สวัสดีครับตอนนี้เชื่อว่าเพื่อนๆ หลายคนคงได้ดูหนังเรื่อง Ready Player One กันมาบ้างแล้ว ซึ่งต้องบอกว่าเป็นหนังที่สนุกมากเลยจริงๆ ทำเอาผมกลับไปอ่านนิยายใหม่อีกรอบเลยล่ะครับ โดยหลังจากที่ผมกลับไปอ่านนิยายแล้วก็พบว่ามีจุดใหญ่ๆ หลายจุดของเรื่องที่แตกต่างจากในหนังอยู่มาก ซึ่งจะมาเทียบจุดใหญ่ๆ ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันนะครับจะได้อินกับเรื่องมากยิ่งขึ้น
รวมจุดที่แตกต่างกันจากในหนังและนิยาย (ไม่ทุกจุดนะ)
ความสัมพันธ์ของเวดกับคุณป้า : แม้ว่าภายในฉบับหนังโรงตัวเวดนั้นแลดูห่วงใยคุณป้าที่เป็นคนชุบเลี้ยงอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ของเค้ากับพ่อเลี้ยงจะไม่ดีเหมือนกันก็ตาม แต่แลดูในฉบับภาพยนต์แล้วคุณป้าของเวดแลดูใจดีกว่าเยอะ ซึ่งในนิยายนั้นมาถึงแค่ตอนต้นเรื่องป้าอลิซ(ป้าของเวด) แกก็ยึดโน๊ตบุคของเวดเอาไปขายโดยเอาแฟนของแกมาข่มขู่เรียกได้ว่าร้ายตั้งแต่ต้นเรื่องเลยทีเดียวครับ
ที่อยู่ของตัวละคร : ภายในเรื่องนั้นตัวละครสำคัญหลายตัวโดยย้ายที่อยู่กันเป็นว่าเล่น ซึ่งถ้าตามฉบับนิยายแล้วแต่ละคนบ้านอยู่ห่างกันคนละทิศเลยครับไม่ว่าจะเป็นโชและไดโตะที่จริงๆ แล้วเป็นคนญี่ปุ่นทั้งคู่(อยู่ญี่ปุ่นเลยล่ะ) หรือ อาร์3มิส เองที่แต่เดิมแล้วบ้านก็ไม่ได้อยู่ใกล้พระเอกเลย แต่ภายในฉบับหนังโรงเข้าใจว่าคงไม่อยากให้มันวุ่นวายนั่นเองแต่ตัวละครที่สถานที่อยู่เหมือนเดิมเลยก็คือเอสและส่วนพระเอกของเรา โดยเวดอาศัยอยู่ในสลัมที่มีรถตู้วางซ้อนกันเป็นที่อยู่ ส่วนเอสอาศัยอยู่ในรถบ้าน
เอส : ในฉบับของหนังโรงนั้นเอสใช้อาวาตาร์เป็นหุ่นยนต์ตัวล่ำบึ้กส่วนตัวจริงก็เป็นหญิงสาวผิวสี ตรงส่วนนี้คล้ายกับในฉบับนิยายครับ แต่จะมีจุดที่แตกต่างคือถ้าในฉบับนิยายเอสจะใช้อวาตาร์เป็นหนุ่มผิวขาว ส่วนในชีวิตจริงเธอจะเป็นสาวผิวสีและใช้ชื่อปลอมในการสมัครเรียน โดยเหตุผลของเธอก็คือตัวคุณแม่อยากจะให้เธอมีชีวิตที่ดีกว่า และคิดว่าการใช้อวาตาร์เป็นคนผิวขาวนั้นจะทำให้ชีวิตของลูกสาวราบรื่นกว่าครับ โดยประเด็นนี้เรียกได้ว่ามีการแอบกัดค่านิยมการเหยียดผิวอยู่เบาๆ ซึ่งตัวหนังได้ตัดตรงนี้ทิ้งเพราะคงม่อยากจะเพิ่มประเด็นให้กับเรื่อง ส่วนตัวนิสัยของเอสนั้นในฉบับนิยายจะแลดูเป็นหนุ่มที่พึ่งพาได้และเป็นศูนย์รวมของเหล่ากันเตอร์ต่างๆ โดยเค้าได้เปิดห้องที่ให้เหล่ากันเตอร์ที่ได้รับอนุญาติเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ แต่ถึงแบบนั้นเอสก็เป็นคนที่ระวังตัวดีมากๆ และไม่เปิดเผยข้อมูลอะไรให้คู่แข่งได้ทราบเลยโดยไม่จำเป็น ทว่าในฉบับภาพยนต์เค้าจะไม่ได้เป็นเช่นนั้น ตัวเค้าในฉบับภาพยนต์แลดูจะเป็นตัวโจ๊กของเรื่องซะมากกว่า
ไดโซะและโช : ไดโซะและโชภายในฉบับหนังนั้นทั้งคู่จะเป็นเพื่อนที่สนิธกันมากและไม่ได้มีการกล่าวถึงความสัมพันธ์ของพวกเค้าเอาไว้ลึกซึ้งเท่าไหร่ โดยคนนึงเป็นหนุ่มเอเชียและอีกคนนึงเป็นเด็กน้อยอายุ 11 ที่เล่นเกมได้เก่งสุดๆ เรียกได้ว่าแตกต่างจากฉบับนิยายไปไกลทีเดียว สำหรับภายในฉบับนิยายตัวของโชและไดโซะจะเป็นพี่น้องร่วมสาบานกัน แต่ละคนไม่เคยเจอหน้ากันและได้พบกันในโครงการบำบัดเหล่าฮิคิโคโมริในญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อทั้งคู่ได้รู้จักกันและได้ทำอะไรร่วมกันก็เกิดความผูกพันธ์และเป็นพี่น้องร่วมสาบานกันในที่สุด โดยในภายหลังของเรื่ององค์กรณ์ที่เป็นคู่แค้นของพวกตัวเอกก็ได้ทำการสังหารไดโตะทิ้งโดยการโยนลงตึกและตายไปในที่สุด โดยก่อนตายไดโตะได้ฝากฝังอาวุธลับอย่างไอเทมในการแปลงร่างไว้ให้พระเอก
กันดั้มภายในเรื่อง : ภายในนิยายนั้นไม่มีการพูดถึงกันดั้มแต่อย่างใด ในฉากแปลงร่างของนิยายแต่เดิมแล้วพวกตัวเอกจะแปลงร่างเป็นอุลตร้าแมนแทนครับ โดยในฉบับหนังนั้นได้เปลี่ยนเป็นกันดั้มซึ่งก็เรียกความว้าวให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว แต่ถึงแม้ว่าจะเปลี่ยนเป็นกันดั้มแต่ก็ยังใช้มุขที่ว่าสามารถแปลงร่างได้ช่วงระยะเวลาหนึ่งก่อนจะกลับร่างเดิมเช่นเดียวกับตอนอุลตร้าแมนหมดพลัง
เกมที่เป็นปริศนาภายในเรื่อง : สำหรับเกมที่เป็นปริศนาภายในเรื่องในการได้รับกุญแจนั้นเรียกได้ว่าแตกต่างกันสุดๆ เลยทีเดียวโดยภายในฉบับหนังโรงนั้นกุญแจดอกแรกพวกตัวเอกจะต้องแก้ปริศนาภายในเกมรถแข่ง ดอกที่สองต้องแก้ปริศนาหากุญแจที่ซ่อนอยู่ในภาพยนต์เรื่องเก่า และสุดท้ายดอกที่สามคือหาความลับในเกม Adventure ทว่าภายในฉบับนิยายนั้นเกมที่เหล่าตัวเอกจะต้องเล่นและแก้ปริศนานั้นจะเยอะกว่าพอสมควร และปริศนามีความซับซ้อนกว่ามาก
นับว่าเป็นความฉลาดของคนเขียนบทเลยครับเพราะถ้าหากว่าเอามาหมดหนังคงยืดไปไกลแน่ๆ โดยเกมที่เป็นหัวใจหลักในหนังจะเป็น Joust เกมตู้อัศวินนกกระจอกเทศในปี 1982 เป็นเกมแรกที่พวกพระเอกจะต้องแข่งกับ NPC โดยผู้ชนะจะได้รับกุญแจมาในที่สุด เกมต่อมาคือ Zork ซึ่งเป็นเกม Text Base เกม โดยพระเอกต้องตามหากุญแจจากปริศนาในเกมนั้นครับ และก่อนจะได้กุญแจดอกสุดท้ายพระเอกจะต้องเล่นเกม Tempest ซึ่งเป็นเกมอาเขตยานยิงสมัยก่อนเอาจริงๆ แล้วมีเกมยิบย่อยอีกมากเลยทีเดียวที่ปรากฎในนิยายแต่ผมจะไม่ขอพูดหมดเพราะเดี๋ยวจะยาวไปครับ ซึ่งในหนังได้ตัดพวกการแก้ปริศนาในส่วนนั้นทิ้งเพราะไม่อย่างนั้นมันคงยาวมากแน่ๆ
เหรียญ Free life : ภายในเรื่องพระเอกของเราจะได้เหรียญ Extra Life หรือเหรียญที่ทำให้ได้รับชีวิตฟรีมาจากบรรณารักษ์ห้องสมุดหรือ อ็อกที่ปลอมตัวมาจากการพนันชนะ แต่ทว่าในฉบับนิยายเค้าจะได้รับมาจากความสามารถของตัวเองด้วยการเล่นเกม Pac Man ชนะแบบสมบูรณ์แบบในระหว่างการตามหากุญแจความเลวร้ายของ IOI : ภายในฉบับหนังนั้นองค์กรณ์ IOI ถือว่าไม่ค่อยเลวร้ายเท่าไหร่หากเทียบกับในฉบับนิยาย โดยภายในฉบับนิยายนั้นตัวองค์กรณ์นี้ทำทุกอย่างเพื่อให้ชนะเกมได้ไม่ว่าจะเป็นฆ่าปิดปาก ล้วงความลับโดยการใช้เส้นสายและเครือข่ายของตัวเอง การกันท่าและจัดการกับเหล่ากันเตอร์ที่ต้องการจะมาเล่นเกมเพื่อชิงกุญแจโดยการกางบาเรียเอาไว้ตั้งแต่กุญแจดอกแรกๆ ฯลฯ นอกจากนี้ยังเป็นผู้ปลิดชีพไดโตะหลังจากที่เค้าได้รับกุญแจดอกที่สองไปด้วย ส่วนในฉบับภาพยนต์นั้นองค์กรณ์นี้อาจจะมีท่าทีคุกคามที่รุนแรงก็จริง แต่โดยรวมแล้วยังไม่ได้หนักหน่วงแบบในฉบับนิยายครับ
เคียร่า : หญิงสาวที่ James Halliday แอบหลงรัก ภายในฉบับหนังนั้นเค้าได้เจอเธอในช่วงวัยรุ่นและได้ขอเธอไปเดทแต่ความสัมพันธ์ของพวกเค้าก็ไม่ได้ไปไกลไปกว่านั้น ส่วนในฉบับนิยายนั้นพวกเค้าได้รู้จักกันตั้งแต่สมัยยังเด็กๆ โดยสาเหตุที่รู้จักกันเนื่องจากทั้งคู่เป็นเพื่อนที่เล่นบอร์ดเกม Dungeons & Dragons ด้วยกัน โดยสาเหตุที่เธอเปลี่ยนจากชื่อเดิมคาเรนเป็นเคียร่า เนื่องจากได้แรงบรรดาลใจจากหนังเรื่อง The Dark Crystal ซึ่งในฉบับภาพยนต์ตัวฮาลิเดย์ยังดีที่กล้าชวนไปเดต แต่ฉบับนิยายนั้นเจมส์ไม่ได้แม้แต่จะพูดหรือสานสัมพันธ์ต่อกับเธอเลยด้วยซ้ำ ทำให้สุดท้ายเธอไปแต่งงานกับเพื่อนสนิธของเจมส์อย่าง แทนนับว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าจริงๆ ครับ
อ็อกเดน มอร์โรว : เพื่อนของฮาลิเดย์ผู้ที่ร่วมก่อตั้งและฝ่าฝันทำธุรกิจด้วยกันมา แต่มามีปัญหาในภายหลังด้วยเรื่องของผู้หญิง ซึ่งในประเด็นนี้จะกล่าวเอาไว้ค่อนข้างชัดเจนในฉบับนิยาย ส่วนฉบับภาพยนต์จะมีพูดถึงบ้านแต่ไม่ได้เจาะลึกมากนัก โดยมอร์โรวในฉบับนิยายจะคอยแอบดูพวกตัวเองจากเงามือและได้มาให้ความช่วยเหลือในช่วงหลังของเรื่อง โดยได้เชิญเหล่าตัวเอกมายังบ้านของตนเพื่อหลบเลี่ยงการไล่ข่าของ IOI ส่วนในฉบับภาพยนต์ตัวเค้าก็จับตาดูพวกพระเอกเช่นกัน แต่อยู่ในรูปแบบของบรรณาลักษ์ที่คอยให้ข้อมูลพวกพระเอก ซึ่งจะไม่ได้ออกมาช่วยแบบเปิดเผยตัวเท่ากับในภาพยนต์
นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีรายละเอียดอีกหลายอย่างที่ฉบับภาพยนต์แตกต่างจากฉบับนิยายครับ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ อยากจะทราบว่ามีอะไรอีกก็แนะนำว่าลองไปหาฉบับนิยายมาอ่านกันได้ โดยในไทยนั้นมีสำนักพิมพ์ที่นำเข้ามาให้เราได้อ่านกันคือน้ำพุสำนักพิมพ์ ตกราคาแล้วอยู่ที่ 325 บาทครับ ตรงนี้กบไม่ได้ค่าโฆษณาใดๆ แต่อยากให้ลองหามาอ่านกันดูครับ (แต่ถ้าติดต่อมาให้ค่าขนมผมก็ยินดีนะ 55)