หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวออกมาว่าทาง SNK ได้ถูกซื้อหุ้นภายในบริษัทไปกว่า 33% โดยมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย หลังจากได้มีการตกลงกันอยู่สักพักก็ได้ข้อสรุปใหม่ว่าทางค่ายเกมดังกล่าวมีแผนจะเปลี่ยนกลุ่มฐานลูกค้าไปยังกลุ่มวัยรุ่นหรือเด็กมากขึ้นนั่นเอง
โดยข้อตกลงดังกล่าวนั้นเกิดจากที่ตัวของมกุฎราชกุมารนั้นได้ซื้อหุ้นไปกว่า 33.3% แล้วในขณะนี้ แถมยังเปิดเผยว่ามีแผนจะซื้อเพิ่มอีกกว่า 17.7% ในอนาคต ซึ่งก็จะทำให้ตัวของมกุฎราชกุมารนั้นเป็นผู้ถือหุ้นกว่า 51.1% หรือเกินกว่าครึ่งของหุ้นในบริษัท SNK ทั้งหมด และนั่นก็จะทำให้การตัดสินใจของเขานั้นมีอิทธิพลกับแนวทางของทางค่ายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ในการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายนั้นทางองค์กร MiSK Foundation ก็ได้ออกมาให้เหตุผลว่าภายในประเทศซาอุดิอาราเบีย มีกลุ่มเด็กและวัยรุ่นจำนวนมากที่เริ่มหันมาสนใจเกี่ยวกับสื่อและวีดีโอเกมมากขึ้น ซึ่งพวกเขาก็มองว่านี่ล่ะจะเป็นฐานลูกค้าที่สำคัญหลักๆ กลุ่มใหม่เลยก็ว่าได้ และวางแผนจะทดลองการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายนี้ภายในประเทศเสียก่อน ถ้าหากประสบความสำเร็จก็ค่อยพัฒนาไปลุยกันในตลาดโลกอีกทีนึงนั่นเอง
แต่ก็แอบเสียดายอยู่อย่างนึง เนื่องจากทางประเทศซาอุดิอาระเบียนั้นเคยมีประวัติไม่ค่อยลงรอยกับวัฒนธรรมจากประเทศญี่ปุ่นเท่าไหร่นัก และอาจจะส่งผลให้ Fan Services ต่างๆ ที่มาจากทางค่าย SNK อาจจะถูดถอดออกหรือทำให้หายไปเลยก็ได้ เหล่าสาวก ตัวละครสาวทั้งหลายอาจใจสลายกันเป็นแถบๆ เลยทีเดียว ซึ่งเกมที่หลายคนคิดว่าจะได้รับผลกระทบเต็มๆ ก็คงจะหนีไม่พ้น SNK Heroines Tag Team Frenzy นั่นเอง
ก็คงได้แต่ต้องรอดูกันไปก่อนล่ะนะครับว่าในอนาคตนี้ทางค่ายเกมชื่อดังอย่าง SNK จะมีการเดินทางไปในทิศทางใดกันแน่ ซึ่งถ้าหากมีข่าวคราวความคืบหน้าเพิ่มเติมอะไรออกมาแล้วล่ะก็ ทางเรา Playpost จะรีบนำมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้ติดตามกันอย่างแน่นอนเลย