Matador หรือที่รู้จักกันในนาม Bull Fighter แปลเป็นไทยได้ว่า “นักสู้วัวกระทิง” ซึ่งเป็นกีฬาเก่าแก่ของประเทศสเปน โดยมีสไตล์การต่อสู้ด้วยการใช้ผ้าแดง (Cape) ในการโบกสะบัดเพื่อยั่วยุกระทิงให้เข้ามาจู่โจม และอาศัยท่วงท่าในการหลอกล่อและหลบ จากนั้นจึงใช้ ดาบ Rapier ที่ซ่อนอยู่ในผ้าแดงจัดการศัตรูด้วยการแทงที่แม่นยำ
ซึ่งใน Tree of Savior ได้ออกแบบอาชีพนี้ และตัวสกิลออกมาได้ตรงคอนเซ็ป และมีท่วงท่าที่ตรงกับศาสตร์ของมาทาดอร์เป็นอย่างมาก แต่หลังจากผู้เขียนได้ลองพยามเล่นแล้ว คงต้องสารภาพตามตรงว่าอาชีพนี้ ไม่ค่อยจะเก่งสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะด้วยตัวสกิลหรือสไตล์การเล่นก็ตาม ในส่วนนี้คงได้แต่รอการปรับตัวสกิลกันต่อไป คลาสนี้จะอยู่ที่ Rank 8 และปัจจุบันมีถึง circle 2 เท่านั้น
Special Thanks : คุณ CoCo กลุ่ม walkthrough
สามารถเข้ากลุ่มพูดคุยเพื่อมาสอบถามเกี่ยวกับเกมได้ที่ :
TOS Walkthrough หรือ Tree of Savior ณ ประเทศไทย
จุดเด่น
- มีสกิลลด Cri.Resist และ เพิ่ม Cri.Chance ทำให้เหมาะแก่การเล่นสายทำแดมเมจจาก Cri
- สามารถทำเควสเพื่อเพิ่มชุดประจำคลาสได้ถึง 3 แบบ (สายแฟ)
จุดด้อย
- ไม่สามารถเก่งได้ด้วยคลาสตัวเอง จำเป็นต้องอาศัยความเก่งคลาสอื่นเป็นหลัก
- สกิลอาชีพบังคับให้ใช้ Rapier เท่านั้น ถืออาวุธอื่นไม่สามารถใช้สกิลอาชีพนี้ได้ ทำให้ล็อคกลายๆว่าต้องผ่าน Fencer
- สกิลตีน้อย และ skill factor damage เบามาก เมื่อเทียบกับคลาสอื่นๆ
- สกิลบัคเยอะ ใช้ประโยชน์จริงได้ยาก ท่าสวยเท่านั้น
- การเลือกไป Fencer C2 และ Matador C2 จะทำให้เสียสกิลแดมเมจหลักและบัฟหลักของ Fencer C3 ไป ทำให้ไม่เก่ง และการ Fencer C3 Matador C1 ก็จะทำให้ได้สกิลพ้อยไปลง Matador น้อยลงเช่นกัน
- ผู้เขียนยังไม่สามารถเล่นให้เก่งได้ในตอนนี้ และจนปัญญามาก
ภาพ | ชื่อสกิล | Circle | Type | รายละเอียด |
Capote | 1 | Buff | กดใช้เพื่อยั่วยุศัตรู 5 ตัวที่อยู่รอบๆ โดยจะทำงานกับบอสก่อนมอนเตอร์ธรรมดา เป้าหมายที่ถูกยั่วยุ จะถูกลดความแม่นยำและการหลบหลีก – สามารถเรียน Attribute เพื่อลด Cri.Resist ของมอนเตอร์ที่โดนยั่วยุ 50% (แพทช์หน้า -50 เฉยๆ) | |
Muleta | 1 | Pierce | รับการโจมตีของศัตรูแล้วจึง Counter Attack กลับ แต่ถ้าศัตรูเป็นประเภท [Beast] เราจะไม่ได้รับแดมเมจจากศัตรูเมื่อใช้ท่านี้ – สามารถเรียน Attribute เพื่อเพิ่มระยะเวลาของหลอดร่าย Counter Attack ได้ – แพทช์หน้าปรับดังนี้ | |
Faena | 1 | Pierce | แทงศัตรูโดยสุ่มจำนวนครั้งตามเลเวลของสกิล – สกิลนี้ขึ้นกับ Aoe Attack Ratio ของตัวละครเรา – แพทช์หน้าปรับดังนี้ | |
Ole | 1 | Buff | เมื่อกดใช้สกิลศัตรูที่โดนยั่วยุอยู่ จะมีโอกาสติดคริกับศัตรูตัวนั้นๆได้ง่ายขึ้น (พูดง่ายๆคือเพิ่ม Cri.Chance กับศัตรูที่โดนเรา [Provocation] อยู่) – สามารถเรียน Attribute เพื่อเพิ่มระยะเวลาของสกิลได้ – แพทช์หน้าปรับดังนี้ | |
Paso Doble | 2 | Pierce | หมุนตัวฟันศัตรู (แต่แดมเมจเป็นปรเภทแทง) ที่อยู่ด้านหน้า และทำให้ศัตรู Knockback – แม้ Animation จะเป็นการหมุนตัวฟันรอบตัว แต่จะโดนศัตรูแค่เฉพาะด้านหน้าเท่านั้น | |
Back Slide | 2 | Buff | พุ่งถอยหลังเพื่อสร้างระยะ การอัพเลเวลจะทำให้สกิลนี้มี Cooldown ที่ลดลงเท่านั้น – สามารถเรียน Attribute เพื่อเพิ่ม dodge +50 หลังใช้สกิลเป็นระยะเวลา 5วิ – แพทช์หน้าปรับดังนี้ |
การใช้งานสกิลในสถานการณ์จริงที่น่าสนใจ
Capote
สกิลนี้เป็นสกิลดึงมอน แต่ถึงแม้ความสามารถของสกิลจะบอกว่าเป็นการดึงมอนแต่ จุดประสงค์ที่แท้จริงของสกิลนี้กลับจะเป็นการลด Cri.Resist ซะมากกว่า จะเรียกว่าใช้เพื่อเป็นสกิลดีบัฟเลยก็ว่าได้ เพราะความสามารถในการดึงมอนนั้นแย่กว่าสกิล [Swash Buckling] ของ Pel ซะอีก เนื่องจากจำนวนมอนที่ดึงได้น้อยกว่าและการอัพเลเวลสกิลนี้ ก็ไม่ทำให้จำนวนมอนที่ดึงได้เพิ่มขึ้น (จำกัดแค่ 5 ตัวเท่านั้น) แต่อย่างไรก็ตาม ถ้าโฟกัสไปที่การต่อสู้กับบอส สกิลนี้กลับเป็นสกิลที่ดีมากในเรื่องของการลด Cri.Resist แม้จะทำให้บอสหันมาเล็งเราก็ตาม โดยส่วนตัวสกิลนี้ผมให้ 8/10
Muleta
แดรี่ควีน มูลลาเต้ เอ้ย มูเลต้า สุดยอดสกิลเจ้าปัญหาที่เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของอาชีพนี้ แต่หลังจากได้ใช้งานจริงกับพบว่าเป็นสกิลที่แย่ที่สุดในบรรดาทุกสกิลของเกมนี้เลยก็ว่าได้ สกิลนี้เป็นสกิลไว้สำหรับ Counter Attack เมื่อกดใช้จะมีหลอดร่ายสกิลขึ้นมา ถ้าศัตรูโจมตีในจังหวะที่หลอดร่ายนี้ยังไม่หายไป จะทำการโจมตีสวนศัตรู (ถ้าศัตรูตี miss สกิลนี้จะไม่ทำงานเลยและเสีย Cooldown ฟรี) ซึ่งในการสวนนี้ ไม่ใช่การสะท้อนแดมเมจกลับไป แต่เป็นการคิดแดมเมจจาก skill factor damage และ P.Atk ของตัวละครเรา จากการใช้งานจริงพบว่าสกิลนี้เป็นสกิลที่มหาบัคมากๆ เพราะบางครั้งศัตรูตีตรงจังหวะ แต่ท่าไม่ออกก็มี นอกจากนี้ สกิลนี้ยังแย่ตรงที่ต้องรับแดมเมจของศัตรูเข้าตัวอีก ไม่ได้เป็นการป้องอะไรใดๆทั้งสิ้น ซึ่งในความเป็นจริงของเกมนี้แล้ว การฆ่าศัตรูให้เร็วที่สุด ไวที่สุด และโดนแดมเมจน้อยที่สุดเป็นเรื่องที่พึงควรกระทำเสมอ ไม่ใช่มายืนรอแลกแดมเมจกัน ถ้าหลบได้ก็ควรหลบ สกิลนี้ผมให้ 1/10 เป็นสกิลแฟชั่น เพราะใช้งานได้เลวร้ายมากทั้งใน PVE, TBL และ ตีบอส
ฮิตที่ 2 เป็นเพราะ Sacrament
Faena
เป็นสกิลโจมตีที่สุ่มจำนวนฮิตที่ออก โดยขึ้นกับเลเวลของสกิล ยิ่งสกิลเวลสูง จำนวนฮิตที่สุ่มจะสูงขึ้นไปด้วย เช่นที่สกิลเลเวล 1 จะสุ่ม 2-3 hits และที่สกิลเลเวล 10 จะสุ่ม 7-12 hits โดยสกิลนี้จะมี 2 Overheat และมี factor damage เท่ากันทุกเลเวลโดยอยู่ที่ 282% แม้ว่าตัวแดมเมจจะเบา แต่ข้อดีของสกิลนี้อยู่ที่ Animation ในการออกท่าที่รวดเร็วมาก กดปุ๊ปออกปั๊ป และในแต่ละฮิตที่แดมเมจเด้งขึ้นมา มีโอกาสติดคริด้วย สกิลนี้ผมให้ 7/10 เนื่องจากมีข้อเสียหลักๆของสกิลนี้อยู่ที่ จำนวนครั้งสุ่ม มี Cooldown ที่นาน และสกิล factor damage เบา
Ole
เมื่อกดสกิลนี้ จะเป็นบัฟติดตัวเรา สกิลนี้เป็น Cri.Chance ไม่ใช่ Cri.Rate หมายความว่า ถ้ามี Cri.Chance 20% คือมีโอกาสติดคริ 20% เลย ดังนั้นสกิลนี้จะทำให้เราติดคริได้ง่ายมาก แต่มีเงื่อนไขคือศัตรูจะต้องเล็งมาที่ตัวละครเราเท่านั้น ดังนั้นการใช้งานสกิลนี้จะต้องใช้ต่อ [Swash Buckling] ของ Pel หรือ [Capote] ของ Matador นั่นเอง สามารถเรียน Attribute เพื่อเพิ่มเวลาบัฟได้ ในเรื่องของ Animation ถือว่าใช้เวลาบ้าง แต่ไม่ได้นานจนน่าเกลียด สกิลนี้ผมให้ 8/10
Paso Doble
เป็นสกิลโจมตีที่มีจุดประสงค์เพื่อทำให้ศัตรู Knocked down แม้ว่าสกิลนี้จะมี Animation เป็นการหมุนตัวฟัน 360องศา รอบตัว แต่เป้าหมายจะโดนเพียงแค่ศัตรูที่อยู่ด้านหน้าเท่านั้น จากการใช้งานจริงแล้วคงต้องบอกว่า สกิลนี้เป็นสกิลที่ Knocked down ได้นานที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะล้มนานมาก และลุกขึ้นมามอนจะเอ๋อๆไปอีกแปปนึงด้วย ส่วนข้อเสียหลักๆของสกิลนี้จะเป็นเรื่อง 1 Overheat Cooldown 25วิ แถมมี Animation ออกท่าที่เว่อร์วังอลังการสวยงาม (แอบกินเวลา) สกิลนี้ผมให้ 6/10 (ขออภัยที่ใช้คลิปของ outsource เพราะผู้เขียนรีทิ้งทันทีหลังจากทดสอบ C2 แล้ว)
Back slide
สกิลถอยหลังหลบ เพื่อสร้างจังหวะ โดยถ้ายิ่งอัพมากระยะเวลา Cooldown ของสกิลนี้เองจะยิ่งลดลง (ไม่ใช่กดใช้แล้วสกิลอื่นที่ติด Cooldown จะลดลงนะ) เช่นที่เลเวล 1 ของสกิลนี้จะมี Cooldown 19วิ ที่เลเวล 2 จะมี Cooldown 18วิ เมื่อเรียน Attribute จะมีบัฟเพิ่ม Evasion 50 เป็นเวลา 5วิ เรียกง่ายๆว่าทำให้กลายเป็นสกิลบัฟไปนั่นเอง สกิลนี้ผมให้ 5/10
สไตล์การเล่นและการอัพสเตัส
สไตล์การเล่นของคลาสนี้ ให้อิงจาก Fencer C3 เป็นหลัก แล้ว Mata C1 นั้นใช้เพื่อลด Cri.Resist กับ เพิ่ม Cri.Chance เป็นหลัก สกิลโจมตีสามารถใช้ควบคู่กับบัฟของ Fencer ได้ แต่สกิล Muleta นั้นใช้งานจริงยากมากและไม่คุ้มอย่างยิ่ง ดังนั้นคลาสนี้ให้มองว่าเป็นคลาสเสริมสำหรับ Fencer C3 นั่นเอง ในตัวของคลาส Matador นี้ ไม่มีความเหมาะอย่างอย่างในด้านการ PVP เพราะเป็นเรื่องยากมากที่จะ Counter คนด้วยกัน และไม่สามารถ [taunt] ใส่คนได้ แต่จะดีกับบอสมาก เพราะสามารถสามารถตีบอสติด Cri ได้ง่ายขึ้น
คลาสที่น่าสนใจก่อนจะมาถึง Matador
ภาพ | ชื่อคลาส | รายละเอียด |
Swordsman | คลาสพื้นฐานที่ทุกคนต้องผ่าน สามารถผ่านได้จนถึง C3 เพื่อเอาบัฟ เพราะเพียงแค่สกิลของ Fencer C3 ก็สามารถใช้วนได้ในตัวเองแล้ว | |
Peltasta | สามารถผ่านคลาสนี้เพียงเพื่อ [Swash Buckling] สำหรับไว้เคาะเรียกมอนและใช้คู่กับสกิล [Ole] ได้ | |
Highlander | เหตุผลหลักๆ ที่ผ่าน Highlander คือเพื่อเอาสกิลแดมเมจเพิ่มนั่นเอง | |
Barbarian | สาเหตุเดียวที่ผ่านคลาสนี้คือเอาสกิล [Cleave] ไว้สำหรับบัฟสกิลสายฟันเพียงเพื่อสกิลเดียวเลยก็ว่าได้ | |
Corsair | คลาสยอดนิยมของ Fencer เนื่องจากทำให้บิ้วนี้มีสกิลจับ สามารถ CC ได้ และยังมี [Jolly Roger] ที่สามารถดึงมอนไว้ใช้คู่กับ Ole ได้อีกด้วย | |
Fencer | เป็นคลาสที่ขาดไม่ได้สุดๆสำหรับคนอยากเล่น Matador เพราะตัวสกิลของ Matador เองไม่เพียงพอทำให้เก่งได้ |
ตัวอย่างบิ้วที่น่าสนใจของ Matador
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า ควรเน้น Fencer C3 เป็นหลักทั้งในเรื่องสกิลและบัฟ และมองคลาส Matador เป็นเพียงคลาสเสริมที่เอามาเพียงแค่ Debuff ในเรื่อง Cri.Resist กับ Buff Cri.Chance เท่านั้น การไปถึง Swordsman C3 นั้นเพื่อเอาบัฟจากคลาสนี้เป็นหลัก ทั้งในเรื่องบัฟแดมเมจ และบัฟกันล้ม สำหรับคนที่อยากจะ PVP สามารถลงสกิล [Restrain] ให้เต็มได้ เพื่อให้สามารถสู้ใน PVP ได้บ้าง ส่วนคลาส Pel นั้นสามารถใช้สกิล [Swash Buckling] สำหรับไว้เคาะเรียกมอนและไว้ใช้คู่กับสกิล Ole ในการเพิ่ม Cri.Chance กับมอนตัวที่ถูกดึงได้ และคลาส Corsair นั้นเอามาเพื่อสกิล [Hook] สำหรับใช้ในการ PVP ส่วน Fencer นั้นมีความจำเป็นต้องไปให้ถึง C3 เนื่องจากบัฟ [Epee] เป็นบัฟที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับการโจมตีประเภทแทง [Pierce] นั่นเอง
ในมุมมองของผมเองนั้น มองว่าอาชีพ Matador เป็นคลาสที่อยู่สูงถึง Rank 8 แต่กลับไม่มีความเก่งในคลาสตัวเองเลย เป็นเหมือนคลาสเสริม หรือ DLC เสริม ของ Fencer ซะมากกว่า แม้ใน tosbase จะมีบิ้วที่เกี่ยวกับ Matador อยู่หลากหลาย แต่อย่างที่กล่าวมาตลอดว่า คลาส Matador เองนั้น ไม่สามารถจบหรือเก่งได้ในคลาสตัวเองเหมือน Shadowmancer จำเป็นต้องมี Fencer มาเป็นคลาสยืนพื้น เพื่อดึงความสามารถของบิ้วออกมาให้สูงสุด และในสุดท้ายนี้ อยากให้ผู้ที่สนใจได้ลองเล่นคลาสนี้ดูเองก่อนที่จะเชื่อบทความนี้ เพราะนี่เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนหลังจากได้ทดลองแล้วเท่านั้น ถ้าสามารถหาวิธีเล่นหรือสไตล์การเล่นที่สามารถดึงความสามารถของคลาส Matador ออกมาได้สูงสุดแล้วอย่าลืมมาแชร์กันนะครับ