Console Guide

Pokemon Sword & Shield VGC Basic Rain Team Author : Maletix   Basic Rain Team ในวันนี้จะขอแนะนำการเล่นทีมสภาพอากาศฝนตก ถึงแม้ในภาคนี้ยังไม่มี Politoed ไว้ใช้เปิดสภาพอากาศ แต่ก็มี Pelipper ไว้ใช้แทน โดยเราจะเลือกสมาชิกที่เมื่ออยู่ในฝนจะช่วยลบจุดอ่อนในด้านแพ้การโจมตีประเภท Fire ออกไปได้ ทั้ง Darmanitan Galar และ Durant นอกจากนี้ยังมีตัวที่เก่งในฝนอย่าง Ludicolo หรือถ้าใครชอบ Barraskewda แทนก็พอได้เช่นกัน ข้อดี • เล่นง่าย เหมาะกับผู้เล่นใหม่ • ในสภาพอาการฝนตก ท่าธาตุ Fire จะเบาลง ข้อเสีย • ค่อนข้างเล่นยากใน Trickroom • ความเร็วของ Pelipper ค่อนข้างเยอะกว่าตัวเปิดสภาพอากาศอื่นๆ Double Format Pelipper @ Focus Sash Ability: Drizzle EVs: 252 SpA / 4 SpD / 252 Spe Timid Nature - Hurricane - Scald - Tailwind - Protect ตัวเปิดสภาพอากาศประจำทีม แน่นอนว่าควรจะหยิบมาใช้เกือบทุกเกมเลยทีเดียว นอกจากจะเปิดสภาพอากาศแล้ว ยังสามารถใช้ Tailwind เพื่อเพิ่มความเร็วให้กับทีมได้ รวมทั้งโจมตีได้ด้วย Hurricane ที่จะแม่น 100% ในฝน หรือ Scald ที่จะแรงขึ้นในฝนเช่นกัน และยังลุ้นสถานะไฟเผาได้อีกด้วย   Ludicolo @ Assault Vest Ability: Swift Swim EVs: 108 HP / 252 SpA / 4 SpD / 140 Spe Modest Nature - Ice Beam - Muddy Water - Giga Drain - Fake Out ตัวโจมตีหลักประจำทีมฝนเมื่อไหร่ที่เล่นทีมฝน Ludicolo จะค่อนข้างนิยมมากเลยทีเดียว ด้วย Ability Swift Swim จะเร็วขึ้นในฝน และธาตุ Water / Grass ที่จะโจมตีใส่ตัวที่ดูดน้ำอย่าง Gastrodon ได้เป็นอย่างดี และการถือ Assault Vest จะทำให้ Ludicolo ถึกขึ้นอีกพอสมควร และสามารถโจมตีหมู่ด้วย Muddy Water รัวๆได้เลย และยังมีท่า Fake Out ไว้ขัดจังหวะในตอนเริ่มเกมได้ Darmanitan-Galar @ Choice Scarf Ability: Gorilla Tactics EVs: 4 HP / 252 Atk / 252 Spe Jolly Nature - Rock Slide - Icicle Crash - Flare Blitz - Superpower อีกหนึ่งตัวที่โจมตีได้ค่อนข้างแรงด้วย Ability Gorilla Tactics ที่จะเหมือนเราถือ Item Choice Band ไว้แต่แรก ทำให้ Darmanitan Galar โจมตีได้แรงมากๆตั้งแต่เริ่มเกม และด้วยการที่เราถือ Choice Scarf จะเพิ่มความเร็ว 1 ระดับด้วย จะทำให้กดดันฝั่งตรงข้ามได้ดีมากๆ หลักๆคือโจมตีหมู่ด้วย Rock Slide เพื่อหวังให้เป้าหมายติดชะงักได้ Durant @ Life Orb Ability: Hustle EVs: 252 Atk / 4 SpD / 252 Spe Jolly Nature - Iron Head - X-Scissor - Stomping Tantrum - Crunch Togekiss @ Babiri Berry Ability: Super Luck EVs: 244 HP / 180 Def / 20 SpA / 4 SpD / 60 Spe Modest Nature - Follow Me - Dazzling Gleam - Air Slash - Yawn คงไม่มีใครไม่รู้จัก Togekiss ในภาคนี้ เพราะได้รับความนิยมอย่างสูง โดยหน้าที่ในทีมนี้คือคอยใช้ Follow Me ในการช่วยเพิ่อน และ Yawn ใส่ตัว Dynamax ของฝั่งตรงข้าม รวมทั้งโจมตีได้เมื่อมีโอกาส เพื่อลุ้นการติด Critical ได้เช่นกัน ซึ่งอาจจะเหมาะในกรณีเจอฝั่งตรงข้ามใช้ตัวประเภท Fighting เจ้า Togekiss จะมีประโยชน์และกดดันได้ดีมาก Raichu @ Sitrus Berry Ability: Lightning...

สิ่งที่หลายๆ คนน่าจะติดขัดกันภายในเควส Just Flew in from the Graveyard นั่นคือตำแหน่งของกุญแจที่หายไปนั่นเองครับ เพราะหากเราไม่มีกุญแจจะไม่สามารถเข้าไปจัดการกับมอนสเตอร์ที่อยู่ภายในห้องด้านในได้ โดยการจะไปเก็บกุญแจได้นั้นเราจะต้องทำการเปิดสวิทต์ประตูเพื่อเปิดทางไปยังจุดพักด้านในซะก่อน โดยกุญแจจะซ่อนอยู่ในกล่องชินระหลังจากที่เราเปิดประตูได้แล้ว เลข 1 คือจุดที่มีสวิตซ์ประตูโดยกุญแจจะอยู่ในกล่องชินระหลังจากเราเข้าไปแล้ว เลข 2 คือบริเวณที่เราจะต้องเอากุญแจไปไขเพื่อเจอกับมอนสเตอร์ด้านใน บริเวณที่มีกุญแจอยู่ให้พังกล่องซะ Cerulean Drake เจ้ามอนสเตอร์ตัวนี้โดยรวมแล้วจัดการไม่ยากเท่าไหร่ครับมันจะแพ้เวทย์ลมแต่ถ้าหากว่าเรายังไม่มีใช้เวทย์อื่นๆ ยิงใส่ไปก่อนก็ได้ หลังจากจบเควสให้กลับไปหาผู้หญิงที่มอบเควสให้เราเธอจะให้รางวัลมาดังนี้ Star Bracelet ฟื้นฟูเลือดกับมานาจนเต็ม

ในตอนที่แล้วเราก็ได้แนะนำถึงสิ่งที่ควรทราบก่อนไปอยู่เกาะกันมาแล้ว คราวนี้ก็ถึงตาเพื่อนๆที่จะได้ลงไปจัดการกับเกาะของเราแล้วค่ะ เอ...แล้วไปถึงเกาะจะต้องทำอะไรบ้างนะ? เราไปดูพร้อมๆ กันดีกว่าว่าภารกิจเมื่อเครื่องบินของเราลงมาที่เกาะแล้วจะต้องทำอะไรกันบ้าง เมื่อเครื่องบินใกล้ลงจอดที่เกาะ เพื่อนๆ ก็จะได้เห็นบรรยากาศและลักษณะคร่าวๆ ของเกาะที่เราเลือกกันแล้วนะคะ ใครที่ลุ้นอยู่ว่าผลไม้ประจำเกาะของเราเป็นต้นอะไรก็จะได้เห็นผ่านจุดนี้อีกด้วย ถ้าไม่ถูกใจผลไม้ประจำเกาะแล้วละก็ … ช้าก่อน อย่าเพิ่งรีเกมใหม่นะคะ อย่างที่ได้อธิบายไปในตอนที่แล้ว เรายังสามารถไปเก็บผลไม้ที่เราอยากได้มาปลูกบนเกาะได้ค่ะ แถมขายได้ราคาดีกว่าผลไม้ประจำเกาะอีกด้วยนา พอเครื่องบินลงจอดแล้ว เราจะได้เห็นเพื่อนร่วมเดินทางหรือชาวเกาะเซ็ตแรกที่จะมาอยู่เกาะ ทั้งสองคนกับเราและ Nook Inc. ต่อจากนี้เราจะได้ควบคุมตัวละครของเราเองแล้วค่ะ ก่อนจะไปดูภารกิจ เรามาดูการควบคุมตัวละครก่อนเลยค่ะ ในตอนเริ่มแรก เราอาจจะยังไม่สามารถเปิดบางระบบได้ เพราะฉะนั้นถ้ากดแล้วยังไม่มีอะไรขึ้นมาก็ไม่ต้องตกใจนะคะ เลือกทำเลให้บ้านของเรากัน หลังจากได้ฟัง Tom Nook พูดคุยเบื้องต้นเรื่องเกาะแล้ว เราก็จะได้รับชุดเต้นท์ที่จะเป็นที่พักของเราค่ะ เพื่อนๆ อาจจะสงสัยว่ายังไม่มีเครื่องมือที่จะเคลียร์พื้นที่เลย ต้องวางเต้นท์ที่ว่างๆ เท่านั้นใช่มั้ย? ไม่จำเป็นค่ะ สำหรับการวางเต้นท์เราสามารถเดินรอบๆ เกาะเพื่อหาพื้นที่และวางเต้นท์ทับจุดที่เป็นต้นไม้ได้ค่ะ ระบบจะเคลียร์พื้นที่ให้เราเอง แต่ต้องอยู่บนพื้นหญ้านะคะยังไม่สามารถวางบ้านยื่นออกไปริมน้ำ เพื่อนๆ ที่กะจะวางแบบ Riverside อาจจะต้องพับแผนไปก่อนค่ะ ถ้าเลือกได้แล้วก็ลองวางดูก่อน โดยการกด Let me imagine it… เราก็จะเห็นภาพตัวอย่างของเต้นท์ที่จะวางได้ค่ะ ใครที่ยังไม่ค่อยชอบก็สามารถกด I need to rethink it. แล้วย้ายไปดูทำเลอื่นได้ค่ะ อัยยะ...พลาดวางเต้นท์ลงไปแล้ว แต่ไม่ชอบตรงนี้เลย ทำยังไงดี? ช่วงแรกอาจจะต้องอดทนขัดใจไปก่อนนะคะ แต่เมื่อเล่นไประดับหนึ่งแล้วเราจะสามารถย้ายที่อยู่บ้านของเรา ร้านค้า หรือบ้านชาวเกาะได้ค่ะ แต่มาพร้อมกับค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้ Tom Nook ถ้าเป็นบ้านของเราเองราคาอยู่ที่ 30,000 Bells ต่อครั้ง ถ้าเป็นร้านค้าหรือบ้านของเพื่อนชาวเกาะ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 50,000 Bells/ครั้ง/หลัง เลยทีเดียวดังนั้นเลือกที่ดีๆ นะคะ แอบกระซิบบอกว่าระหว่างนี้ เราสามารถไปช่วยเพื่อนใหม่ของเราเรื่องจุดวางเต้นท์หรือสามารถเลือกจุดวางเต้นท์ให้เพื่อนได้อีกด้วย ตัวเลือกนี้ก็มีผลกับความสัมพันธ์ของเราและเพื่อนด้วยนะคะ เปลี่ยนเต้นท์ให้เป็นบ้าน หลังจากช่วย Tom Nook ในการตั้ง Resident Service และแคมป์กองไฟและทำกิจกรรมร่วมกัน ก็ถึงเวลาที่ต้องจ่ายค่าแพคเกจการเดินทางของเรารวมค่าเต้นท์และอุปกรณ์ยังชีพและโทรศัพท์ที่เราได้รับจาก Tom Nook แหม่….มาถึงก็เป็นหนี้ก้อนโตเลย สำหรับค่าแพคเกจการเดินทางของเราในตอนแรกทอมนุ๊คจะเรียกเก็บทั้งหมด 5,000 Nook Mileage แทนการใช้ Bell เนื่องจากเรายังไม่มีเงินติดตัวมาเลยในตอนแรก ข้อดีของการจ่ายหนี้เร็วไวให้ Tom Nook คือลุงทอมจะได้เตรียมสร้างบ้านให้เราอย่างเร็วที่สุด เพราะต้องใช้เวลาในการก่อสร้างถึง 1 วันเต็มๆ ดังนั้นคืนนี้ต้องนอนเต้นท์ไปก่อนน้า จ่ายหนี้ก้อนแรกผ่านไป ก็มุ่งสู่การเป็นหนี้ก้อนต่อไปคือค่าบ้านหลังแรกของเราที่จะสะดวกสบายมากขึ้น กว้างขึ้นและสามารถจัดเก็บของไว้ในช่องเก็บของๆ บ้านได้อีกด้วย ระหว่างที่สำรวจเกาะก็อย่าลืมแวะทักทายเพื่อนใหม่ทั้งสองด้วยนะคะ เพราะเค้าอาจจะแนะนำการคราฟไอเทมดีๆ หรือแนะนำจุดที่น่าสนใจให้เราได้ Nook Mileage Program สำหรับเกม Animal Crossing: New Horizons แล้ว Nook Mileage Program เป็นเหมือนรางวัลความสำเร็จ Achievement Points ที่เราได้จากการสำรวจและทำกิจกรรมต่างๆ บนเกาะ โดยสามารถนำคะแนนไปแลกเปลี่ยนเป็นไอเทม เสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ สูตรคราฟต่างๆ สะสม Nook Miles ได้จากไหน แล้วนำไปทำอะไรได้บ้าง? คุณสามารถสะสม Nook Miles ได้จากการทำกิจกรรมต่างๆบนเกาะให้สำเร็จ ไม่ว่าจะจับแมลง ตัดไม้ ขุดแร่ ถ้าเพื่อนๆคิดไม่ออก สามารถกดดู Nook Mileage Program ได้จากแอพบนมือถือค่ะ วิธีการแลกคะแนนเป็นของรางวัล เมื่อคะแนน Nook Miles มีจำนวนมากในระดับนึงแล้ว คุณสามารถแลกคะแนนเป็นสิ่งของหรือตั๋วคูปองได้ผ่านตู้ Nook Stop ตู้สีเขียวคล้ายๆเอทีเอ็มใน Resident Services  ในทุกๆวัน เพื่อนๆอย่างลืมเข้าไปรับรางวัล Nook Miles จากตู้ Nook Stop ที่อยู่ในเต้นท์ของ Nook Inc. ฟรีวันละ 1 ครั้งด้วยนะคะ หากไปรับติดต่อกันหลายวัน รางวัลก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ  DIY Recipe และการคราฟอุปกรณ์ เมื่อเข้ามาในเต้นท์ของ Resident Services ครั้งแรก Tom Nook จะสอนการคราฟอุปกรณ์โดยใช้โต๊ะ workbench เพื่อคราฟเบ็ดตกปลาไว้เป็นอุปกรณ์ติดตัว ก่อนจะคราฟก็ต้องมีสูตร (DIY Recipe) สะก่อนค่ะ หน้าตาของสูตรก็จะเป็นการ์ดสีชมพูตรงกลางเป็นรูปลูกวอลนัท กดที่การ์ดแล้วเลือก Learn เพียงเท่านี้เราก็สามารถคราฟได้แล้ว เราสามารถดูวัสดุที่ต้องใช้ในการคราฟได้ผ่านแอพลิเคชั่นในมือถือ(กด ZL) เลื่อนนิ้วไปชี้ที่อุปกรณ์ที่เราต้องการจะคราฟ ทางด้านขวาจะมีรายละเอียดของวัสดุที่เราต้องไปหามาค่ะ หลังจากเตรียมวัสดุครบตามต้องการแล้ว เราก็เดินไปคุยที่โต๊ะ Workbench ในเต้นท์ Resident Services เพื่อทำการคราฟค่ะ เพียงเท่านี้ก็จะได้อุปกรณ์มาใช้เรียบร้อยแล้ว แล้วจะหาสูตร DIY ได้จากไหน? การตามหาสูตร DIY นั้นมีหลายวิธีค่ะ อีกทั้งยังเป็นการสุ่ม โดยที่เราอาจจะได้สูตรใหม่ๆหรือสูตรที่เรียนรู้ไปแล้วก็ได้ เก็บขวดที่ลอยมาติดเกาะ ยิงลูกโป่งของขวัญ ได้จากการทำภารกิจเนื้อเรื่องสำเร็จ ได้จากเพื่อนบ้านที่มาอยู่บนเกาะ ได้จากเทศกาล/อีเว้นท์ ซื้อที่ Timmy Tommy  อยู่ดีๆก็ได้ไอเดียขึ้นมาเอง ส่งตัวอย่างแมลง/ปลา/ฟอสซิล ให้ Tom Nook เพื่อการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์บนเกาะ หลังจากที่ได้เรียนการคราฟเบ็ดตกปลาและตาข่ายจับแมลงแล้ว พยายามตกปลาให้ได้หลายๆ ชนิดรวมถึงแมลงด้วย นำสองอย่างนี้ไปส่งให้ Tom Nook โดยเลือก I found a creature! (ฉันเจอสัตว์) ทอมจะติดต่อหาเพื่อนเก่าที่กำลังดูแลพิพิธภัณฑ์ได้ดูสัตว์ที่เรานำมาส่ง พร้อมกับแนะนำแอพลิเคชั่นชื่อ Critterpedia ไว้ให้เราสามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับสัตว์ที่เราเจอรวมถึงดูว่าเราได้บริจาคสัตว์ตัวไหนให้พิพิธภัณฑ์ไปแล้วบ้าง เมื่อส่งบริจาคจนครบ 5 ชนิดแล้ว วันรุ่งขึ้นคุณนกฮูก(Blathers) ก็จะมาตั้งแคมป์เพื่อวิจัยบนเกาะของเราค่ะ นอกจากได้เพื่อนบ้านเพิ่มขึ้นแล้ว คุณนกฮูกจะสอนวิธีการคราฟพลั่วและไม้ยาวสำหรับข้ามน้ำอีกด้วยนะ หลังจากที่คุณนกฮูกมาอยู่บนเกาะ เราก็สามารถนำสัตว์ไปบริจาคที่คุณนกฮูกได้เลยโดยตรง ซึ่งคุณนกฮูกก็ตัดสินใจที่จะตั้งพิพิธภัณฑ์ขึ้นมาบนเกาะของเราค่ะ เค้าจะขอให้เราออกสำรวจเกาะและนำแมลง, ปลา และฟอสซิลมาบริจาคให้อีก 15 ชนิด(ไม่ซ้ำกัน) สำหรับการจัดนิทรรศกาล เมื่อเราส่งบริจาคจนครบ วันรุ่งขึ้นพิพิธภัณฑ์ก็จะสร้างเสร็จพอดีค่ะ เล่นแล้วติดขัด ไม่รู้จะทำอะไร หรือไม่รู้จะต้องเดินเรื่องไปต่อตรงไหน เดินตรงไปหา Tom Nook ใช่แล้ว หากคุณเดินไปถาม Tom Nook ว่า What should I do? ลุงทอมก็จะหางานมาให้เราทำนั่นเอง ตรงส่วนนี้ถ้าเราอ่านดีๆ จะพบว่าการดำเนินเรื่องของเกมจะผ่านแต่ละขั้นตอนไปได้ โดยการพูดคุยกับ Tom Nook หากคุณเล่นๆ ไปแล้วติดขัดว่าจะต้องทำอะไรต่อหรือทำไมเพื่อนคราฟสิ่งของแปลกๆ ได้ในขณะที่คุณยังไม่พบ ให้ลองคุยและทำตามที่ลุงทอมบอกไปเรื่อยๆ เราก็จะสามารถปลดเนื้อเรื่องให้ไปต่อได้นั่นเองค่ะ หลายๆ คนถามในกรุ๊ปว่าอันนี้คราฟอย่างไร ได้จากไหน อาจจะเป็นเพราะติดตรงส่วนเนื้อเรื่องที่ยังไม่ถึงนั่นเองค่ะ แค่เพียงวันแรกก็มีภารกิจต้องทำมากมาย เพื่อนๆ คงไม่อยากเสียเวลาไปกับการคลำทางเพื่อปลดล็อคระบบใช่มั้ยละคะ หลังจากอ่านไกด์ตัวนี้แล้ว...

บทสรุป Resident Evil 3 Remake นี้จะเป็นการแนะนำเทคนิคการผ่านในแต่ละจุดจากประสบการณ์การเล่นของผมโดยจะเน้นไปที่เนื้อเรื่องเป็นหลัก หากเพื่อนๆ มีเทคนิคที่ดีกว่าก็สามารถแนะนำให้เพิ่มเติมมาได้เลยนะครับ ในบางจุดอาจจะแปลคร่าวๆ ไม่ได้แปลละเอียดนะครับ Intro Raccoon City เป็นเมืองมหานครอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ทางตอนตะวันตกกลางของสหรัฐอเมริกา Jill Valentines สมาชิกสาวหน่วย S.T.A.R.S. ได้ทำการสืบสวนความลับบางอย่างโดยที่ไม่รู้เลยว่าภายใต้ความลับนั้นจะนำมาซึ่งหายนะแก่ชีวิตของเธอ... สถานการณ์ปัจจุบันในอเมริกานั้นถือว่าวุ่นวายอย่างมาก ประชากรในประเทศก่อโกลาหลเพราะมีโรคระบาดที่ไม่สามารถควบคุมได้จนทางรัฐต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน ในขณะเดียวกันบริษัท Umbrella ก็ได้มีการทำการทดลองอาวุธชีวะภาพโดยอ้างว่าจะเป็นการนำมาซึ่งยุคสมัยใหม่ของมนุษย์... Chapter 1 Jill Valentine ตัวละครของเราจะตื่นขึ้นมาในห้องพักที่ห้อมล้อมไปด้วยข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับสิ่งที่ Umbrella Corps พยายามปกปิดเอาไว้ โดยเมื่อเราเข้าไปในห้องน้ำเราจะได้พบว่าตัวเองนั้นกำลังกลายร่างเป็นผีดิบซึ่งแท้จริงแล้วมันคือฝันของเรานั่นเอง Jill: "มันแย่ลงเรื่อยๆ" Jill พูดกับตัวเองถึงฝันร้ายที่เกิดขึ้นบ่อยขึ้นในช่วงหลังจนถึงขั้นต้องใช้ยาจำนวนมากมาช่วย เราจะได้อ่าน Note ที่ตัวเราทำการสืบสวนไว้ เอกสารชิ้นแรก โน้ตทั่วไป "26 กันยายน 1998 นี่ก็เป็นเวลากว่า 2 เดือนแล้วที่ต้องมาสืบเรื่องของ Umbrella ขอบคุณความคืบหน้าในการสืบสวนที่ไม่ได้เป็นไปอย่างใจหวัง บางทีการเขียนบันทึกว่าฉันเจออะไรมาบ้างอาจจะช่วยพิสูจน์ในฐานะของเจ้าหน้าที่หน่วย S.T.A.R.S. ... ฉันได้แค่หวังว่ามันจะช่วยนำไปสู่ความจริง T-Virus พวกคนที่ติดเชื้อด้วยไวรัสตัวนี้ดูจะกลายเป็นซอมบี้จริงๆ การติดต่อสามารถเกิดได้จากหลายช่องทาง ตามที่เขียนไว้ด้านล่างนี้: โดนพวกผู้ติดเชื้อกัด ทำให้ของเหลวในร่างกายเกิดการผสมกัน สัมผัสกับพวกอีกาที่กินพวกผู้ติดเชื้อ ติดเชื้อทางอากาศ เอกสารชิ้นถัดไปโน้ตเกี่ยวกับ Umbrella Corps เนื้อหาในโน้ตนี้สรุปได้ใจความสั้นๆ ว่าบริษัท Umbrella ใช้ฉากบังหน้าเป็นบริษัทผลิตยารักษาโรค แต่แท้จริงแล้วเป็นบริษัทที่โฟกัสการผลิตอาวุธทางด้านการทหารและมีการผลิตอาวุธชีวภาพอย่างลับๆ โดยบริษัท Umbrella นั้นเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ Mansion Incident โดยตรง และยังมีการจ่ายใต้โต้ะเพื่อใช้เมือง Raccoon City ในการทดลองอาวุธชีวภาพนี้อีกด้วย เอกสารชิ้นถัดไปทั้งสองฉบับ จดหมายส่วนตัว จดหมายนี้เป็นจดหมายที่ Jill ตั้งใจจะส่งให้เพื่อนคนสนิทนามว่า Brad Vickers สมาชิกของหน่วย S.T.A.R.S. เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เธอกำลังเผชิญอยู่ โดยเธอรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกสะกดรอยตามจากคนๆ หนึ่ง หลังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดโปงบริษัท Umbrella มากเกินไป จนถูกพักงานในตอนสุดท้าย โดย Brad ได้ส่งจดหมายผ่านคนส่งพิซซ่าเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ Jill ถูกพักงานและสิ่งที่เธอจะต้องเผชิญหลังจากนี้ หลังจากนั้นจะเป็นการเข้าห้องน้ำ ภาพเหตุการณ์เดิมจากที่เราฝันเลยครับ แต่ในครั้งนี้จะเป็นคนปกติ ไม่ได้เป็นซอมบี้แล้ว 28 กันยายน, 20:07 น. - Raccoon City เมื่อล้างหน้าล้างตาและออกจากห้องน้ำเสร็จ ก็ได้มีสายโทรเข้ามาซึ่งก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก Brad เพื่อนคนสนิทของเรา Brad: "Jill !! ธ...เธอโอเครึเปล่า !?" Jill: "Brad ? นั่นนายเหรอ?" Brad: "ฟังนะ เธอต้องรีบออกจากที่นั่น" Jill: "นายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร?" Brad: "ไม่มีเวลามาอธิบายแล้ว รีบออกจากที่นั่น เดี๋ยวนี้!!!" Jill: "เออๆ เดี๋ยวขอหยิบ..." แล้วจู่ๆ Nemesis ผีดิบยักษ์สุดบ้าพลังก็ต่อยกำแพงเข้ามา พร้อมเตะเราปลิวชนกำแพง และหยิบเราขึ้นมาและพยายามไล่ต่อยแบบไม่หยุดพัก ไม่ว่าเราจะยิงเข้าไปที่หน้าสักกี่นัดก็ไม่สะทกสะท้านมันเลยแม้แต่น้อย เราจะดิ้นและหนีออกมาจากห้องด้วยสภาพเดินกะเผลกพร้อมกับความมึนงงในใจว่า นี่มันคือตัวอะไรวะเนี่ย? การไล่ฆ่าของ Nemesis ยังไม่จบลงเพียงเท่านั้นโดยตัวเราจะหนีออกทางหน้าต่างและลงบันไดฉุกเฉินของอพาร์ทเม้นท์ เมื่อลงมาที่ชั้นล่างได้ Nemesis ก็ได้กระโดดพังพื้นลงมาหาเราพร้อมการฉุดกระชากลากถูเรา แต่เราจะสามารถคว้ามีดมาสะกัดมันได้และหนีออกมาได้ระยะหนึ่ง Nemesis จะโผล่มาอีกครั้งพร้อมโยนเรากลับเข้าไปในตึก โดยท้ายที่สุดแล้ว Jill ก็จะสามารถหนีออกมาได้อย่างฉิวเฉียด เรียกได้ว่านี่คงเป็นซีนที่ระทึกที่สุดในการเปิดเกมเลยก็ว่าได้ครับ หลังจากหนีพ้นแล้วเราจะได้เจอกับ Brad ที่ตามมาช่วยเรา Brad: "Jill!! ทางนี้" Jill: "Brad" Brad: "เธอโอเคมั้ย?" Jill: "นั่นมันตัวอะไร?" Brad: "ถ้ารู้ก็ดีสิ แต่ตอนนี้น่ะเหลือหน่วย S.T.A.R.S. ในเมืองนี้แค่สองคนแล้วล่ะ มองไปรอบๆ สิ รีบหนีเหอะ ยิ่งอยู่นานยิ่งฉิบหายแน่" Jill: "มันเกิดขึ้นได้ยังไงเนี่ย" Brad: "ผมไม่รู้ แต่สิ่งฉิบหายเพียงอย่างเดียวมักจะพาอย่างอื่นฉิบหายไปด้วย" เดินตามทางมาเรื่อยๆ เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดขึ้นมากที่สุดได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อประชากรส่วนใหญ่ในเมืองกลายเป็นผู้ติดเชื้อทั้งหมด เราจะได้เห็นฝูงซอมบี้พยายามปีนรั้วข้ามมาในระหว่างการพยายามหนีจากฝูงซอมบี้ Brad จะถูกกัดจากการยืนต้านซอมบี้ที่กำลังพังประตูเข้ามาในตึก Jill: "อย่าเพิ่งไปคิดถึงมันล่ะ เราต้องหนีไปได้ด้วยกัน" Brad: "ไม่เอาน่า เราต่างรู้ว่าเรื่องนี้มันจะจบลงยังไง" Jill: "ไม่ ฉันไม่คิดแบบนั้นหรอก !" Brad: "เรายังเป็นทีมเดียวกันอยู่รึเปล่า?" Jill: "ใช่สิ" Brad: "งั้นช่วยอะไรผมอย่างสิ อย่ามาลงเอยแบบผม ไปได้แล้ว !!" *Brad จะผลักเราออกจากประตู การรอดชีวิตของเราในครั้งนี้ทำให้เราต้องเสีย Brad เพื่อนรักของเราไป นี่จะเป็นการใช้ปืนครั้งแรกของเราโดยหลังจากนี้จะเป็นตัวเราเพียงคนเดียว แนะนำว่าลองฝึกยิงดูและรีบหนีออกมาจะดีกว่า ถัดมาเราจะได้รับการช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ที่บินอยู่เหนือเรา เฮลิคอปเตอร์: "เฮ้ คุณตรงนั้นน่ะ ไปที่หลังคาของโรงจอดรถสิ" ระหว่างทางเราจะได้เจอกับลุงแก่คนหนึ่งที่กลัวจนเสียสตินามว่า Dario Rosso โดยเราจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้หนีไปด้วยกัน แต่ลุงปฏิเสธแถมด่าเรากลับมาว่าเราพยายามที่จะแย่งที่ซ่อนตัวของลุง หลังจากเดินมาจนถึงอาคารจอดรถเราจะต้องขึ้นลิฟท์เพื่อยังดาดฟ้า แต่นั่นไม่ง่ายเลยเพราะลิฟท์ที่เปิดออกมานั้นมีซอมบี้อยู่ในนั้น ด้วยจำนวนกระสุนเพียงหยิบมือการเอาชนะซอมบี้สองตัวนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่ท้ายที่สุดแล้วหลังจากเอาชนะทั้งสองตัวได้เราก็จะสามารถขึ้นลิฟท์ได้ในที่สุดครับ เมื่อขึ้นมาถึงดาดฟ้าได้สำเร็จแล้วเราจะเจอกับเฮลิคอปเตอร์ที่จะมาช่วยเรา โดยเขาจะบอกให้เรารีบไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อหนีไป แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันกลับเกิดขึ้นเมื่อ Nemesis ได้ปรากฏตัวอีกครั้ง โดยเราจะหนีเข้าไปในรถยนต์และขับพุ่งเข้าชน Nemesis แบบเต็มกำลัง Jill: "ถึงตาฉันแล้วไอ้เวร" ในตอนแรกเหมือน Nemesis จะไม่สะทกสะท้านกับการโดนชนเลยแม้แต่น้อยเพราะมันสามารถรับแรงการชนได้แบบสบายๆ พร้อมทั้งใช้มือพุ่งทะลุกระจกมาบีบคอเรา แต่โชคยังดีที่เราจะเหยียบคันเร่งแบบเต็มกำลังเพื่อดันให้มันตกลงมาจากดาดฟ้าได้ในที่สุด ด้วยแรงกระแทกจากการตกลงมาจากตึกสูงทำให้เราบาดเจ็บอย่างหนัก ในขณะที่ Nemesis นั้นลุกขึ้นและเดินตรงมาหวังจบชีวิตเรา แต่เหมือนสวรรค์มาโปรดเมื่อมีชายปริศนาคนหนึ่งโผล่ขึ้นมาพร้อมกับอาวุธครบมืออย่างปืนยิงจรวจ ???: "ทางนี้ ไอ้หน้าส้นตี_" *ยิงจรวจใส่ Nemesis ซึ่งการโจมตีในครั้งนี้เป็นผล เพราะนิ่งไปในทันที ???: "เฮ้ ไม่เป็นไรนะแม่สาว ฉันมาช่วยแล้ว" Jill: "นายเป็นใคร นายกำลังจะทำ......" Carlos: "ผมชื่อ Carlos ฉันกำลังช่วยเธอไง มาเถอะ พาเธอไปที่ปลอดภัยก่อนดีกว่า" และ Carlos จะพาเราหนีไปในที่สุดครับ Chapter 2  หลังจากที่ Carlos หิ้วปีกเรามา ในที่สุดตอนนี้เราก็อยู่ในสถานที่สำหรับผู้อพยพแล้วล่ะครับ Carlos: "ผมว่าตอนนี้พวกเราปลอดภัยแล้วล่ะ" Jill: "หวังว่านะ" Carlos: "พวกเราพาผู้รอดชีวิตมาที่นี่" Jill: "ที่นี่คือที่ไหน?" Carlos: "คนของผมแปลงรถไฟใต้ดินบางส่วนเพื่อเป็นสถานที่อพยพ มันปลอดภัย" *จะช่วยประครอง Jill: "ไม่เป็นไร" Carlos: "โอเคคคคคคค พื้นที่ส่วนตัวล่ะนะ ไปกันเถอะ" Carlos: "โห่ ให้ตายเหอะ ใครปิดประตูนี้วะเนี่ย...

สวัสดีเพื่อนๆ ที่กำลังติดตาม Playpost นะคะ เกมไกด์ที่จะพูดถึงวันนี้คงหนีไม่พ้นเกมน่ารักๆ เล่นเพลินในช่วงเวลากักตัวตอนนี้ อย่าง Animal Crossing: New Horizons นั่นเอง!! คงมีหลายๆ คนที่เปิดเฟสบุ๊คดูในช่วงนี้แล้วรู้สึกสะดุดตา ทำไมทุกคนต่างพูดถึงเกม Animal Crossing กันจนเต็มหน้าฟีดข่าวกันเลยทีเดียว เกม Animal Crossing คืออะไรกันนะ? จริงๆแล้ว Animal Crossing เป็นเกม Simulation จากค่าย Nintendo ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2001 และก็มีการสร้างภาคต่างๆลงแพตฟอร์มตั้งแต่ Nintendo 64 เรื่อยมา จนถึงภาคล่าสุดอย่าง New Horizons บนเครื่อง Nintendo Switch ที่กำลังโด่งดังไปทั่วโลก สำหรับเพื่อนๆที่ได้ตัวเกมมาอยู่ในมือแล้ว ไม่ว่าจะซื้อแผ่นหรือดาวน์โหลดผ่าน e-shop ก็อาจจะยังงงๆว่าจะเริ่มยังไงดี วันนี้ก็จะพาเพื่อนๆไปดูสิ่งที่ควรทราบก่อนเล่นกันค่ะ เปิดเกมมา เราจะอยู่ที่หน้าเคาเตอร์เช็คอินของบริษัท Nook Inc. โดยมีน้อง Tommy (ซ้าย) และ Timmy (ขวา) รับหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพาสปอร์ตก่อนเราก่อนออกเดินทางค่ะ ในตอนนี้เราจะสามารถเลือกเพศของตัวละคร ตั้งชื่อตัวละคร ตั้งวันเกิด และแต่งตัวละครของเราได้ค่ะ *เลือกวันเกิดดีๆนะ เพราะจะเปลี่ยนแปลงทีหลังไม่ได้ เกมนี้อิงตามเวลาจริงๆ ถ้าหากคุณไม่เคยเล่นเกมในซีรีย์ Animal Crossing มาก่อนเลย ก็ต้องขอเตือนก่อนว่าเกมนี้จะอ้างอิงตามเวลาจริงๆ นับตั้งแต่ที่คุณบินออกจากสนามบินเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นการสร้างอาคาร กิจกรรมต่างๆ รวมถึงไอเทม จะต้องใช้ระยะเวลาตามโลกจริง ดังนั้นคงไม่สามารถที่จะสำเร็จทุกภารกิจได้ภายในวันเดียว เลือกเกาะจากอะไร? สำหรับ Animal Crossing: New Horizons ตัวเกมพยายามจะเรียนรู้และตั้งค่าเกมให้เข้ากันผู้เล่นเป็นอย่างมาก นั่นรวมถึงตัวเกมจะดึงเอาประเทศที่อยู่ที่เราเซ็ตเอาไว้ออกมาใช้ด้วยนั่นเอง สังเกตได้จาก Timmy และ Tommy ที่จะถามเราในตอนเลือกเกาะว่าเราอาศัยอยู่ภูมิภาคไหนในโลกจริง เพื่อแนะนำเกาะที่ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมจริงของเรามากที่สุด แต่ตัวเกมก็ไม่ได้บังคับเพราะสามารถเลือกบอก Timmy ได้ว่าเราต้องการสภาพเกาะแบบไหน เลือกแบบที่เราชอบที่สุด เพราะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนาน เกาะซีกโลกเหนือ VS เกาะซีกโลกใต้ เกาะที่เราจะไปอยู่กันในภาคนี้แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ เกาะซีกโลกเหนือ (Northern Hemisphere) และเกาะซีกโลกใต้ (Southern Hemisphere) โดยมีสิ่งที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเลยคือ ฤดูกาล ทั้งสองเกาะอยู่ตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง ดังนั้นหมายความว่าทั้งสองเกาะจะมีฤดูกาลที่ตรงกันข้ามเสมอ และนั่นก็ทำให้สัตว์ ไอเทม สภาพเกาะ และบรรยากาศที่ไม่เหมือนกัน ผลไม้ประจำเกาะก็ไม่เหมือนกันนะ หากคุณสังเกตจังหวะที่เครื่องบินของเรากำลังจะลงจอดที่เกาะ จะมีผลไม้ที่อยู่บนต้นไม้ ของคุณและเพื่อนก็ไม่เหมือนกันนะ ในตอนนี้มีทั้งหมด 6 ชนิด ดังนั้นหากเราได้ลูกพีชในตอนเริ่มเกมแปลว่าต้นไม้บนเกาะนั้นจะเป็นต้นพีชทั้งหมดนั่นเอง แอปเปิ้ล เชอร์รี่ ส้ม ลูกแพร พีช มะพร้าว แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณจะมีแค่ลูกพีชตลอดไปนะ เพราะคุณสามารถบินไปเกาะลึกลับเพื่อเก็บผลต้นไม้ชนิดอื่นกลับมาปลูกหรือให้เพื่อนที่บินมาเยี่ยมคุณหยิบติดไม้ติดมือมาด้วยก็ได้ นอกจากเราจะสามารถปลูกผลไม้อื่นได้แล้ว ราคาผลไม้ที่เราเอามาปลูกเพิ่มจะมีราคาสูงกว่าอีกด้วย ในขณะที่เกาะเราเป็นพีช เราจะสามารถขายลูกพีชได้ในราคา 100 bells เราจะสามารถขายมะพร้าวได้ในราคา 250 bells และผลไม้อื่นๆได้ในราคา 500 bells ดังนั้นอย่าลืมเตรียมพื้นที่ให้ต้นไม้อื่นๆด้วยนะ ผู้ที่ตั้งชื่อเกาะเท่านั้นที่จะดำเนินเรื่องไปต่อได้ เมื่อเราตั้งแคมป์เสร็จเรียบร้อยแล้ว Tom Nook จะเรียกเรามารวมกันที่ลานเพื่อทำกิจกรรมรอบกองไฟกัน ในตอนนี้เองที่ลุงทอมจะให้ทุกคนเสนอชื่อเกาะ **ข้อควรระวัง** คนที่ตั้งชื่อเกาะและได้รับเลือกเท่านั้น ที่จะสามารถรับเควสเพื่อดำเนินเรื่องต่อไปได้ หากคุณไม่ยอมตั้งชื่อและปล่อยให้ชาวเกาะตั้งกันเอง อาจจะทำให้เราไม่สามารถทำกิจกรรมบางอย่างได้ เช่น บริจาคสัตว์เพื่อการสร้างพิพิธภัณฑ์ คราวนี้เร่งไม่ได้ดั่งใจคิดแล้วนา สร้างอุปกรณ์ เฟอร์นิเจอร์ และของอีเว้นท์ต่างๆ ต้องมีสูตรก่อน เมื่อคุณมาถึงเกาะเราจะได้รับระบบที่เรียกว่า DIY Recipe โดยเราสามารถตามหาการ์ดสูตรได้จากหลายๆ ทาง เช่น ขวดที่ลอยมาติดบนหาดทราย กล่องของขวัญติดลูกโป่งที่ลอยไปมา ตัวละครเรียนรู้เอง หรือแม้กระทั่งซื้อการ์ดจาก shop เมื่อกดใช้การ์ด เราจะได้เรียนรู้สูตรและส่วนประกอบของชิ้นนั้น หลังจากนั้นเราก็สามารถสร้างได้แล้ว เล่นคนเดียวมันเหงา เรียกเพื่อนเรามาเล่นด้วย ถ้าหากเราเล่นคนเดียว เดินวนไปมาบนเกาะอาจจะรู้สึกเหงาๆ เปล่าเปลี่ยวและเดียวดาย... แน่นอนว่า Dev. จะไม่ปล่อยให้เราต้องเหงา เพราะเกมนี้เล่นกับเพื่อนได้ด้วยนะ เพียงคุณมีรหัส Dodo code เกาะของเพื่อน แค่นี้เราก็สามารถบินไปเยี่ยมเยือนเกาะของเพื่อนคุณได้ หรือถ้าเพื่อนไม่มี Nintendo Switch ล่ะก็ เล่นเครื่องเดียวกันเลยก็ได้นะ จุดมุ่งหมายของเกม เพื่อนๆอาจจะเห็นว่ามีกิจกรรมเยอะแยะมากมายให้เราได้ผจญภัย และเควสมากมายที่ต้องทำ นั่นเก็เพียงเพื่อปลดล็อคระบบต่างๆ ขยายบ้าน หรือเรียนรู้การสร้างสิ่งของบางอย่างเท่านั้น ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องยึดติดกับเควสไปสะหมด เพราะตัวเกมต้องการให้เรามีอิสระ เราสามารถตั้งเป้าหมายในแบบของตัวเองได้นะคะ อย่างเช่น อยากจะแต่งเกาะไปในรูปแบบไหน อยากเป็นดีไซน์เนอร์ออกแบบเสื้อผ้า DIY แล้วเชิญเพื่อนๆมาใส่เสื้อผ้าที่เราออกแบบ รวบรวมเฟอร์นิเจอร์ในธีมต่างๆให้ครบ หรือแม้กระทั่งจับแมลง/ตกปลาให้ครบทุกชนิด เพื่อนๆ ที่สนใจแต่ยังลังเลว่าจะซื้อมาเล่นดีมั้ยนะ? อาจจะพอเห็นภาพมากขึ้นค่ะ แต่ความสนุกของ Animal Crossing: New Horizons ยังไม่หมดเท่านี้หรอกนะคะ ยังมีอีกหลายอย่างที่น่าสนใจ ในตอนหน้าจะมาสอนทริคอะไรอย่าลืมติดตามกันนะคะ

ในที่สุด Animal Crossing: New Horizons ก็เข้าสู่เดือนเมษายน นั่นก็หมายถึงสัตว์ใหม่ๆที่จะเข้ามาให้จับกันในเดือนนี้นี่เองค่ะ แต่ละเดือนใน Animal Crossing: New Horizons จะมีการผลัดเปลี่ยนของสัตว์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นปลาหรือแมลงใหม่ ๆ ในเราได้จับแตกต่างกันไปตามโซนเกาะและโซนเวลา โดยที่ปลาและแมลงที่พบบนเกาะในเดือนนี้จะไม่เหมือนกับของเดือนมีนาคมที่ผ่านมาอย่างแน่นอน สำหรับหลายๆคนที่กำลังตามเก็บสัตว์ใน NookPhones Critterpedia เพื่ออุปกรณ์สีทอง (Golden tools) โดยการบริจาคเหล่าแมลงให้กับพิพิธภัณฑ์ละก็ไกด์นี้ก็จะช่วยให้เราสามารถตามจับสัตว์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งอัพเดทได้ทันค่ะ เหล่าแมลงที่มาใหม่ประจำเดือนเมษายน (เกาะเหนือ Northen Hemisphere) Agias Butterfly ช่วงเวลา: 8 AM - 5 PM ราคาขาย: 3,000 Bells Atlas Moth ช่วงเวลา: 7 PM - 4 AM ราคาขาย: 3,000 Bells Common Bluebottle ช่วงเวลา: 4 AM - 7 PM ราคาขาย: 300 Bells Darner Dragonfly ช่วงเวลา: 8 AM - 5 PM ราคาขาย: 230 Bells Flea ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: บนตัวของเพื่อนบ้าน(ใช้ Net จับ) ราคาขาย: 70 Bells Giant Water Bug ช่วงเวลา: 7 PM - 8 AM สถานที่: แม่น้ำ, บ่อน้ำ ราคาขาย: 2,000 Bells Jewel Beetle ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: บนตอไม้ ราคาขาย: 2,400 Bells Long Locust ช่วงเวลา: 8 AM - 7 PM ราคาขาย: 200 Bells Madagascan Sunset Moth ช่วงเวลา: 8 AM - 4 PM ราคาขาย: 2,500 Bells Rajah Brookes Birdwing ช่วงเวลา: 8 AM - 5 PM ราคาขาย: 2,500 Bells   ปลาที่มาใหม่ประจำเดือนเมษายน (เกาะเหนือ Northen Hemisphere) Butterfly Fish ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: ทะเล ราคาขาย: 1,000 Bells Clownfish ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: ทะเล ราคาขาย: 650 Bells Crawfish ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: บ่อน้ำ ราคาขาย: 200 Bells Guppy ช่วงเวลา: 9 AM - 4 PM สถานที่: แม่น้ำ ราคาขาย: 1,300 Bells Killifish ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: บ่อน้ำ ราคาขาย: 300 Bells Neon Tetra ช่วงเวลา: 9 AM - 4 PM สถานที่: แม่น้ำ ราคาขาย: 500 Bells Sea House ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: ทะเล ราคาขาย: 1,100 Bells Snapping Turtle ช่วงเวลา: 9 PM - 4 AM สถานที่: แม่น้ำ ราคาขาย: 5,000 Bells Surgeonfish ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: ทะเล ราคาขาย: 5,000 Bells Zebra Turkeyfish ช่วงเวลา: ตลอดทั้งวัน สถานที่: ทะเล ราคาขาย: 500 Bells

บทสรุป DOOM Eternal นี้จะเป็นการแนะนำวิธีเล่น เทคนิคการผ่านในแต่ละจุดจากประสบการณ์การเล่นของผม โดยจะเน้นไปที่เนื้อเรื่องเป็นหลัก ซึ่งหากเพื่อนๆ มีเทคนิคที่ดีกว่าก็สามารถแนะนำให้เพิ่มเติมมาได้เลยนะครับ DOOM ซีรีย์เกมยิงถล่มปีศาจสุดระห่ำได้กลับมาสร้างชื่อในวงการเกมเดินหน้ายิงถล่มมหาประลัย เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ด้วยการชุบชีวิตซีรีย์เกม FPS ถล่มปีศาจด้วยดนตรีประกอบเฮวี่เมทัล โดยในภาคนี้ DOOM Eternal ได้กลับมาด้วยความมันส์ที่มากกว่าเดิม และครบเครื่องยิ่งขึ้น พร้อมแล้วเราไปลุยกันเลยครับ !! Intro King Novik: "ในการต่อกรกับเหล่าปีศาจและความชั่วร้ายที่ถูกสร้างขึ้นโดยมนุษยชาติ... เราจะลบล้างพวกมัน... แค่คุณเท่านั้น... ฆ่าพวกมัน... จนกว่าจะหมดสิ้น" โลกมนุษย์กำลังถูกรุกรานโดยบางอย่าง มันกำลังกัดกินและทำลายมวลมนุษยชาติ... #เสียงความทรมานจากมนุษย์ผู้เหลือรอดบนโลกที่กำลังล่มสลาย หมอดูบนถนน: "...เราต้องภาวสหาย.... ภาวนาให้เขาผู้นั้นมองอยู่..." ผู้รอดชีวิตบนโลก: "...ได้โปรด ใครก็ได้... ถ้าได้ยินเสียงฉัน ถ้าคุณอยู่ข้างนอกนั่น..." นักข่าว: "...60% ของโลกเราถูกกัดกินโดยพวกผู้บุกรุกแล้ว..." CHAPTER 1 เราจะเกิดมาในห้องที่มีซอมบี้อยู่ประมาณ 3-4 ตัว ยิงพวกมันให้หมดเพื่อเปิดประตู VEGA: " ผมได้แสดงพิกัดตำแหน่งที่ตั้งของสัญญาณของนักบวชนรกแล้ว ผมจะแปะไว้ให้บน HUD นะ" ไปตามทางสักพักก็จะเจอกับหุ่นดรอย Weapon Mod Selection ที่ไว้ใช้อัพเกรดปืน Sticky Boms - เมื่อกดเมาส์ 2 จะทำให้ลูกซองของเรากลายเป็นปืนยิงระเบิด สามารถยิง Sticky Bomb ได้ 5 ลูก Full Auto - เมื่อกดเมาส์ 2 จะเปลี่ยนลูกซองเป็นปืนยิงออโต้ เมื่อเราอัพเกรดปืนเสร็จแล้ว ห้องถัดมาจะเป็นห้องโถงใหญ่ๆ ในห้องนี้เราจะได้เจอยูนิตโจมตีไกลได้ด้วย สิ่งที่ต้องทำในห้องนี้คือฆ่าศัตรูไปเรื่อยๆ จนขึ้น checkpoint ก็จะสามารถไปต่อได้ครับ ถัดมาเราจะได้เข้าไปในห้องๆ หนึ่ง ซึ่งภายในห้องเราจะได้เจอกับ Deag Nilox หนึ่งในนักบวชในนรก (Hell Priests) Deag Nilox: " เจ้า !! " Deag Nilox: " วิญญาณของข้ายังคงได้รับการปกป้องอยู่ เจ้าไม่อาจ... *สำลัก" *ตัวเราไม่รอช้าเด็ดหัว Deag Nilox ออกมาทันที หลังจากนั้นตัวเราจะโดดออกมาจากอาคารที่เคยเป็นที่อยู่ของหนึ่งในนักบวชนรก VEGA: "นักบวชนรกตัวแรกได้ถูกทำลายแล้ว การถูกกลืนของโลกโดยปีศาจลดลง 36.8% เหลือนักบวชนรกอีก 2 ตัว" ระหว่างนี้ก็เดินตามทางมาเรื่อยๆ ครับ อย่าลืมเก็บพวกใบกระดาษที่ลอยอยู่ด้วยนะ เพราะมันจะช่วยปลดล็อค CODEX ทำให้เรารู้เนื้อเรื่อง และข้อมูลของศัตรูด้วย !! เราจะได้เจอกับ Arachnotron ปีศาจคล้ายแมงมุมหน้าตาเป็นสมองคน โดยเจ้าแมงมุมตัวนี้เป็นมอนสเตอร์ตีไกล (ยิงปืนได้) ซึ่งวิธีปราบนั้นค่อนข้างง่ายครับ เพราะแมงมุมอัปลักษณ์นี่มีจุดอ่อนที่ป้อมปืนที่ตั้งโดดๆ อยู่บนหัวของมัน หากยิงทิ้งแล้วก็จะทำให้มันโจมตีไกลไม่ได้อีกต่อไป ภายในสถานีรถไฟ เราจะได้เจอกับปีศาจจำนวนหนึ่ง มีเสริมความยากเล็กๆ ให้หลบลูกไฟ แต่ไม่ยากเกินแน่นอนครับ ผ่านได้สบายๆ เราจะได้ปลดล็อค Frag Grenade ภายในรถไฟด้วย !! จากนั้นให้เรากระโดดข้ามตึกมา เราจะได้บู๊แหลกอีกรอบ และในครั้งนี้เราจะต้องเจอกับ Cacodemon ปีศาจประเภทโจมตีระยะใกล้ด้วยการกัด รูปร่างเหมือนก้อนลูกชิ้น ส่วนวิธีการฆ่านั้นไม่ยากเช่นกันครับ โยน/ยิงระเบิดยัดปากมันเลย !!  หลังจากจัดการศัตรูในตึกหมดแล้ว ให้เราออกเดินทางต่อโดยเราจะต้องออกจากตึกและกระโดดปีนป่ายเพื่อมายังตึกอีกฟากหนึ่งซึ่งเป็นสถานีรถไฟเหมือนกันอ่ะแหละ ภายในตึกนี้จะได้เจอกับมอนเตอร์ตัวใหม่อย่าง Tentacle หรือหนวดปลาหมึกนั่นเอง ตัวนี้กระจอกพอๆ กับพวกซอมบี้เลย แต่ถ้าไม่ทันมองก็อาจจะต้องระวังเล็กน้อยครับ เพราะตีแรงอยู่นะ แต่ฆ่าง่ายสบายๆ หลังจากนั้นให้เดินตามทางมาเรื่อยๆ เลย พอสู้มาได้ระยะหนึ่ง VEGA จะมีแจ้งเตือนเรามาว่า VEGA:  "Khan Maykr อยู่ใกล้ๆ เธออยู่ในป้อมปราการปีศาจ (วาร์ปนั้นแหละ) เดี๋ยวผมจะมาร์คตำแหน่งเธอให้ใน HUD ของคุณนะ" *เมื่อเข้าประตูวาร์ปมาแล้ว เราจะเจอกับประตูบานใหญ่ของป้อมปราการเดินลุยเข้าไปโลด โดยระหว่างนี้ VEGA ก็พูดไปด้วย VEGA: "จุดรวมตัวของนักบวชนรกตั้งอยู่ข้างบนจุดที่คุณอยู่ จากผลการสแกนพื้นที่มันบอกว่ามีลิฟท์อยู่ใจกลางของสถานที่นั้น" ไปที่แท่นตรงกลาง กดลิฟท์รูปหัวกระโหลก จะเป็นการพาเราขึ้นไปหา Khan Maykr ครับ VEGA: "Khan Maykr ได้เข้าร่วมประชุมนี้ด้วย แต่เมื่อเธออยู่นอกพื้นที่ของเธอ เธอจะไม่สามารถถูกทำลายลงได้" เมื่อเราขึ้นลิฟท์มาจนถึงชั้นบน เราจะพบกับสองนักบวชนรก Deag Ranak และ Deag Grav Deag Ranak: "ม... มันเป็นไปได้ยังไง? ไม่มีใครสามารถผ่านประตูมาได้ ! มันเป็น..." //โยนหัวของ Deag Nilox นักบวชนรกตัวแรกที่เราเด็ดหัวมา Deag Grav: "โอ้....... (โอดครวญ) นี่ไม่ได้หยุดอะไรเลย !" Deag Ranak: "การสาบานของโลกใบนี้แก่ Khan Maykr ยังคงดำเนินอยู่, และพลังงานจะถูกฟื้นฟู... อย่างที่ถูกจารึกไว้ จากวิญญาณของพวกที่ไม่เชื่อยังไงล่ะ !!" Deag Ranak: "เจ้าจะไม่สามารถช่วยพวกมันจากการตัดสิน !" หลังจากสองนักบวชนรกพล่ามถึงความสูญสลายเสร็จ Khan Maykr ก็ได้ปรากฏตัวออกมา Khan Maykr: "เจ้ามาไกลเกินไปในครั้งนี้... เจ้ายุ่งไม่ได้... นี่คือโอกาสของมนุษยชาติที่จะได้กลับใจ เพื่อที่จะได้รับใช้เรา" Khan Maykr: "เจ้าไม่อาจต่อต้านความปราถนาของ Khan Maykr ได้" *ตัวเราเดินหนีพร้อมให้ VEGA เปิดวาร์ป Khan Maykr: "... มันเคยเป็นเจ้า ผู้ที่เคยเป็นผู้บังคับ" CHAPTER 1.5 ประตูวาร์ปที่เราเข้ามาหลังจากได้พบกับ Khan Maykr คือประตูวาร์ปที่ทำให้เรากลับขึ้นมาบนยาน เราจะสามารถปรับแต่งอุปกรณ์ อัพโน่นนี่นั่น ได้บนนี้ หลังจากปรับแต่งจนพอใจแล้ว เข้าวาร์ปเพื่อไปยังฉากต่อไปได้เลยซึ่งหลังจากนี้ผมจะขอไม่พูดถึงฉากบนยานเลยนะครับ ลุยเนื้อเรื่องกันยาวๆ CHAPTER 2 เราถูกวาร์ปมายัง Exultia เพื่อมาตามหาชิ้นส่วนที่หายไป โดยเมื่อเราวาร์ปมาแล้ว แน่นอนว่าเป็นการกระโดดไปฝั่งตรงข้าม แต่ช้าก่อน !! เพราะถ้าไม่เช็คแผนที่ดูก่อน อาจจะเสีย Extra Life ไปเลยฟรีๆ !!  Extra Life นี้อยู่ด้านใต้ของเราเลยครับ วิธีการไปก็คือให้กระโดดไปเกาะกำแพงด้านขวาแล้วหันกลับมาก็จะเจอนั่นเอง โดยในการเดินทางครั้งนี้เราจะได้เจอมอนสเตอร์ใหม่อย่าง Gargoyle ปีศาจขนาดเล็ก มีปีกเหมือนค้างคาว ไม่ต้องไปกลัว สอยไปเลยครับไม่ยากนอกจากนี้ยังไม่พอ มาพร้อมกับ Hell Knight ปีศาจขนาดใหญ่บ้าพลัง โจมตีด้วยการต่อยและกระโดดทุบ ขอแนะนำวิธีสู้กับ...

ออกนอกบ้านก็อันตราย เสี่ยงติด Covid-19 ดังนั้น วันนี้เราจะมาแนะนำ 10 เกมสำหรับช่วงกักกันตัวอยู่ในบ้านกันครับ !! A Plague Tale:  Innocence ออกผจญภัยเอาตัวรอดในโลกแฟนตาซีอันแสนมืดมนกับ Amicia และน้องชายของเธอ Hugo, เรื่องราวจะเกิดในช่วงปี 1349 ได้มีโรคระบาดแพร่กระจายอยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ฝรั่งเศษ เราจะต้องออกค้นหาถึงสาเหตุและเรื่องราวของโรคนี้ เตือนก่อนว่าเกมนี้เป็นเกมที่สร้างความหดหู่ ความกดดัน ไม่ต่างจากหนังดราม่าเรื่องหนึ่งเลย ดังนั้นเตรียมใจให้ดีก่อนเล่นนะ !! แพลทฟอร์มที่รองรับ: PC, PS4 และ Xbox Tom Clancy's The Division 2  เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินกับชื่อนี้กันมาบ้างแล้ว เกมนี้จะเป็นเกม Multiplayer โดยเหตุการณ์ในภาคนี้จะเกิดขึ้นหลังจากภาคแรก 7 เดือน เราจะได้รับบทเป็นนายทหารของหน่วย Division ที่โดนส่งไปป้องกัน และฟื้นฟู Washington D.C. จากกลุ่มศัตรู บอกเลยว่าเกมนี้มันส์มาก !! แพลทฟอร์มที่รองรับ: PC, PS4 และ Xbox Spider-Man: Web of Shadows ในช่วงกระแสเชื้อไวรัสแพร่ระบาดนี้ เรามาย้อนวันวานรับบทเป็น ไอ้แมงมุม สไปเดอร์แมน กันดีกว่าครับ โดยในภาคนี้จะไม่ใช่การรับบทซุปเปอร์ฮีโร่ปราบเหล่าร้ายธรรมดา เพราะยังมีเจ้า Venom ปรสิตที่ยังเข้ามามีบทบาทสำคัญในเรื่องอีกด้วย แพลทฟอร์มที่รองรับ: PS3, Xbox 360, PS2, Wii, PSP, Nintendo DS, และ PC Bloodborne ไม่ว่างจริง เล่นไม่ได้ ! เราจะต้องรับบทเป็นตัวละครที่ป่วยด้วยอาการที่รักษาไม่ได้ และได้ไปทำการรักษาที่เมือง Yharnam เมืองที่รักษาได้ทุกโรค แต่ต้องแลกมาด้วยการทำสัญญาว่าจะเป็น Hunter เพื่อปราบเหล่าอสูรกาย ซึ่งบอกเลยว่าเกมนี้มีความยากเป็นอันดับต้นๆ เชื่อว่ากว่าจะเล่นจบคงใช้เวลามากกว่า 1 วันอย่างแน่นอน หากนึกภาพไม่ออก ให้ลองนึกภาพของ Dark Souls และ Sekiro: Shadows Die Twice ดูครับผม แพลทฟอร์มที่รองรับ: PS4 Fallout 3 จะเป็นอย่างไรหากโลกได้ล่มสลายไปด้วยระเบิดนิวเคลียและเราคือผู้เหลือรอดท่ามกลางสัตว์ประหลาดกลายพันธุ์ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตัวเกมเป็นเกมแนว FPS ยิงกระหน่ำ เอาตัวรอด แก้ Puzzle และ เสพเนื้อเรื่อง บอกเลยว่าเกมนี้ไม่ธรรมดา เกมเพลย์นับว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่สำคัญระบบชุดเกราะเป็นอะไรที่ว้าวมาก คิดซะว่าได้เป็นไอร่อนแมนเลยก็ได้ !! แพลทฟอร์มที่รองรับ: Xbox 360, Xbox One, PS3, และ PC Resident Evil 2 แน่นอนว่าในช่วงการแพร่ของโรคระบาด ซอมบี้ เป็นอีกหนึ่งอย่างที่เรามักจะนึกถึงอย่างแน่นอน สำหรับซีรีย์ Resident Evil ซึ่งเป็นเกมเกี่ยวกับการกำจัดซอมบี้ และทำภารกิจ ไขปริศนา และเสพเนื้อเรื่องสุดเร้าใจ โดยในภาคนี้เป็นภาคที่ยังคงความคลาสสิก ไม่บู๊มากจนเกินไป และโดดเด่นด้านการไขปริศนานั่นเองครับ แพลทฟอร์มที่รองรับ: PC, PS4, และ Xbox One Dishonored 2 ในภาคนี้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากการล่มสลายของ Lord Regent ซึ่งได้มีการแต่งตั้ง Emily Kaldwin เป็นจักรพรรดินี แต่จู่ๆ ความสงบสุขก็จบลง เมื่อ Duke แห่ง Serkonos ได้ก่อกบฏและยึดอำนาจไป จึงทำให้เราต้องหาทางทวงบัลลังก์อันยิ่งใหญ่นี้กลับคืนมาครับ โดยส่วนของตัวเกม จะเป็นเกมแนว FPS ที่มีภาพแฟนตาซี เน้นการสู้ด้วยเวทย์มนต์นั่นเอง แพลทฟอร์มที่รองรับ: PC, PS4, และ Xbox One Vampyr เราจะได้รับบทเป็น Dr.Jonathan Reid หมอยอดฝีมือที่ได้เดินทางมายังกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษเพื่อมารักษาผู้ป่วยไข้หวัดสเปนที่กำลังระบาดในเมือง แต่แล้วกลับต้องเจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันทำให้เขากลายเป็นแวมไพร์ ร่วมออกตามหาปริศนาถึงสาเหตุและต้นตอกับ Dr.Jonathan ได้ในเกมนี้ได้เลย โดยมุมมองภาพในเกมนี้จะเป็นมุมมองบุคคลที่ 3 รูปแบบการต่อสู้จะเป็นแนวการฟาดด้วยสิ่งของควบคู่ไปกับการใช้เวทย์มนต์ครับผม แพลทฟอร์มที่รองรับ: PC, PS4, Xbox One, Switch Two Point Hospital เกมสร้างโรงพยาบาลสุดหรรษา หากคุณเป็นคนชอบบ่นว่า "ทำไม โรงพยาบาลไม่ทำแบบนั้น" นี่คือโอกาสทองของคุณ เพราะคุณจะได้รับบทเป็นเจ้าของโรงพยาบาลที่ต้องดูแลคนไข้ ทั้งรักษาโรค ดูแลสภาพจิตใจ และยังต้องปราบสิ่งลี้ลับอีกด้วย เกมนี้เป็นเกมที่น่ารักสุดๆ บอกเลยว่าใครเป็นแฟนเกมแนว Tycoon จะต้องรักเกมนี้อย่างแน่นอน แพลทฟอร์มที่รองรับ: PC, PS4, Xbox One, Switch Plague Inc. สุดท้ายก็คงหนีไม่พ้น Plague Inc. เกมที่ภารกิจหลักของเราคือการแพร่โรคระบาด !! เราจะได้จำลองการแพร่ระบาดของโรคร้าย ซึ่งจะทำให้เราเห็นถึง การตื่นตัวหรือตอบสนองต่อเหตุการณ์นั้นๆ ของมนุษย์ ด้วยด้วยทรัพยากรประเทศที่แตกต่างกันในแต่ละประเทศ ทำให้การป้องกัน หรือการจัดการกับโรคต่างๆ นั้นจะแตกต่างกันออกไป บอกเลยว่าใครที่อินกับ สถานการณ์ Covid-19 ลองเล่นดูแล้วจะหลงรักครับ !! แพลทฟอร์มที่รองรับ: PC, PS4, Xbox One, Switch, Android, iOS, และ Mac RESIDENT EVIL 2_20190120140445

มวยคู่เอกของปี 2020 คงหนีไม่พ้นกับการชนกันระหว่าง PlayStation 5 และ Xbox Series X อย่างแน่นอน หลังจากมีการประกาศสเปคของทั้งคู่แล้ว เรามาวิเคราะห์กันดีกว่าครับ ใครเจ๋งกว่าใครในแมทช์นี้ สเปคของ Xbox Series X CPU: 8x Zen 2 Cores at 3.8GHz (3.6GHz with SMT) GPU: 12 TFLOPs, 52 CUs at 1.825GHz, Custom RDNA 2 Die Size: 360.45mm2 Process: TSMC 7nm Enhanced Memory: 16GB GDDR6 Memory Bandwidth: 10GB at 560GB/s, 6GB at 336GB/s Internal Storage: 1TB Custom NVMe SSD IO Throughput: 2.4GB/s (Raw), 4.8GB/s (Compressed) Expandable Storage: 1TB Expansion Card External Storage: USB 3.2 HDD Support Optical Drive: 4K UHD Blu-ray Drive Performance Target: 4K at 60fps - up to 120fps สเปคของ PlayStation 5 CPU: 8x Zen 2 Cores at 3.5GHz (variable frequency) GPU: 10.28 TFLOPs, 36 CUs at 2.23GHz (variable frequency) GPU Architecture: Custom RDNA 2 Memory/Interface: 16GB GDDR6/256-bit Memory Bandwidth: 448GB/s Internal Storage: Custom 825GB SSD IO Throughput: 5.5GB/s (Raw), Typical 8-9GB/s (Compressed) Expandable Storage: NVMe SSD Slot External Storage: USB HDD Support Optical Drive: 4K UHD Blu-ray Drive สรุปแล้วใครดีกว่าใคร? ส่วนตัวเท่าที่ลองดูสเปค ผมขอจำแนกออกมาเป็นหัวข้อสำคัญๆ แค่ 3 หัวข้อ ดังนี้ครับ CPU ต้องยอมรับว่า Xbox Series X นั้นทำออกมาได้สูงกว่า PlayStation 5 อยู่นิดหน่อยครับ ส่วนตัวผมคิดว่าส่วนต่างตรงนี้อาจจะมีผลแค่นิดหน่อยเท่านั้น เพราะ CPU Zen2 นี่ไม่ใช่กระจอกๆ เลย แต่ถึงผมจะคิดอย่างนั้น ก็ต้องยอมรับว่า CPU ของ Xbox แรงกว่าครับ สรุป: Xbox Series X ชนะ (1-0) GPU ดูเหมือนว่า XBox Series X น่าจะรันเกมที่มีความละเอียดภาพสูง ได้ในเฟรมเรทที่สูงกว่าครับ เพราะมีจำนวนหัวที่มากกว่า แต่นั่นไม่ได้แปลว่า PlayStation 5 จะห่วยนะครับ ถึงแม้จะมีจำนวนหัวที่น้อยกว่า แต่การที่ความแรงของแต่ละหัวสูงกว่าอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นกำลังในการทำงานของ PlayStation 5 ต้องสามารถทำออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นเดียวกันอย่างแน่นอนเลยครับ สรุป: Xbox Series X ชนะ (2-0) Data Throughput อ่านมาถึงตรงนี้ แฟนๆ PS5 อาจจะคอตกกันไปแล้ว แต่อย่าเพิ่งหมดหวังไปครับ เพราะจุดแข็งที่ทำให้ PlayStation 5 ไม่ได้แพ้ขาดลอยในศึกนี้นั่นก็คือ การที่ PS5 ใช้เทคโนโลยีแบบใหม่ในการส่งข้อมูลซึ่งสามารถทำได้สูงถึง 5.5GB/s ในขณะที่ Xbox Series X ทำได้เพียงแค่ 2.4GB/s ซึ่งน้อยกว่าเกือบครึ่ง สรุปว่า PS5 สามารถที่จะส่งข้อมูลได้เร็วกว่า Xbox Series X นั่นทำให้ในเครื่อง PS5 แทบจะไม่ต้องรอโหลดข้อมูลเกมเลยนั่นเอง  สรุป: PlayStation 5 ชนะ (2-1) สรุป โดยสรุปแล้ว หากเทียบกันหมัดต่อหมัดภาพรวมสเปคของ Xbox Series X ถือว่าทำออกมาได้ดูดีกว่าเล็กน้อย แต่เทียบกันแล้ว แม้ว่า PS5 จะแพ้ไปในศึกนี้ แต่นั่นไม่ได้แปลว่ามันแย่กว่าเลย เพราะอย่างที่กล่าวไปข้างต้น Data Throughput ที่สูงกว่าเกือบครึ่งนั้นสำคัญกว่าสิ่งที่ Xbox Series X ชนะไปซะอีก  นอกจากนี้ขอเพิ่มให้อีกนิดว่าตัวเครื่อง PS5 จะยังรองรับการเชื่อมต่อจาก HDD จากภายนอกได้เหมือนเคย และมาพร้อมกับ Blu-Ray Drive แบบใหม่ที่รองรับ UHD 4K ตามความต้องการของแฟนๆ และพร้อมกับประกาศว่าเครื่อง PS5 จะมีระบบ Backward Compatibility ซึ่งสามารถเล่นเกมของเครื่อง PS4 ได้ในโหมด Legacy นั่นเอง ดังนั้นใครจะเจ๋งกว่าใคร คงวัดกันที่สเปคกันอย่างเดียวไม่ได้แล้วล่ะครับ PS5 อาจจะแพ้ในเรื่องสเปคฮาร์ดแวร์ แต่ส่วนตัวแล้วผมกลับรู้สึกว่าชนะขาดในเรื่องของซอฟท์แวร์เลยล่ะ

การเลือกใช้ Perks ในเกม Call of Duty: Warzone ถือว่าเป็นการสร้างความได้เปรียบในการเล่นอย่างมหาศาล วันนี้เราจะมาช่วยให้เพื่อนๆ เข้าใจถึง Perks แต่ละอันกันครับ !! ในเกม Call of Duty: Warzone นั้น Perks จะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ประเภท ฟ้า แดง และ เหลือง ครับ สีฟ้า Double Time - เพิ่มระยะเวลาของ Tactical Sprint เป็นสองเท่า, เพิ่มความเร็วเคลื่อนที่ในการนั่งยอง 30%. E.O.D. - ได้รับความเสียหายจากระเบิดและไฟน้อยลง, เมื่อเก็บระเบิดที่พื้น สลักจะเริ่มนับเวลาถอยหลังใหม่ Scavenger - เก็บกระสุนปืนจากศพผู้เล่น และได้มีด Throwing Knives มาด้วย Cold-Blooded - ทำให้เราไม่ถูกมองเห็นจากระบบล็อคเป้า AI, ไม่ขึ้นแจ้งเตือน High Alert, ยังถูกมองเห็นจาก Recon Drones แต่ไม่สามารถถูกมาร์คได้ Kill Chain -  เพิ่มโอกาสได้รับ Killstreak ในกล่อง Supply Box Quick Fix - หากฆ่าศัตรูสำเร็จ เลือดจะเริ่มฟื้นฟูในทันที สีแดง Restock:  Recharge อุปกรณ์ติดตัวใหม่ ในเวลา 50 วินาที สำหรับ Throwing Knives จะได้เพิ่มอีก 1 เล่ม และระเบิด Decoy กับ Stim จะใช้เวลาชาร์จใหม่เร็วกว่าเดิมสองเท่า Hardline: ที่ Buy-on Station ราคาของ Killstreak, Field Upgrade และ Armour Plate จะถูกลง 25% Overkill: ถือปืนหลักได้สองอัน แต่ไม่สามารถถือปืนชนิดเดียวกัน และปืนรองได้ High Alert: ได้รับการแจ้งเตือนเมื่อศัตรูที่อยู่นอกสายตาเรามองเห็นเรา ใน Multiplayer จะเห็นศัตรูที่ควบคุม Chopper Gunners, Wheelsons, IAVs, และ APCs Ghost: ไม่สามารถถูกตรวจจับด้วย UAV, Radar Drone หรือ Heartbeat Sensor ได้ แต่จะยังคงขึ้นเป็นจุดใน Radar หากมียิงลั่นไก และยังคงถูกตรวจจับได้ด้วย Advanced UAV แต่จะไม่ขึ้นทิศทาง Pointman: สมาชิกในทีมจะได้รับเงินเพิ่มมากขั้นเมื่อทำภารกิจสำเร็จ ใน Multiplayer: เปลี่ยนจาก Killstreaks เป็นแต้ม scorestreaks สีเหลือง Tune Up: ลดระยะเวลาในการชาร์จ field upgrades 40%, ในโหมด Warzone: ชุบชีวิตเพื่อนได้เร็วขึ้น 25% Amped: สลับเปลี่ยนอาวุธได้เร็วขึ้น รีโหลดอาวุธประเภท Rocket Launcher ได้ไวขึ้น แต่ไม่มีผลกับอาวุธประเภทปืนพกกับมีด รวมไปถึงอุปกรณ์ต่าง ๆ จะใช้งานได้เร็วขึ้นด้วย Shrapnel: เกิดมาพร้อมกับระเบิดหนึ่งลูก แลพดาเมจระเบิดจะทำให้เลือดของศัตรูฟื้นฟูช้าลง 3 วินาที Battle Hardened: ลดประสิทธิภาพของระเบิดแฟลช, Stun, EMP และแก็สพิษ จากศัตรู, ไม่รับผลจากระเบิด Snapshot Spotter: มองเห็นระเบิดหรือ Field Upgrade ของศัตรูที่อยู่ในพื้นที่แบบทะลุกำแพง เช่น สามารถเล็งปืนเพื่อบอกเพื่อนร่วมทีมได้ว่ามีระเบิดอยู่ตรงนั้นได้ Tracker: สามารถเห็นรอยเท้าของศัตรูที่เพิ่งเดินผ่านในบริเวณนั้นได้ Perks ที่น่าสนใจ Overkill - หนึ่งใน Perks สีแดงที่ดีที่สุด การถือปืนหลักได้สองปืนเป็นอะไรที่สร้างความได้เปรียบอย่างมาก เพราะสามารถถือปืนระยะ ใกล้-กลาง ควบคู่ไปกับ กลาง-ไกล ได้ จะระยะไหนก็หายห่วง ! Ghost - แน่นอนว่า Perks นี้ช่วยเรื่องการเอาตัวรอดและการลอบสังหารได้อย่างมาก เพราะจะไม่ถูกตรวจจับจากอุปกรณ์ทั่วไปเลย หากเนียนมากพอ รับรอง Kill กระจาย High Alert -  หากเรากำลังโดนเล็งจากสไนเปอร์ที่ซุ่มอยู่ perks นี้ช่วยได้อย่างมหาศาลเลยล่ะ บอกเลยว่าสมาชิกในตี้ ควรพกไว้อย่างน้อยคนนึง เพราะมีประโยชน์พอสมควร Cold-Blooded - เช่นเดียวกันกับ Ghost, แต่เป็นสายสีฟ้าแทน จัดเป็นหนึ่งใน Perks สีฟ้าที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ E.O.D. - การรับความเสียหายจากระเบิดและไฟน้อยลง เป็นอะไรที่จะช่วยเปลี่ยนวิธีในการเข้าทำของเราได้พอสมควร เพราะหากเราไม่กลัวการสะกัดของระเบิด หรือไฟ แล้วอะไรจะหยุดเราล่ะ? Tune Up - หากตี้คุณเป็นสายปะทะ คงหนีไม่พ้น perks การดึงเพื่อนนี้อย่างแน่นอน อันนี้ดี !! Tracker - สุดท้าย น่าจะเป็น Perks ที่ใช้งานได้ทุกสถานการณ์ของจริงมากที่สุด ในบรรดาสีเหลืองทั้งหมด เพราะช่วยให้เราล่าผู้เล่นคนอื่นได้ง่ายขึ้นพอสมควรเลย COMBO PERKS หากคุณกำลังงงๆ เลือกไม่ถูก เราเลือกมาให้แล้ว ! ก็อปไปเอาตามเหมาะสมและความถนัดได้เลย !! Cold-Blooded x Overkill x Amped คอมโบแรมโบ้มหากาฬ  การถือปืนหลักสองอัน แน่นอนว่าแค่เลือกมาก็แปลว่าคุณต้องเน้นการปะทะอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นเราขอเสริมความเทพด้วย Amped เพื่อเพิ่มความเร็วในการสลับเปลี่ยนปืนไปมา ทำให้การยิงของคุณไม่มีติดขัด อีกทั้งนำ Cold-Blooded มาเสริมทัพ ช่วยสร้างความเอาตัวรอด และการลอบสังหารได้อย่างดี ถือว่าครบเครื่องเรื่องการบู๊สุดๆ Cold-Blooded x Ghost x Tune Up คอมโบนินจาซับสายชุบ ในการเลือกใช้ Cold-Blooded x Ghost จะทำให้เราไม่ถูก ระบบล็อคเป้า AI, ไม่ขึ้นแจ้งเตือน High Alert, UAV, Radar...