Seven Knights 2 กลับมาต่อกันเลยก็แล้วกัน จากก่อนหน้านี้ผมได้มีการแนะนำเรื่องการรีโรลกับตัวที่ควรแลกจากบัตรฟรีไปแล้ว ในคราวนี้ผมเลยจะมาแนะนำทริคเล็กๆ น้อยๆ ให้กับเพื่อนๆ ที่พึ่งเข้ามาเล่นกันบ้างแล้วกัน
โดยจะมาในบทความของ “ทริคแนะนำเริ่มต้นสำหรับมือใหม่” เผื่อจะได้เป็นตัวช่วยสักหน่อยให้เริ่มต้นกันง่ายขึ้นและไปได้ไวนั่นเอง เอาเป็นว่ามาดูกันเลยดีกว่าว่ามีเรื่องอะไรแนะนำบ้าง
Seven Knights 2 ไทย เทคนิคแนะนำสำหรับมือใหม่
สิ่งแรกที่เราควรทำเลยหลังจากได้เข้ามาเล่น Seven Knights 2 เลยนั่นก็คือ “การไล่เคลียร์เนื้อเรื่อง” เป็นอันดับแรกนั่นเองครับ
เหตุผลนั้นเป็นเพราะการที่เราไล่เคลียร์เนื้อเรื่องไปเรื่อยๆ มันจะทยอยปลดล็อคฟีเจอร์ต่างๆ มาให้เรา ไม่ว่าจะเป็นการตีบวก, มิชชั่น, หอคอย, เรด, อารีน่า และอะไรอื่นๆ อีกมากมายเลย ซึ่งการปลดฟังค์ชั่นเหล่านี้มันถือเป็นเรื่องสำคัญมากทีเดียว
ยิ่งเราไปไกลมากเท่าไหร่เรายิ่งเจอมอนสเตอร์แกร่งมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายถึงไอเทมที่เราะได้รับจะมีเทียร์สูงขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นนี่คือสิ่งที่เราควรโฟกัสมากสุดนั่นเองครับ ไว้ถ้าไปต่อไม่ไหวของไม่ถึงหรือตัวละครเวลไม่พอค่อยไปลงอย่างอื่นทีหลังก็ได้เช่นกัน
ไล่ทำและปลดล็อคของรางวัลจากมิชชันไกด์
มัชชันไกด์ เควสมิชชั่นที่จะให้เราคอยทำโน่นนี่ไปพร้อมการสอนหรือเราอาจเรียกว่าเป็น “ภารกิจมือใหม่” ก็ได้เช่นกัน เป็นอีกสิ่งที่เราควรรีบทำด้วยเช่นกัน
สำหรับมิชชันไกด์นี้ส่วนใหญ่แล้วมักจะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เราปลดจากเควสเนื้อเรื่องอยู่แล้ว ดังนั้นใครโฟกัสเนื้อเรื่องเป็นหลักก็มักจะเป็นการเคลียร์ไปในตัวอยู่แล้ว แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีอยู่บางเควสด้วยที่เราจำเป็นต้องกดเพื่อเข้าไปเรียนรู้เอาเอง จึงทำให้หลายคนอาจไม่ทันสังเกตและพลาดเควสตรงนี้ไปในบางครั้งล่ะนะ
เหตุผลที่แนะนำให้รีบทำมิชชันไกด์เหล่านี้นั้นเป็นเพราะ “ของรางวัล” ครับ การที่เราไล่ทำเควสเหล่านี้จะมีไอเทมหลายๆ อย่างเพื่อช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับตัวละครของเรา ไปจนถึงของสำคัญอย่าง “รูบี้” ที่จะเก็บไปเปิดสุ่มกาชาหรือเอาไปใช้ทำอะไรได้อีกมากมายเลย ดังนั้นเป็นไปได้ให้รีบเคลียร์เควสมิชชันไกด์เหล่านี้ซะนะชีวิตจะอยู่สบายขึ้นมากทีเดียว
ไม่จำเป็นอย่างปล่อยตัวทิ้งไว้
ถึงแม้ภายในเกมจะมีระบบ “ต่อสู้อัตโนมัติ” อยู่ซึ่งทำให้เราเล่นเกมนี้ค่อนข้างสบายขึ้นมาก แต่ก็อย่าชะล่าใจจนถึงกับปล่อยตัวทิ้งไว้เชียวล่ะ
ด้วยเหตุผลว่าเวลาเราไล่ทำเควสไปเรื่อยๆ มันจะมีโอกาสเจอกับบอสหรือมอนสเตอร์พิเศษอยู่ ซึ่งมอนสเตอร์เหล่านี้มักมีท่าชาร์จใหญ่ที่โดนเราตู้มเดียวตายได้เลย แน่นอนว่าท่าพวกนี้มันก็หลบได้ไม่ยากนักแค่เพียงเราบังคับตัวให้พ้นระยะสกิลก็พอ แต่อย่างที่บอกไปครับด้วยระบบต่อสู้อัตโนมัติเนี่ยมันเลยทำให้หลายคนมักเปิดทิ้งไว้และไม่ค่อยได้ดูหน้าจอ พอกลับมาอีกทีก็ไปนอนราบกับพื้นยกตี้แล้ว
ดังนั้นถ้าหากไม่ใช่เควสตีมอนข้างทางธรรมดาหรือเป็นพวกฟิลด์ล่าสมบัติก็อย่าปล่อยตัวทิ้งไว้ล่ะ ไม่งั้นได้ติดอยู่กับเควสนั้นไปยาวๆ แน่นอน
อัปเกรดตัวละครทุกครั้งที่ทำได้
ยิ่งเราเล่นไปได้ไกลเท่าไหร่ ช่องทางในการอัปเกรดตัวละครของเรายิ่งมีเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งถ้ามีโอกาสมาเมื่อไหร่ผมก็แนะนำว่าให้เราอัปเกรดตัวของเราทุกครั้งที่ทำได้ก็จะดีมากเลยครับ
ภายในเกม Seven Knights 2 นี้จะมีระบบของ Battle Point เป็นตัวชี้วัดค่าความแข็งแกร่งของตัวละครเรา ซึ่งเจ้าค่านี้ก็สามารถเพิ่มได้จากการอัปเกรดหลายช่องทางเลย ทั้งการอัปเลเวล, อัปสกิล, ของสวมใส่, ศักยภาพ และอื่นๆ นอกเหนือจากบ่งบอกความแข็งแกร่งแล้วเจ้าแต้มนี้ยังเป็นตัวกำหนดในการเข้าถึงคอนเทนต์หรือกิจกรรมบางอย่างอีกด้วย
เพราะฉะนั้นถ้ามีโอกาสเมื่อไหร่ก็ขอให้อัปเกรดตัวละครของเราเพื่อเพิ่มค่า BP นี้เสมอ นอกเหนือจากมันจะทำให้เราเล่นเกมนี้ได้ง่ายขึ้นแล้วมันยังช่วยให้เราเข้าถึงเนื้อหาหลายๆ อย่างเพื่อจะได้ไม่พลาดของดีไปนั่นเองครับ
ควรมีทีมสำรองไว้ 2 – 3 ทีม
ถึงแม้ระบบเกมเพลย์จะสามารถให้เราออกตลุยไปพร้อมกันได้สูงถึง 4 ตัวละคร แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคอนเทนต์ทั้งหมดจะลงเอยด้วย 4 ตัวละครเสมอไปหรอกนะ อีกหนึ่งในทริคที่อยากแนะนำเลยคือเราควรมีทีมสำรองไว้อย่างน้อยก็ 2 – 3 ทีมครับ
เหตุผลแรกนั้นเป็นเพราะแต่ละตัวละครในเกมนี้จะมีข้อดีข้อเสียไม่เหมือนกัน บางตัวเหมาะลุยบอสแต่อ่อน PVP, บางตัวฟาร์มเก่งมากแต่สู้บอสไม่ได้เลยก็มี ดังนั้นการที่เรามีตัวสำรองไว้ต่างสถานการณ์มันก็จะทำให้เล่นคอนเทนต์ต่างๆ ภายในเกมนี้ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
เหตุผลต่อมาคือภายในเกมจะมีระบบ Raid อยู๋ ซึ่งมันมีดัน “เรด 8 คน (เดี่ยว)” อยู่ ที่ตัวเกมให้เราเลือก 8 ตัวละครแล้วเข้าไปตบบอส มันเลยทำให้กลายเป็นว่าใครที่โฟกัสเพียงแค่ 4 ตัวเลยจะลงคอนเทนต์นี้ไม่ไหวนั่นเองครับ
ดังนั้นเราจึงควรมีทีมสำรองไว้สักหน่อยสัก 2 ทีมขั้นตํ่าก็ยังดี หรือประมาณสัก 8 ตัวไว้ลงคอนเทนต์ดังกล่าวก็ได้ครับ
คอยลงดันเจี้ยน, เรด และ หอคอย อยู่เสมอ
ไอเทมอัปเกรดไม่พอ ทองไม่มี ยาอัพเลเวลไม่เหลือ ถ้าเพื่อนๆ กำลังประสบปัญหาเหล่านี้อยู่ผมก็ขอแนะนำให้ไปทำการลงเรด, ดันเจี้ยน และ หอคอย ครับ มันจะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ดีทีเดียวเชียว
สำหรับตัวดันเจี้ยนพัฒนานั้นด้านในก็มีด่านแยกย่อยออกมาอีก 5 ด่านด้วยกันคือ ดันเจี้ยนทอง – ฟาร์มหาทองมาใช้ / ดันเจี้ยนหินวิญญาณ – ฟาร์มหินวิญญาณ / ดันเจี้ยนอิลิกเซอร์ – ฟาร์มอิลิกเซอร์ไว้อัปศักยภาพ / ดันเจี้ยนรูน – ฟาร์มหารูนอัปพลังศักดิ์สิทธิ์ และ ดันเจี้ยน EXP – หาขวดยาอัปเวล ไว้สำหรับใครที่ขาดวัตถุดิบตัวไหนก็มาฟาร์มที่นี่กันได้
ทางด้าน Raid (เรด) นั้นก็เป็นดันไว้สำหรับเข้าไปตบบอส ซึ่งของรางวัลจะเป็นพวกอุปกรณ์สวมใส่ต่างๆ ยิ่งระดับบอสสูงขึ้น ความหายากของไอเทมที่ดรอปมายิ่งสูงตามเท่านั้น แต่ต้องระวังด้วยว่าบอสภายในเรดนี้จะมีความยากพอตัวเลย ขืนเล่นไม่ระวังเข้าไปก็ได้นอนกับพื้นอย่างเดียวแน่นอน
ส่วนหอคอยไม่สิ้นสุดนี้ก็เป็นแหล่งหาของที่ดีอีกแหล่งเช่นกัน โดยจะมีการแบ่งเป็นของ “รางวัลการเคลียร์” ซึ่งจะได้เพียงชั้นละครั้งเท่านั้น กับอีกอันคือ “รางวัลกวาดล้าง” รับได้ทุกครั้งที่เคลียร์ชั้นนั้นผ่าน แต่ต้องบอกก่อนเลยว่าหอคอยเนี่ยแต่ละชั้นจะมีการกำกับระดับ BP ไว้สูงสักหน่อย ดังนั้นก่อนลงก็เช็คทีมตัวเองให้ดีก่อนล่ะเพราะมันยากกว่าสองอันก่อนหน้านี้พอสมควรเลยล่ะ
โดยทั้ง 3 ด่านนี้สามารถลงได้วันละครั้ง และต้องรอเวลารีเซ็ตก่อนถึงจะลงได้อีกครั้ง ดังนั้นทางที่ดีเราจึงควรลงให้สมํ่าเสมอในทุกวันเพื่อจะได้ไม่พลาดของรางวัลนั่นเอง
ฟิลด์ล่าสมบัติ แหล่งฟาร์มชั้นยอด
ถ้าอยากหาสถานที่ปล่อยฟาร์มมอนได้เลเวลได้ของแบบชิลล์ๆ เรื่อยๆ ถ้าอย่างนั้นเราจะไม่พูดถึง “ฟิลด์ล่าสมบัติ” ก็คงไม่ได้ล่ะจริงไหม
ฟิลด์ล่าสมบัตินี้เปรียบเสมือนดันเจี้ยนแห่งหนึ่งก็ว่าได้ครับ เมื่อเข้าไปแล้วเราต้องกำจัดมอนสเตอร์เป็นจำนวน 50 ตัวก่อนถึงจะจบ และทุกครั้งที่จบก็มีโอกาสสุ่มได้ไอเทมกลับมาบางส่วนพร้อมกับ EXP ตัวละครเพิ่มขึ้นมาจำนวนหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งในการลงแต่ละครั้งเราจำเป็นต้องใช้ “แผนที่” ในการลงเสมอ
กรณีที่เป็นฟิลด์ทั่วไปก็จะใช้ แผนที่ธรรมดา 30 ใบ ต่อรอบ ซึ่งเราสามารถกดรับได้ฟรีๆ จากตลาดวันละ 100 ใบ และอีก 30 ใบ จากการทำเควสเดลี่
แต่ถ้าเป็นฟิลด์พิเศษต้องใช้ แผนที่ระดับสูง 3 ใบ ต่อครั้ง โดยแผนที่เขียวนี้หาได้จากการทำกิจกรรมหรือเควสพิเศษบางอย่าง รวมไปถึงเควสรายเดือนก็จะมีแจกเราด้วยส่วนนึง มันเลยทำให้การลงดันแบบนี้จะมีค่ากว่าแบบธรรมดาหลายเท่าเลยล่ะนะ
ความยากของฟิลด์นี้มีการปลดไปทีละขั้นตามบทของเนื้อเรื่องที่เราเคลียร์ไป หลายคนจึงอาจจะเก็บไว้ไปลงทีเดียวตอนหลังยาวๆ เลย หรือคอยทยอยลงตามเลเวลเพื่อให้เวลไวขึ้นก็ได้เช่นกันครับ
ถือเป็นการจบบทความเรื่อง “ทริคแนะนำเริ่มต้นสำหรับมือใหม่” ไปก็แล้วกันนะครับ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ กันไปไม่มากก็น้อยนะครับผม แล้วไว้เดี๋ยวมีอะไรดีๆ ผมจะนำมาแบ่งปันกันอีกเช่นเคยแน่นนอนกับเกม Seven Knights 2 นี้นี่เองครับ
ดาวน์โหลดเกม Seven Knights 2