เพื่อนๆ เคยสังเกตุมั้ยครับว่าเกมบางเกมกำลังพยายามจะส่งสารบางอย่างกับผู้เล่น อาจจะใส่มาในบางจุดที่เราอาจจะไม่ทันสังเกตุ แล้วเคยคิดมั้ยครับว่ามีเกมไหนบ้างที่ต้องการสื่อสารบางอย่างให้กับผู้เล่นจริงๆ วันนี้ผมจะมานำเสนอมุมมองจากเกม FPS แนว Open-World ที่มีแฟรนไชส์มาแล้วถึง 5 ภาคและกำลังจะมีภาค 6 เร็ว ๆ นี้
ในเกม Far Cry ทุกภาคจะนำเสนอความเป็น FPS, Action และ Open-World อย่างเด่นชัด แต่ถ้าจะพูดถึงภาคที่เรียกกระแสได้มากที่สุดก็คงไม่พ้น Far Cry 3 ที่ไม่ว่าจะเป็นกราฟิกหรือเนื้อเรื่องที่เรียกได้ว่าโดนใจคนไปทั้งโลก ซึ่งจุดเด่นของเกมไม่ใช่ตัวเอกหรือพวกพ้องตัวเอกแต่อย่างใดกลับเป็นตัวร้ายนั่นเอง แต่ว่าวันนี้ผมไม่ได้มาพูดถึงภาค 3 แต่จะมาพูดเกี่ยวกับตัวเนื้อเรื่องในภาค 4 และ 5 โดยตัวรูปแบบของเกมหลักเองอาจจะดูเหมือนไม่มีอะไรมากแต่จริงๆ แล้วผมเชื่อว่าตัวเกมกำลังพยายามจะสื่อสารบางอย่างกับเรา
มาเริ่มกันที่ Far Cry 4 ตัวเอกของเราหรือ Ajay Ghale ชายหนุ่มผู้ต้องการทำตามคำขอสุดท้ายของแม่ โดยการไปโปรยเถ้ากระดูกบนยอดเขาสูงสุดของ Kyrat ที่มีชื่อว่า Lashmana แต่ปรากฏว่า Pagan Min ได้มาดักจับตัวพระเอกของเราไปก่อน เพราะว่า Pegan รู้จักกับแม่ของ Ajay เป็นอย่างดี Pegan นั้นเคยทะเลาะกับพ่อของ Ajay ในเรื่องผู้หญิง ซึ่งผู้หญิงคนนั้นก็คือแม่ของ Ajay นั่นแหละ
โดยตัวเนื่้อเรื่องเมื่อเราถูก Pegan จับตัวไปนั้นเราก็จะได้พบกับ Sabal ที่เข้ามาช่วยเหลือเราตอนที่พยายามหลบหนีออกจากบ้านของ Pegan หลังจากนั้นเราก็จะถูกพาตัวไปยังหมู่บ้าน Golden Part ที่มี Amita และ Sabal เป็นหัวหน้าโดยพื้นฐานความคิดของ 2 คนนี้แตกต่างกันเป็นทุนเดิม ทางตัวของ Sabal มีความคิดแบบทหารกระทำการอะไรต้องชัดเจนจะต่อต้านก็ต้องเอาให้สุด กลับกันในทางของ Amita เราจะเห็นได้ว่าเธอคำนึงถึงคนในหมู่บ้านเป็นหลัก ในช่วงแรกเราจะได้รับเควสจากทั้งคู่ แต่เมื่อไปถึงจุดนึงเราจะเห็นได้ว่า Amita และ Sabal มีความเห็นที่ไม่ลงรอยกันและทะเลาะกันหนักมาก
ทำให้เกิดการแบ่งเป็น 2 ฝ่ายที่ต้องการจะมีอำนาจอยู่ในมือโดยจะใช้ Ajay คอยไปช่วยทำงานให้ซึ่งถ้าเราเลือกฝ่ายใดฝ่ายนึงจะถูกยกเลิกทันที จากที่เห็นทั้ง 2 ฝ่ายที่ดูเหมือนจะคุยกันด้วยเหตุผลก็จริงแต่ทั้ง 2 ฝ่ายกับเอาตัวเองเป็นหลักไม่สนใจความคิดฝ่ายตรงข้ามเอาแต่จะมองว่าตัวเองถูกที่สุดทำให้สุดท้ายแล้วเราต้องเลือกว่าเราจะเอาใครไว้หรือไม่เอาใครเลย
สุดท้ายแล้วเราก็จำเป็นที่จะต้องเลือกฝ่ายใดฝ่ายนึงไม่มีความเป็นกลางอย่างแท้จริง ซึ่งตอนแรกเริ่มจากแค่เถียงกันต่างคนต่างใช้อีโก้และความคิดของตัวเองเป็นหลักไม่เปิดใจรับความคิดของอีกฝ่ายแล้วก็ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ กลายเป็นศัตรูกันในท้ายที่สุด
ต่อมาใน Far Cry 5 เนื้อเรื่องมีอยู่ว่าเราเป็นตำรวจหน้าใหม่เข้ามาทีแรกก็ถูกพาไปจำกุมตัวหลวงพ่อ Joseph Seed เจ้าแห่งลัทธินี้ โดยเราจะเลือกจับหรือไม่จับก็ได้ถ้าเลือกไม่จับทุกอย่างจะจบภายใน 5 นาที แต่ถ้าเลือกจับเกมก็จะเริ่มขึ้น แต่เดิมคนกลุ่มนี้เป็นเพียงแค่กลุ่มเล็กๆ ไม่มีพิษภัยแต่ในตอนหลังชาวบ้านก็เห็นว่าภายในกลุ่มเริ่มมีการติดอาวุธและเริ่มสุมกำลังพลขึ้นเรื่อยๆ แต่รัฐบาลกลับไม่สนใจเรื่องนี้แม้แต่น้อย
เราจะเห็นได้ว่าเกมจะเน้นไปในเรื่องของความเชื่อซึ่งจริงๆ แล้วใครจะเชื่อก็ได้ไม่เชื่อก็ได้แต่เมื่อมีการเชื่อตามกันไปอย่างไม่ได้คิดและไตร่ตรองทำให้เกิดเป็นลัทธิที่เชื่อกันอย่างไม่ลืมหูลืมตาและได้แต่เพียงทำตามที่ผู้นำสั่ง ซึ่งจากเดิมก็ไม่ได้มีความรุนแรงมากแต่เมื่อเริ่มมีคนต่อต้านเหล่าสาวกที่เชื่อนั้นก็เริ่มได้มีการทะเลาะเบาะแว้กันจนนำมาสู่ความรุนแรงซึ่งทั้งหมดจะไม่เกิดขึ้นเลยถ้าคนเรารู้จักคิดและตีความให้มากขึ้นว่าเราควรจะเชื่อดีมั้ย
ในส่วนของตัวภาค 6 ที่กำลังจะมาถึงนั้นผมคาดว่าจะเกี่ยวกับเรื่องของการเมืองและความรุนแรงในสังคมพอสมควรหลังจากที่ได้ดูตัวตัวอย่างเกมมาส่วนกราฟิกนี้คงไม่ต้องพูดถึงมากเพราะตัวเกมจากภาคที่ผ่านๆมาเราเห็นได้ชัดพอสมควรว่าคุณภาพนั้นดีขึ้นมาเรื่อยๆตามลำดับเป็นปกติของเกมนี้
โดยทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นเกิดจากการตีความของผมซึ่งถ้ามีข้อผิดพลาดอะไรต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยส่วนเพื่อนๆมีความคิดเห็อย่างไรก็สามารถคอมเม้นต์ได้ที่ข้างล่างนี้เลย และถ้าใครไม่อยากพลาดข่าวสารใหม่ๆสามารถติดตามได้ที่ >> Playpost <<