ใกล้หมดเวลาสำหรับหอคอยแห่งความสิ้นหวัง 2 ของเกม Honkai Impact 3 แล้วเพราะหลังจากรอบนี้หมดเวลาจะเริ่มหอคอยรอบใหม่ในทันทีอาจจะทำให้เก็บของรางวัลจากโหมดนี้ไม่ครบ สำหรับผู้เล่นคนไหนที่ยังเล่นไม่ครบอย่างลืมลงให้ครบนะ ใน 5 ชั้นสุดท้ายถือว่าเป็นชุดโหดหินสำหรับผู้เล่นในทุกระดับกันแล้ว แต่ก็อาจจะมีผู้เล่นบางคนสามารถผ่านได้ในครั้งเดียว มาดูกันว่าในชั้น 16 ถึงชั้น 20 จะเจอกับอะไรกันบ้าง!
หอคอยแห่งความสิ้นหวัง
มีให้เล่นได้ทั้งหมด 20 ชั้น โดยในแต่ละวันจะลงได้สูงสุด 5 ครั้งเท่านั้นและในด่านจะมีการ์ดสุ่มความสามารถพิเศษออกมาช่วยเราในการผ่านแต่ละด่าน ซึ่งชั้นปกติจะมีให้เลือก 2 ใบ ส่วนในชั้นที่เป็นบอสจะมีสุ่มมาให้เลือกทั้งหมด 3 ใบ แต่ทุกด่านเราจะเลือกได้แค่ใบเดียวเท่านั้น มาดูกันว่าในแต่ละชั้นจะต้องเจอกับศัตรูแบบไหนบ้างและการ์ดที่ควรเลือกในชั้นนั้นๆ เป็นใบไหนดี
ในแต่ละชั้นจะมีเวลาในการลงจำกัดแต่จะไม่เท่ากันทั้งหมดขึ้นอยู่กับศัตรูและจำนวนเวฟของชั้น สำหรับผู้เล่นเก่าน่าจะสามารถผ่านในแต่ละชั้นได้สบายๆ (อาจจะมียากบ้างในช่วงชั้น 15 ขึ้นไป) ส่วนสำหรับผู้เล่นใหม่ที่มาลองเล่นในเวลากิจกรรมช่วงชั้นแรกยังพอสามารถผ่านกันได้แบบไม่ต้องวนลงซ้ำเพื่อเก็บเอฟเฟกต์ต่อสู้ก่อนเยอะ หลังจากชั้น 10 ขึ้นไปอาจจะถือว่ายากพอสมควรแม้ว่าตัวการ์ดบัพจะมีส่วนช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่หากยังไม่สามารถลงผ่านได้ให้เน้นลงด่านเดิมซ้ำไปก่อนเพื่อเก็บเลเวลเอฟเฟกต์ต่อสู้ให้สูงขึ้นแทนแล้วลงใหม่อีกครั้ง
ชั้นที่ 16
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 16 คอมโบพิฆาต และ ดีบัพเพิ่มความเสียหาย]
ฉากในชั้น 16 ถึง 20 จะเป็นฉากห้องแลปใต้ดินถือว่าเป็นด่านแคปพอสมควร โดยศัตรูจะเจอเป็นพวกปีศาจฮงไกและเดธลี่ทั้ง 3 เวฟ บัพเอฟเฟคที่แนะนำสำหรับด่านนี้คือคอมโบพิฆาต เพราศัตรูจะเกิดกระจายตัวกันบัพนี้จะช่วยดูดรวบมารวมกันทำให้กำจัดศัตรูได้ง่ายยขึ้นมาก
ชั้นที่ 17
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 17 ได้รับ SP เริ่มต้น และ หยุดเวลาเพิ่มความเสียหาย]
ศัตรูในด่านนี้ช่วงเวฟ 1 และเวฟ 3 จะเป็นปีศาจฮงไกและเดธลี่อย่างละตัว ส่วนเวฟ 2 จะเจอเป็นปีศาจควอนตัม 2 ตัว ด่านนี้เน้นใช้บัพเอฟเฟคหยุดเวลาเพิ่มความเสียหายเน้นใช้สกิลที่มีเอฟเฟคอยู่เวลาบ่อยๆ หรือเน้นเล่น QTE มีหยุดเวลาหลายตัวจะช่วยให้ผ่านด่านนี้ได้ง่ายยิ่งขึ้ย
ชั้นที่ 18
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 18 ฟื้นฟูเต็มกำลัง และ สลับตัวเพิ่มความเสียหาย]
ชั้นนี้จะมีมินิบอสสองตัวซึ่งจะมีบัพกายาเหล็กทั้งคู่คือ Frost Emperor และ Flame Emperor แนะนำให้หยิบวาลคิเรียประเภทชีวภาพดาเมจหลักๆ ไปสู้เพราะทั้งสองตัวมีความถึกอย่างมากเน้นใช้ดาเมจสองคนคอยสลับตัว (สลับทันทีหรือเน้น QTE) เพื่อให้ได้รับบัพจาพสลับตัวเพิ่มความเสียหายตลอดจะช่วยให้รอดพ้นจากเจ้ามินิบอสสองตัวนี้มาได้ด้วยดี!
ชั้นที่ 19
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 19 หลุมดำมฤตยู และ สลับตัวเพิ่มความเสียหาย]
สำหรับในชั้นนี้ผู้เล่นที่มีของมากพอสามารถผ่านได้อย่างสบายเพราะศัตรูไม่หนามากเท่าไหร่ไม่เหมือนกับชั้นก่อนหน้านี้ ศัตรูมีหลายาชนิดส่วนใหญ่จะเป็นพวกเดธลี่ แนะนำบัพเอฟเฟคสลับตัวเพิ่มความเสียหายพร้อมกับวาลคิเรียสายดาเมจสัก 2 คนก็จะสามารถผ่านด่านนี้ได้ไม่ยากก่อนจะเจอของจริงในชั้นสุดท้าย
ชั้นที่ 20
[การ์ดบัพเอฟเฟคชั้นที่ 20 เสริมพลังแกร่ง, หยุดเวลาเพิ่มความเสียหาย และ ฟื้นฟูเต็มกำลัง]
ชั้นสุดท้ายจะเจอกับบอสแขนใหญ่สองสีมีเกราะที่หนาและแข็งมากๆ สำหรับด่านนี้ให้เน้นวาลคิเรียชีวภาพอย่าง Fu Hua : Night Squire, Herrscher of the Void เป็นต้น เพื่อใช้เป็นตัวดาเมจหลัก และอย่าลืมหยิบ Bronya : Yamabuki Armor ไปเพื่อสร้างเกราะป้องกันดาเมจกายภาพ หรือ Kiana : Divine Prayer, Theresa : Celestial Hymn มาใช้ในการลดเกราะของบอสทำให้โจมตีเข้าได้แรงขึ้น
เน้นโจมตีแขนให้แตกให้ได้ 1 ข้างแล้วยิงอัดดาเมจใส่ข้างนั้นเรื่อยๆ เพราะเมื่อเกราะแขนแตกจะโดนดาเมจเพิ่มมากขึ้นกว่าตีตัวของบอสเยอะมาก หลังจากบอกใกล้ตายจะเรียกสายฟ้าออกมาพยายามวิ่งล่อให้อยู่จุดเดียวเพราะมันจะอยู่บนพื้นนานมาก ถ้าไปเหยียบจะโดนดาเมจอย่างต่อเนื่องแถมยังแรงเอาเรื่องเลยทีเดียว ส่วนบัพเอฟเฟคแนะนำคือฟื้นฟูเต็มกำลัง ขณะโจมตีจะฟื้นเกจ SP ไวขึ้นอย่างมากทำให้สามารถใช้สกิลและท่าไม้ตายได้บ่อยขึ้น
หากสู้ไม่ไหวอย่าลืมเล่นด่านก่อนหน้าเพื่ออัพเอฟเฟคต่อสู้ก่อนแล้วมาลองลุยใหม่ดูนะ!
จบบทความนี้กันไปเรียบร้อยแล้วหวังว่าไกด์ชิ้นนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆนะ! ถ้าชอบก็มาติดตามกลุ่มของเราได้ที่ Honkai Impact 3 TH [-กลุ่มคนไทย-]