภทควอนตัมทั้งหมดหายไปทันที 1 ช่อง ซึ่งพวกลูกน้องจะมีเกราะเพียง 1 ช่องเท่านั้น ส่วนตัวบอสจะมีทั้งหมดสองช่อง อีก 1 ช่องให้ดูจังหวะของร่างแปลงบอสแล้วหลบจังหวะใช้ท่าควอนตัมให้ได้จะได้บัพควอนตัมกลับมาโจมตีใส่จะลดเกราะได้ 1 ช่อง (ปีศาจคอวนตัมแต่ละแบบจะมีวิธีการโจมตีท่าควอนตัมไม่เหมือนกันให้สังเกตจากแสงสีแดงตอนบอสจะใช้ท่าอันนั้นคือท่าควอนตัม)
หลังจากบอสเกราะแตกครบสองช่องจะกลับเป็นลูกบอลสีขาวซีดให้เราตี และจะมีลูกนน้องออกมาคอยสมทบด้วยเน้นรอจังหวะที่ศัตรูมารวมกันเยอะๆ แล้วกดใช้สกิลพิดศษจากบัพเอฟเฟคที่เลือกมาจะทำให้เกราะหายไปทันที
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH [-กลุ่มคนไทย-]