ใช่ว่าเกมที่เน้นหาเงินต่อวันเป็นหลักจะไม่มี Trick หรือ Tip อะไร ใน Staxel นั้นความจริงก็มีอยู่เช่นกัน หรืออันที่จริง ก็อาจจะเรียกได้ว่าเป็นข้อมูลในเกมที่ไม่ได้มีการบอกกันตรงๆ เสียมากกว่า ในบทความนี้ก็จะเอา Trick และ Tip ต่างๆ เล็กๆ น้อยๆ มาแนะนำให้เพื่อนๆกันจ้า บางอันก็อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ แต่หลายคนอาจจะไม่รู้ก็ได้น้า ยังไงถ้าผิดพลาดก็ชี้แจงแถลงไขได้จ้า
Staxel Trick & Tip
0. แผนที่ดีมีต่อ
ด้วยการสุ่มตอนเริ่มเกมนั้น บางครั้งก็ต้องยอมรับเลยว่าแผนที่ที่สุ่มมาตอนแรกก็มีผลอย่างมากเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นถ้าลานกิจกรรมร้างอยู่ด้านเดียวกับฟาร์มของเราแล้วตัวฟาร์มดันผ่าไปอยู่ด้านหลังลานนี้อีก บอกได้เลยว่าวิ่งเข้าเมืองทีนี่ ม้ามกระเพื่อมแน่นอนจ้า หรือถ้าใครที่จะวางแผนสร้างอะไร อยากปลูกนู่นนี่นอกฟาร์มใกล้ๆ แต่ดันพื้นที่ไม่อำนวย ขั้นบันไดหลายตลบ ปรับเปลี่ยนยาก ก็จะต้องเสียเวลากันเป็นปีเพื่อจะปรับพื้นที่แน่นอน
จึงบอกได้เลยว่าช่วงแรกที่สร้างโลกขึ้นมานั้น การเปิดแผนที่และลองเช็คตำแหน่งชัยภูมิคร่าวๆ นั้นจะช่วยแก้ปัญหาหลายๆ อย่างได้เป็นอย่างมากแน่นอน
1. วันแรกคือสวรรค์
อย่างเช่นที่เคยได้กล่าวไปก่อนหน้า วันแรกสุดของเกมนั้น หากผู้เล่นยังไม่ได้จบ Tutorial โดยการใช้ Magic water ใส่ผักและเก็บมา หรือส่งจดหมายให้กับ Maximilian (กรณีที่ลุงแกถาม) นั้นเวลาในเกมจะถูกหยุดเอาไว้ ทำให้ผู้เล่นมีอิสระในการเริงร่าได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการมองหาทำเล เตรียมพื้นที่ ไล่จับแมลง บุกถล่มหาด ตัดไม้อะไรต่างๆ
แม้ว่าอาจจะดูน่าเกลียดไปนิด แต่เชื่อได้เลยว่าไอ้การหาทำเลหรือดูที่ทางนั้น เวลาในเกมไม่เพียงพอเท่าไหร่กับการวางแผนเล่นระยะยาวแน่นอน และหากเวลาไม่เดิน ผู้เล่นก็ทำอะไรไม่ได้มากนักเพราะผักก็ไม่โต รายได้ก็หาได้ยาก อุฮิ
2. Teleport Home ไม่อั้น
อันนี้เป็นอะไรที่พื้นฐานจริงจังมาก แต่หลายคนก็ไม่ค่อยได้กดใช้เท่าไหร่ ซึ่งอันที่จริงเป็นอะไรที่ประหยัดเวลาเดินทางได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินไปตกปลาที่ทะเลแล้วจะกลับ การแวะเข้าเมืองแล้วรีบชิ่งกลับ นอกจากนี้แล้วจริงๆ คำสั่งนี้นั้นจะใช้วาร์ปกลับไปยังเตียงที่นอนล่าสุด เพราะงั้นผู้เล่นสามารถใช้เตียงของชาวบ้านหรือเอาเตียงของตัวเองก็ได้ ไปวางบันทึกตำแหน่งที่อยากจะวาร์ปกลับได้ดังใจเลยทีเดียว
แน่นอนก็เสียที่วาร์ปได้แค่จุดเดียวนั่นแล แต่ถ้าเลือกจุดดีๆ แล้วจะทำให้สามารถประหยัดเวลาได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว แถมผู้เล่นอยากกด Teleport กี่ครั้งก็ได้ไม่จำกัดในแต่ละวัน
3. ทุกที่คือฟาร์ม
แน่นอน ด้วยความที่มันเป็น Sandbox ทำให้พื้นที่การทำฟาร์มของผู้เล่นนั้นไม่จำกัด อากจะไปทำในเมือง กลางภูเขา ใต้ดิน หรือในฟาร์มตัวเองก็ไม่มีใครห้าม NPC ก็ทำอะไรเราไม่ได้มุฮ่า ไม่ต้องถูกจำกัดกับขอบเขตของฟาร์มตัวเองเท่าที่รั้วมีเท่านั้นเหมือนที่สามัญสำนึกของเราคิดไว้
อย่างไรก็ดี การทำฟาร์มนอกพื้นที่กว้างๆ นั้นก็ต้องระวังในเรื่องของการบริหารเวลาและการตามไปรดน้ำล่ะจ้า เพราะถ้าพลาดรดน้ำซักวันนี่เหนื่อยตามเก็บแน่นอนจ้า จะใช้วิธีขุดดินลงไปด้านล่างเพื่อลัดเวลาก็ได้ ไม่ต้องวิ่ง โดดลงไปเลย ขากลับก็ Teleport กลับ แต่วิธีนี้คงต้องขุดหินเตรียมที่กันนานนนนนนนน หน่อยล่ะจ้า ไม่นับหน้าดินอีก (ฮา)
4. ต้นไม้และพุ่มไม้ ดูแลน้อยแต่คุ้มค่า
หลายคนอาจจะสังเกตุว่าเวลาเรารดน้ำต้นไม้ทีไร ตัวเกมจะเด้งเตือนว่าพืชชนิดนี้ไม่ต้องรดน้ำ ซึ่งก็ตามนั้นเลยจ้า ต้นไม้ผลต่างๆ และพุ่ม Berry ต่างๆ นั้นจะไม่จำเป็นรดน้ำแต่อย่างใด แค่หาที่ปลูกมันลงไปก็เพียงพอแล้ว
แถมทีเด็ดอีกอย่างหนึ่งคือความสะดวกสื่อของไม้ทั้งสองชนิดนั่นเอง ในขณะที่ต้นไม้ผลนั้นสามารถปลูกได้ตลอดปี แต่จะออกผลแค่ในหน้าของตัวเองเท่านั้น ในเวลาเดียวกัน พุ่มเบอร์รี่จะถูกบังคับให้ปลูกได้เฉพาะในฤดูของตัวเองเท่านั้น แต่ไม่จำเป็นต้องรดน้ำเหมือนกันและไม่กินพื้นที่เยอะเท่ากับต้นไม้อีกด้วย
*อย่าลืมเว้นช่องว่างเล็กน้อยระหว่างต้นไม้ จะได้เดินผ่านได้นะ*
5. Shipping Box & Shipping Catalog
ของสองอย่างนี้จะต้องใช้คู่กัน (อันที่จริง Box น่ะไม่ต้อง แต่ Catalog ต้อง…) โดยมีมูลค่าถึงชิ้นละ 2,500 petals แต่ก็คุ้มค่าเป็นอย่างมาก โดยตัว Catalog จะทำให้ผู้เล่นสามารถซื้อของกว่า 80% ในเกมได้โดยไม่ต้องรอร้านค้าสุ่มออกมาขาย แถมเลือกจำนวนเป็นหน่วยที่ต้องการได้สบายๆ อีกด้วย แถมยังซื้อของประดับที่ปกติจะเก็บไม่ได้อย่างดอกไม้ แท่งไม้ ได้อีกด้วย ตัวผู้เล่นจะจำกัดการซื้อได้เพียง 10 ชนิดต่อรอบการซื้อเท่านั้น
ส่วน Shipping Box นั้นจะใช้ในการรับของที่สั่งจาก Catalog และขายของ โดยของที่ขายจะขายได้เพียง 6 ชนิดต่อวัน และจะได้รับเงินในวันรุ่งขึ้น รวมถึงของที่สั่งจาก Catalog เองก็เช่นกัน ต้องรอเวลาส่งของหนึ่งวัน แต่ถ้ารีบใช้ด่วน ก็สามารถใช้คำสั่ง Expend ซึ่งจะต้องเสียเงินเพิ่มอีกพอสมควรเลยทีเดียว แต่เมื่อจ่ายแล้วของที่สั่งไปก็จะส่งมาในทันทีที่ Shipping Box เลยจ้า
6. Collection ซื้อเอาได้นะ!?
อาจจะเป้นจุดที่ทางคนทำมองข้าม หรือไม่ได้เขียน Code กำกับไว้ แต่ก็เป็นไปแล้ว นั่นคือ Achievement แบบในเกมที่ขึ้นกับ World นั้นๆ จะได้สามารถได้รับจากการครอบครองของชนิดนั้นๆ เอาไว้ (พวกแมลงหรือปลา) นั่นหมายถึงเพื่อนๆ ที่มี Shipping Catalog / Box นั้นสามารถซื้อของที่ขายไปมาสะสมได้เลยนั่นเองจ้า
อย่างไรก็ดี ตัว Catalog ก็จะไม่ได้มีขายทุกอย่างนะจ๊ะ เพราะงั้นของบางอย่างก็ยังต้องหาเองอยู่ แต่ก็ทำให้สามารถข้ามบางอย่างที่หาได้ยากและเสียเวลาเกินไปได้เช่นกัน โดยเฉพาะแมลงที่บางทีก็หาตัวยากหรือหายไปเหมือนไม่มีตัวตนเลยซะงั้น แย่
7. รับมือกับระบบ Demand – Supply
ตัว Staxel นั้นตลาดจะมีการล๊อคจำนวนของที่ขายได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้เล่นปั้มของอย่างเดียวกันเยอะๆ มาขายเพราะทำเงินได้ดีสุดเหมือนเกมอื่นๆ นั่นเอง ทำให้ผู้เล่นถูกบังคับให้ต้องหาของที่ขายได้ไม่ดีเท่าหมุนวนกันไป แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีวิธีรับมือเลย ซึ่งวิธีรับมือก็ง่ายกว่าที่คิด โดยแบ่งเป็นสองอย่างคือ
- ขายในปริมาณที่เหมาะสมเป็นช่วงๆ แทน ด้วยวิธีนี้จะทำให้ราคามีการฟื้นตัวทัน ไม่ขาดทุนมากเกินไป
- สะสมแล้วเทขายบรึ้มเดียวในวันสุดท้ายของฤดูนั้น วิธีนี้จะทำให้ได้กำไรชุดเดียวเต็มๆ เลย แลกกับการที่เงินจมลงไปจากการที่ต้องรอขาย แต่กว่าที่ฤดูที่เราจะปลูกและรอขายใหม่ได้อีกครั้งวนกลับมา ราคาก็ฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติแล้วล่ะ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่ผู้เล่นยังไม่เงินสะสมสำรองไม่มากและยังต้องซื้อของบ่อยๆ อย่างในปีแรกๆ นั้น แนะนำให้ขายของจำนวนน้อยๆ ในช่วงต้น-กลางฤดูและสะสมไปถล่มตอนหมดฤดูจะดีกว่าจ้า
8. รังผึ้ง ความคุ้มที่เหลือจะคุ้ม
น้ำผึ้งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการหาเงินเสริม เนื่องจากไม่ต้องการดูแลอะไรเป็นพิเศษเลย ผู้เล่นเพียงแค่ซื้อ Aspires จากในร้านค้าในเมือง ตามด้วยการหาราชีนีผึ้ง Queen Bee ตามป่า (ไม่ก็ซื้อเอาซะเลยจาก Catalog) มายัด ซึ่งราชีนีผึ้งจะใช้เวลา 10 วันในการรวบรวมผึ้งงาน ผู้เล่นสามารถลัดขั้นตอนได้ด้วยการจับผึ้งงาน Worker Bee (แน่นอน ใน Catalog ก็มีจ้า) มายัดให้เต็มแทนได้เลย
หลังจากที่มีผึ้งงานครบแล้ว แต่ละรังผึ้งจะใช้เวลา 3 วันในการรวบรวมน้ำผึ้ง หรือเก็บได้ทุกๆ 4 วันนั่นเอง และสามารถผลิตได้ตลอดเวลาไม่จำกัดฤดู ไม่ต้องให้อาหารอะไรเลย และมีค่าใช้จ่ายแค่ 10 petals สำหรับขวดเปล่าต่อการเก็บน้ำผึ้ง 1 ขวดเท่านั้น อย่างไรก็ดี ผู้เล่นจะต้องใช้ Smoker ในการรมควันผึ้งก่อนเก็บน้ำผึ้งเสมอ (ใช้ได้ไม่จำกัดครั้ง)
*จำนวนรังผึ้งที่เหมาะสมโดยไม่ทำให้ราคาติดหล่มมากเกินไปคือประมาณ 13~16 รัง ซึ่งจะตกที่ราวๆ 4000~5000 petals ต่อทุกๆ 4 วัน*
นี่ก็จัดเป็น Trick & Tip เล็กๆ น้อยๆ ที่หวังว่าจะช่วยเหลือชาวไร่สายชิวหน้าใหม่ใน Staxel ได้น้า ไว้เจอกันใหม่จ้า