จากประเด็นล่าสุดที่ทาง Telltale Games ประกาศเตรียมปิดตัวและลอยแพพนักงานกว่า 90% ออก จนล่าสุดลามไปถึงการโดนฟ้องจากพนักงานนั้น หลายคนก็คงสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่กับบริษัทนี้ ซึ่งทาง Gamespot นั้นก็ได้เรียบเรียง Timeline ของบริษัทในช่วงก่อนหน้านี้กันมาแล้วจ้า
Telltale Games : The Timeline
พฤษภาคม 2017 : คุณ Kevin Bruner หนึ่งในผู้ก่อตั้งและ CEO ประกาศลาออกจากบริษัท ซึ่งมีข่าวว่าเขามีปากเสียงไม่ลงรอยกับคณะกรรมการ ต่อมาคุณ Dan Connors ผู้ร่วมก่อตั้งเข้ามาเป็น CEO แทน
กันยายน 2017 : บริษัทจ้าง Pete Hawley มาดำรงตำแหน่ง CEO แทน
พฤศจิกายน 2017 : ผลงานหลักอย่างแรกเลยของ Hawley คือการปลดพนักงานกว่า 25% (ประมาณ 90 คน) ออก ซึ่งส่งผลต่อทุกฝ่ายของทางบริษัทไม่น้อย ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตราการของบริษัทในตอนนั้นที่จะพยายามให้ตัวบริษัทเติบโตและแข่งขันได้ดีขึ้น
ธันวาคม 2017 : CEO (Pete Hawley) ได้อธิบายกับทาง GamesBeat ถึงการปลดพนักงานและทิศทางของบริษัท เขาได้กล่าวว่าตัวบริษัทไม่ได้มีปัญหาอะไรและยังอยู่สึกว่าทุกอย่างอยู่จุดที่กำลังดีเลยทีเดียว และการปลดพนักงานในตอนนั้นเป็นอะไรที่จำเป็นเพื่อให้บริษัทสามารถก้าวต่อไปได้ในอณาคต
พฤษภาคม 2018 : แหล่งข่าวแห่งหนึ่งได้รายงานกับทาง The Verge ถึงการที่บริษัทนั้นมีการบริหารจัดการเข้าขั้นมะเร็ง (toxic management) รวมถึงรายงานที่ชวนปวดตับอย่างการให้พนักงานทำงานถึง 18 ชั่วโมงต่อวัน
20 กันยายน 2018 : ข้อมูลจากทาง Variety ได้ระบุว่าทางบริษัทแจ้งกับพนักงานว่าการเจรจาขอทุนกับทาง AMC เป็นไปด้วยดี และน่าจะตกลงกันได้ในอาทิตย์หน้า และมีข้อมูลว่ากำลังเจรจากับทาง Smilegate ค่ายเกมมือถือเกาหลีเพื่อหาทุนอีกส่วนด้วย
อย่างไรก็ตาม ทั้งทาง Smilegate และ AMC นั้นไม่ร่วมตกลงเจรจากับทางบริษัทในวันพฤหัสนั้นเอง ซึ่งไม่มีรายงานว่าทำไมทั้งสองเจ้าถึงยกเลิกการเจรจาภายในวันเดียวกัน แถมทาง Variety ยังระบุว่าทาง Studio Lionsgate เองก็ถอนตัวจากการตกลงกับทางบริษัทเช่นเดียวกัน
21 กันยายน 2018 : จากรายงานนั้น ทางบริษัทได้ประชุมแจ้งว่าจะมีคนตกงานกว่า 200 คน โดยลูกจ้างแต่ละคนนั้นได้รับเช็คก่อนจะถูกไล่ออกจากอาคารภายใน 30 นาที (สามารถกลับมาเอาของส่วนตัวได้ 3 ชั่วโมงในวันจันทร์หน้า) หนำซ้ำพนักงานเหล่านั้นยังไม่ได้รับค่าปรับที่ถูกไล่ออกจากงาน ประกันสุขภาพก็มีให้แค่ถึงสิ้นเดือนเท่านั้น
คุณ Kevin Bruner CEO คนก่อนได้เขียนข้อความใน website ส่วนตัวของเขาถึงทำไมเขามีปากเสียงกับคณะกรรมการถึงอณาคตของบริษัท อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้พูดถึงเหตุผลที่ไม่ลงรอยกันแต่อย่างใด
จากนั้นทางบริษัทก็ได้แจ้งประกาศปิดตัว โดยเหลือพนักงานเพียง 25 คนเท่านั้นตามที่ข่าวได้เสนอไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นจำนวนพนักงานขั้นต่ำสำหรับให้ตัวบริษัทคงอยู่ได้ โดยทาง CEO Pete Hawley ได้มาบอกว่า นี่เป็นปีที่ยากลำบากยิ่ง เต็มไปด้วยความท้าทายที่แสนโหดร้ายสำหรับตัวบริษัท ซึ่งเขาก็ภูมิใจในความสามารถของบริษัทที่สร้างเสียงตอบรับที่ดีของตัวเกมได้ แต่ยอดขายมันก็สวนทางกับความต้องการอยู่
คุณ Dan Connors หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งนั้นก็ได้บอกกับทาง Variety ว่าทางบริษัทไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดผลิตเกมอีก หลังจากที่ไม่สามารถกลบรายจ่ายได้ไหวแล้ว เขาได้กล่าวว่า ทุกคนพยายามมุ่งเป้าในการทำให้บริษัทเดินหน้าต่อไปได้มากไป จนเมื่อรู้ตัวว่าคนที่คอยช่วยเหลือถอนตัวไปหมดแล้วทุกอย่างก็พังลงมา
24 กันยายน 2018 : หนึ่งใน(อดีต)พนักงานของบริษัท Vernie Roberts Jr. ส่งหมายเล่นงานบริษัทในข้อหาไม่ยอมจ่ายเงินเดือนและมอบสวัสดิการที่เขา(และเพื่อนร่วมงาน)ควรจะได้จากทางบริษัท โดยคุณ Roberts Jr. ได้ระบุว่าทางบริษัทเองก็ทำผิดกฎหมาย California’s WARN Act ที่กล่าวว่าพนักงานต้องได้รับการแจ้งล่วงหน้า 60 วันก่อนจะถูกเลิกจ้าง อย่างไรก็ดีนั้น ทางคุณ Attorney Richard Hoeg (ไม่ได้เข้าร่วมคดีนี้โดยตรง) ก็ได้กล่าวกับทาง GameDaily ว่าเป็นไปได้ที่บริษัทจะดิ้นด้วยเหตุผลที่ว่า มีเหตุขัดข้องสุดวิสัย ทำให้ไม่ต้องโดนเล่นงานในข้อหาแจ้งล่วงหน้าได้อยู่ (อย่างไรก็ดี ในกฎหมายฉบับของ California ก็ไม่ได้พูดถึงตรงนี้อยู่)
ในขณะเดียวกันของวันนั้น ทางบริษัทก็ได้ประกาศว่ามีทีมงานเข้ามาช่วยเหลือให้สามารถเข็น The Walking Dead: The Final Season ต่อได้ โดยไม่ได้ระบุว่าทีมที่เข้ามาช่วยนั้นเป็นใคร รวมถึงไม่สามารถยืนยันได้ว่า Episode 3 และ 4 จะสามารถคลอดตามออกมาได้ไหม และถึงออกมาได้ ก็น่าจะออกมาแบบลูกผีลูกคน
ทาง Netflix เองก็ประกาศว่า Stranger Things อาจจะทำต่อกับรายอื่นรวมถึง Minecraft: Story Mode ด้วย
25 กันยายน 2018 : The Walking Dead: The Final Season Episode 2 วางจำหน่ายตามกำหนดการ แต่ว่ามีการนำ Season Pass ออกจากทุกร้านค้าและทุก Platform และมีการระบุว่าจะขอพักการขายตัว Season Pass ไว้ก่อน จนกว่าจะมีการระบุเพิ่มเติม
เรียกได้ว่าเมื่อเรียบเรียงช่วงเวลาที่เกิดขึ้นแล้ว ทางบริษัทเองก็ดูท่าจะมีเนื้อหาน่าสนใจไม่แพ้ตัวเกมเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ตัวบริษัทก็ไม่ได้ถูกฟ้องล้มละลายแต่อย่างใด ซึ่งปัญหาเบื้องลึกจะเกิดจากอะไรนั้นก็คงต้องรอดูแถลงการณ์อย่างเป็นทางการของบริษัทก็เป็นได้
ซึ่งในมุมมองของคนนอกแล้วนั้น การจะตัดสินว่าเรื่องราวในครั้งนี้เป็นความผิดพลาดของฝ่ายใดหรือใครก็คงตอบไม่ได้ จนกว่าความจริงภายในจะปรากฎออกมา ซึ่งคนเล่นอย่างเราๆ ก็คงได้แต่ถอนหายใจและส่ายหัวเบาๆ กับเหตุการณ์นี้จริงๆ