Diablo Immortal เกมมือถือตัวใหม่จากแฟรนไชส์ Diablo ที่เปิดตัวมาอย่างกว่าหลายปีล่าสุดทางตัวเกมก็ได้เปิดให้บริการในเซิร์ฟเวอร์ Global กันแล้ว โดยในวันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเพราะอะไร ทำไมเราจึงไม่ควรพลาดเกมนี้กัน
เกมนี้คือเกมอะไร?
Diablo Immortal เป็นผลงานเกมมือถือซึ่งพัฒนาขึ้นโดยทางสตูดิโอ Blizzard ซึ่งทางค่ายได้นำเอาผลงานเกมระดับตำนานอย่าง Diablo มาทำเนื้อหาภาคแยกแทน ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแพลตฟอร์มมาลงในมือถือสมาร์ทโฟนแต่ระบบเกมเพลย์และประสบการณ์ต่างๆ ตัวเกมก็ยังใส่ไว้ครบถ้วนไม่เปลี่ยนแปลงเลยทีเดียว แถมที่สำคัญตัวเกมยังมาในรูปแบบ Free to Play ที่สามารถเข้าถึงกันได้ทุกคนอีกด้วย
โดยปัจจุบันตัวเกม Diablo Immortal ก็ได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้วในฝั่งโซน Global ทั้ง อังกฤษ, อเมริกา, ญี่ปุ่น, เกาหลี และประเทศอื่นๆ (ยกเว้นเบลเยี่ยม และ เนเธอร์แลนด์) ซึ่งได้มีการลงให้กับทั้งแพลตฟอร์มของ IOS, Android รวมทั้ง PC แถมยังรองรับระบบ Cross Play หรือการเล่นข้ามแพลตฟอร์มอีกด้วยนั่นเองครับ ส่วนฝั่งบ้านเรา SEA นั้นจะยังไม่สามารถเข้าเล่นได้ และต้องรอถึงวันที่ 23 มิถุนายน 2022 ก่อนจึงจะเปิดให้เข้าเล่นกันได้ครับ ซึ่งถ้าใครอยากไปทดสอบตัวเกมก่อนก็อาจต้องหาวิธีกันไปล่ะนะ
แนะนำตัวเกมคร่าวๆ แล้วทีนี้มาดู “เหตุผล” กันดีกว่าว่าทำไมเราจึงไม่ควรพลาดเกมนี้กันครับ
เนื้อเรื่องเชื่อมโยงกับภาคหลัก
ถึงแม้ว่าในตอนเปิดตัว Diablo Immortal นั้นจะมีการระบุไว้ว่าเป็นภาคแยกก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นเนื้อเรื่องของตัวเกมภาคนี้ก็มีความเกี่ยวข้องกับตัวเกมภาคหลักพอสมควรเลยทีเดียว โดยตัวเกมจะดำเนินเรื่องราวอยู่ในไทม์ไลน์ช่วงหลังจบตัวเกม Diablo II: Resurrected และช่วงก่อนเข้าสู่ Diablo III นั่นเองครับ
ซึ่งเนื้อหาในภาคนี้ก็จะมีการเล่าถึงว่าเกิดเหตุการณ์อะไรบ้างหลังจากที่จบตัวเกมในภาค 2 ไปแล้ว ทั้งความเป็นอยู่ของเหล่ามนุษย์หลังจากที่ Tyrael ทำลาย WorldStone, Tyrael สร้างสวรรค์กลับมาใหม่ได้ยังไง, Deckard ทำอะไรไปบ้างหลังสงคราม, กลุ่มองค์กร Daemon Hunters ก่อตั้งขึ้นมาได้ยังไง ไปจนถึงเหตุผลที่ทำให้ Malthael ละทิ้งสรวงสวรรค์ไปเองก็ตามที
แถมภายในเกมเรายังจะได้พบกับตัวละครต่างๆ ทั้ง Deckard, Valla, XUL ไปจนถึงตัวละครสำคัญอื่นๆ เองก็ตามที บางครั้งยังได้ออกร่วมสู้กับพวกเขาด้วยอีกต่างหาก ดังนั้นใครที่เป็นสายเสพเนื้อเรื่องก็ไม่ควรพลาดตรงนี้อย่างเด็ดขาดเลยล่ะครับ เนื้อเรื่องทำออกมาได้น่าสนใจไม่แพ้ตัวเกมภาคหลักเลยล่ะ
เกมเพลย์ลื่นไหลคอมโบสนุก
หนึ่งในไฮไลท์เด่นประจำเกมเลยที่ไม่ยกมาพูดไม่ได้ก็คงเป็น “ระบบเกมเพลย์” ครับ ที่ตัวเกมยังคงมาในสไตล์เกมแนว Action RPG Hack&Slash เช่นเคย ซึ่งถึงแม้ภาค Immortal นี้จะถูกสร้างมาในแบบเกมมือถือก็จริงแต่ความสนุกก็ไม่ได้น้อยหน้าตัวเกมในภาคหลักเลยล่ะ แถมตัวเกมยังถูกจัดเป็นแนว MMO อีกต่างหากทำให้เราจะเจอผู้เล่นคนอื่นๆ มากมายตลอดการเดินทางไม่ต้องกลัวเหงาเลย
ส่วนถ้าพูดถึงความแตกต่างระหว่างภาคหลักกับ Immortal นี้คงเป็น “มานา” ตัวเกมในภาคหลักนั้นเราจะมีค่ามานากำกับไว้อยู่ถ้ามานาหมดก็ทำให้เราใช้สกิลไม่ได้ แต่ภายในภาคนี้จะไม่มีระบบมานามาให้ปวดหัวเราสามารถอัดสกิลเท่าไหร่ก็ได้ไม่ต้องกังวลเลยขอแค่คูลดาวน์เสร็จก็ใส่ต่อทันที ซึ่งพอเราไม่ต้องกังวลเรื่องมานาแล้วมันก็ทำให้เราอัดสกิลได้แบบรัวๆ ส่งผลให้การทำคอมโบภายในเกมนี้นับว่าสนุกมากทีเดียวเลยล่ะ
ซึ่งต้องบอกเลยว่าเกมเพลย์ภาคนี้ทำมาดีไม่แพ้ภาคหลักเลยครับ สำหรับเพื่อนๆ คนไหนที่เคยถูกใจในภาค II หรือ III มาก่อน พอได้มาลองเล่นในภาคนี้ก็คงจะถูกใจไม่แพ้กันอย่างแน่นอนเลยล่ะ แถมยิ่งเราเล่นไปไกลเท่าไหร่ความยากมันยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นยิ่งทำให้ตัวเกมสนุกขึ้นหลายเท่าเลยทีเดียวเป็นอีกเกมที่เล่นเพลินมากเลย
6 คลาสอาชีพคู่บุญประจำแฟรนไชส์
ตัวละครที่เราจะได้เล่นภายในเกม Diablo Immortal นี้จะมีอยู่ด้วยกัน 6 คลาสอาชีพครับประกอบด้วย Babarian, Wizard, Demon Hunter, Monk, Crusader และ Necromancer ครับ เป็นสายอาชีพพื้นฐานคู่บุญประจำแฟรนไชส์ Diablo เลยก็ว่าได้นั่นเอง
โดยทั้งหกคลาสภายในเกมนี้จะมีความแตกต่างคือเรื่องของ “ประเภทดาเมจ” ซึ่งจะมีการแบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ Physic – กายภาพ, Magical – เวทมนตร์ และ Hybrid – แบบผสม แถมแต่ละคลาสก็ยังมีสไตล์การเล่นไม่เหมือนกันอีกบางคลาสก็เป็นตัวบู๊แนวหน้า, บางตัวเป็นสายระยะไกล, บางตัวเน้นหลบเน้นไว อะไรทำนองนี้เป็นต้น ซึ่งการเลือกคลาสนี้ก็มีความสำคัญพอตัวเลยเพราะมันจะส่งผลต่อสไตล์การเล่นของเราด้วยนั่นเองครับ
ข้อดีอย่างนึงสำหรับการสร้างตัวละครภายในเกม Diablo Immortal นี้คือ “ไม่มีการล็อคเพศ” ครับ เราสามารถเลืือกเล่นได้หมดทั้งหญิง-ชาย แถมยังมีระบบการปรับแต่งใบหน้าที่ค่อนข้างละเอียดเลยด้วย ติดอยู่อย่างเดียวก็คือเรื่องทรงผมอาจจะน้อยไปหน่อยพอหยวนๆ ไปละกัน นอกจากนี้แฟชั่นภายในเกมก็สวยบาดใจมากเลยด้วยใครเป็นสายแนวแต่งตัวก็คงจะโดนใจตรงนี้ไปเต็มๆ เลยล่ะ
สกิลเยอะพร้อมปรับแต่งได้หลากหลาย
จากหัวข้อก่อนหน้านี้ที่ได้มีการพูดถึงระบบคลาสกันไปแล้ว ผมเลยจะยกหัวข้อที่เกี่ยวข้องอีกอย่างมาพูดถึงก็แล้วกันแถมยังเป็นหนึ่งไฮไลท์เด่นประจำเกมอีกอย่างเลยด้วยกับ “ระบบสกิล” ที่ภายในเกมมีมากมายหลายสกิลให้ได้เลือกใช้ แถมยังมีเอฟเฟต์มากมายให้ได้เลือกใช้งานด้วย
โดยแต่ละคลาสนั้นจะมีสกิลให้เราเลือกใช้กว่า 12 – 14 สกิลเลยทีเดียว ซึ่งสกิลใหม่ๆ นั้นจะมาจากการปลดล็อคเมื่อเลเวลถึงครับ แถมเรายังไม่ต้องมานั่งอัปเลเวลสกิลให้ปวดหัวอีกด้วยเพราะตัวเกมจะอัปให้อัตโนมัติทุกครั้งที่เราเลเวลอัป สิ่งที่เราต้องกังวลก็มีเพียงแค่ว่า “ใช้สกิลไหนดี” มากกว่า เนื่องจากเราสามารถนำไปสกิลไปใส่ในช่องคีย์ลัดได้เพียง 4 สกิลเท่านั้นเอง หรือจะเลือกจัด Build ต่างๆ แล้วสลับไปมาตามคอนเทนต์ก็ได้เช่นกันครับ
ความน่าสนใจอีกอย่างก็คือ “เอฟเฟกต์สกิล” ที่สามารถเปลี่ยนไปตามไอเทมที่เราใส่ได้อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น Babarian กับสกิล Hammer of the Ancients ที่เป็นการฟาดฆ้อนลงมาทุบทีเดียวจบ หากเราหาของ Legendary บางชิ้นมาใส่มันสามารถทำให้สกิลดังกล่าวชาร์จได้ หรือเพิ่มจำนวนสกิลให้ใช้ได้ติดต่อกันถึง 2 ครั้งเลยก็มี
ด้วยการที่ว่าไอเทมสวมใส่มันมีผลกับเรื่องของสกิลมันเลยทำให้การจัด Build ต่างๆ ภายในเกมนี้ค่อนข้างหลากหลายมากทีเดียวครับ ซึ่งการจัด Build เหล่านี้ตัวเกมก็มีแนะนำมาให้เราได้เลือกจัดตามอยู่ หรือเพื่อนๆ อยากลองผสมสูตรเป็นของตัวเองก็ทำได้ด้วยเช่นกัน เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์เด็ดประจำเกมที่อยากแนะนำมากทีเดียว
คอนเทนต์หลากหลายให้ได้เล่น
ถึงแม้เกมเพลย์หลักๆ ภายในเกม Diablo Immortal นี้จะเป็นการออกไปบู๊แหลกและผจญภัยเป็นหลัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทั้งเกมเราจะมีอยู่แค่ตีมอนไปเรื่อยๆ หรอกนะ เพราะภายในเกมก็ได้มีคอนเทนต์หลายอย่างมารองรับให้เราได้ทำกันอยู่ด้วย
เริ่มกันด้วย “ดันเจี้ยน” ภายในเกมนี้จะมีดันเจี้ยนหลากหลายแบบให้ได้เลือกทำกัน ตั้งแต่ดันเจี้ยนบอสทั่วไป, รีลิคดันเจี้ยน หรือแม้แต่ ชาเลนจ์ดันเจี้ยน เองก็ตามที ซึ่งแต่ละแบบก็มีของดรอปแตกต่างกันไปเราจะเลือกลงแบบเดี่ยว Solo หรือหาทีมไปลงแบบ Party ก็ทำได้เช่นกัน
ต่อมาก็คือ “เควส” เราจะมีภารกิจหลายอย่างให้ได้เลือกทำกันค่อนข้างเยอะครับ ตั้งแต่เควสป้าย Bounty Quest ให้เคลียร์กันวันละ 12 ครั้ง, เควสแนะนำจากหนังสือ Codex, รวบรวม Monster Essence มาปลดหนังสือ ไปจนถึงภารกิจอื่นๆ มีมาให้ทำกันยาวเลยล่ะ
หรืออย่าง “คอนเทนต์ PVP” ฟาร์มมอนตีบอสเบื่อแล้วอยากซัดหน้าคนก็ทำได้เช่นกัน ตัวเกมมีการรองรับระบบ PVP ให้เราได้ตบกันอยู่ แถมมีระบบแรงค์กิ้งมาใส่ไว้อยู่ด้วยยิ่งทำผลงานดีของรางวัลที่ได้ตอบแทนยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น
นี่ยังไม่นับเรื่องระบบมอนแรร์ตามแมพอีกนะ เรียกได้ว่ามีกันให้ทำค่อนข้างเยอะทีเดียวครับถึงแม้ผู้เล่นส่วนใหญ่จะสแปมการลงดันอย่างเดียวก็เถอะ เอาเป็นว่าใครกลัวไม่มีไรเล่นไม่มีอะไรทำก็ลองเข้ามาสัมผัสกันก่อนได้นะ ไม่เคว้งแน่นอน
ไม่ต้องเติมก็เล่นได้สบายหายห่วง
มาถึงหนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยว่า “สายฟรีเล่นไหวไหม” ผมก็จะตอบตรงนี้เลยว่า “ไหว” ครับ เพราะตัวเกมมีเนื้อหาและคอนเทนต์หลายๆ อย่างมาให้เราเล่นกันได้และสามารถพาตัวละครเราเติบโตได้ถึงแม้จะไม่ต้องเติมก็ตาม
ถึงแม้ภายในเกม Diablo Immortal นี้จะจัดเป็นเกมที่ Pay to Win หนักในระดับนึงเลย แต่ถึงอย่างนั้นเหล่าผู้เล่นสายฟรีก็ยังสามารถเก่งขึ้นได้ด้วยการ “ฟาร์ม” ครับ ไม่ว่าจะจากการลงดันเจี้ยนเอยหรือจากการไล่ตบตีกระทืบบอสก็ตามแต่แถมดันเจี้ยนในเกมนี้ยังลงได้เรื่อยๆ ไม่จำกัดรอบอีกด้วย มันเลยกลายเป็นว่าสิ่งที่เราต้องแลกมาก็คือ “เวลา” และ “ความเหนื่อย” นั่นเองครับ ซึ่งถ้าเราไม่ซีเรียสเรื่องอันดับหรือไปเก่งแข่งกับใครเราก็เล่นได้เรื่อยๆ ไม่ต้องไปกังวล
ส่วนถ้าใครคิดจะเปย์ให้ตัวละครเราเทพจริงๆ นั้นได้มีการคำนวนออกมาคร่าวๆ แล้วว่าอาจต้องสูญเงินกว่า $100,000 เหรียญสหรัฐ หรือกว่า 3 – 4 ล้านบาท เลยทีเดียว ซึ่งผมค่อนข้างมั่นใจว่าคงมีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนหรอกที่กล้าทุ่มเงินขนาดนั้น ดังนั้นใครกังวลว่าจะเจอมหาเทพวันฮิตคิลก็คงหายห่วงได้กันในระดับนึงเลยเพราะคงเจอได้ยากมากอารมณ์ประมาณว่าเจอก็เหมือนการถูกหวยนั่นล่ะ
ถือเป็นการจบบทความในหัวข้อ Diablo Immortal ทำไมจึงควรเล่นเกมนี้ กันไปแล้วนะครับ หวังว่าบทความนี้จะพอช่วยให้เพื่อนๆ ได้รู้จักเกมนี้กันมากขึ้นไม่มากก็น้อยล่ะน่ะ ส่วนใครที่กำลังรอเล่นเกมนี้อยู่แต่ไม่อยากมุดหรือหาวิธีดาวน์โหลดให้ยุ่งยากก็สามารถรอเซิร์ฟเวอร์ SEA เปิดภายในวันที่ 23 มิถุนายน นี้ได้เช่นกันครับผม